ตัวแทนชาวบ้านในอำเภอกระสัง บุรีรัมย์ รวมตัวถือป้ายบุกอำเภอทวงถามคืบหน้าหลังร้องตรวจสอบพฤติกรรมผู้ใหญ่บ้านปมข้าวเปลือกธนาคารข้าวกว่า 30 ตันหายและเงินผ้าป่า อำเภอแจงอยู่ระหว่างสอบข้อเท็จจริงคาดทราบผลสัปดาห์หน้า ด้านผู้ใหญ่บ้านโต้ถูกกล่าวหา บอกไม่ให้ข้อมูล
วันนี้ (24 ก.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น ได้พาตัวแทนชาวบ้าน หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ชุมแสง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ไปทวงถามความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้านเคยยื่นเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งที่ว่าการอำเภอกระสัง โดยกล่าวหาว่า ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวมีพฤติกรรมไม่โปร่งใส กรณีข้าวเปลือกในโครงการธนาคารข้าวของหมู่บ้านที่มีอยู่กว่า 30 ตันหาย ซึ่งเก็บไว้ในยุ้งฉางตั้งอยู่ใกล้กับร้านค้าชุมชนและศาลากลางหมู่บ้านหายเหลือแค่ 100 กว่ากระสอบ หรือประมาณ 5 - 6 ตันและมีพฤติกรรมอมเงินผ้าป่าที่ร่วมกันทำเพื่อถวายวัด ซึ่งเคยยื่นเรื่องร้องเรียนให้อำเภอตรวจสอบเมื่อ 2 - 3 เดือนก่อน
โดยชาวบ้านที่รวมตัวมาทวงถามความคืบหน้าที่ที่ว่าการอำเภอกระสัง ให้ข้อมูลว่า ธนาคารข้าวดำเนินการมาหลายปีแล้ว ผู้ใหญ่บ้านดำรงตำแหน่งมาหลายคนไม่เคยมีปัญหา แต่พอมาถึงผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบันมาบริหารจัดการกลับไม่โปร่งใส นำข้าวออกจากยุ้งโดยไม่แจ้งกรรมการหรือชาวบ้านรับรู้ ทำเองโดยพละการคนเดียว ทั้งยังมีพฤติกรรมไม่โปร่งใสเกี่ยวกับเงินผ้าป่าวัดด้วย จึงอยากให้มีการตรวจสอบและหากผิดจริงก็อยากให้เอาผิดทั้งวินัยและกฎหมาย
นางสอ ชาวบ้านรายหนึ่ง บอกว่า ตอนที่ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาดำรงตำแหน่งจากผู้ใหญ่คนก่อน ข้าวมีเต็มยุ้งแต่ทำไมตอนไปตรวจสอบเหลือแค่ไม่กี่กระสอบ และตนยืนยันว่าเห็นกับตาว่าผู้ใหญ่บ้านเป็นคนเอาข้าวออกจากยุ้งเอง บางครั้งก็พาพรรคพวกตัวเองมาเอา แต่กลับอ้างว่าข้าวที่หายไปเสื่อมสภาพเน่าเสีย ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะชาวบ้านมากู้และเก็บรวบรวมข้าวปีต่อปี จึงอยากให้ตรวจสอบหากผิดจริงก็อยากออกจากตำแหน่ง เพราะถือว่าทุจริตเนื่องจากข้าวดังกล่าวเป็นของส่วนรวมไม่ใช่ส่วนตัว แต่หากการร้องเรียนอำเภอครั้งนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็จะเดินหน้าฟ้องร้องตามกฎหมาย
ด้านนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บอกว่า ชาวบ้านได้ไปร้องเรียนกับตนเองว่าผู้ใหญ่บ้านมีพฤติกรรมไม่โปร่งใสโดยเฉพาะโครงการธนาคารข้าว แต่ยื่นเรื่องร้องที่อำเภอแล้วยังไม่มีคำตอบใดๆ จึงได้พาชาวบ้านมาติดตามความคืบหน้าที่ที่ว่าการอำเภอ ซึ่งทางอำเภอก็ชี้แจงว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง คาดว่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า แต่เบื้องต้นพบว่าผู้ร้องและผู้ใหญ่บ้านที่ถูกร้องให้ข้อมูลไม่ตรงกัน อย่างไรก็ตามหากสรุปผลการสอบแล้วชาวบ้านเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถใช้สิทธิ์แจ้งความหรือฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย
ขณะที่นายวิชยา คูณศรีสุข ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ปลัดอาวุโสอำเภอกระสัง กล่าวภายหลังเป็นตัวแทนมาพบและชี้แจงกับชาวบ้านว่า กรณีดังกล่าวชาวบ้านเคยมาร้องเรียนที่อำเภอ เมื่อเดือน ก.ค.67 ซึ่งนายอำเภอมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยได้มีการสอบฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องตามขั้นตอน แต่เมื่อมีชาวบ้านแจ้งเรื่องร้องเพิ่มเติมและมีพยานเพิ่มก็ต้องทำการสอบเพิ่มอีกคาดว่าจะแล้วเสร็จสัปดาห์หน้า ยืนยันว่าทางอำเภอจะดำเนินการสอบอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
จากนั้นชาวบ้านได้พาทีมข่าวลงพื้นที่ไปดูยุ้งที่เก็บข้าวโครงการธนาคารข้าวของหมู่บ้าน แต่ไม่สามารถเปิดดูข้าวได้ เนื่องจากผู้ใหญ่บ้านเป็นคนถือกุญแจเพียงคนเดียว จึงดูได้เพียงด้านนอก แต่ชาวบ้านได้นำคลิปตอนที่เจ้าหน้าที่จากทางอำเภอมาตรวจนับข้าวในยุ้งให้ทีมข่าวดู ซึ่งเหลือข้าวเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ชาวบ้านยืนยันว่าตอนเปลี่ยนผ่านจากผู้ใหญ่บ้านคนก่อนมาผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบันมีข้าวเปลือกเต็มยุ้งน่าจะไม่ต่ำกว่า 30 ตัน
จากนั้นทีมข่าวก็ได้ไปตามหาผู้ใหญ่บ้านที่ถูกร้องเรียนเพื่อจะสอบถามข้อมูลและให้ผู้ใหญ่บ้านได้มีโอกาสชี้แจงกรณีที่ถูกร้องเรียนกล่าวหา แต่ผู้ใหญ่บ้านบอกเพียงว่า ตนถูกกล่าวหา และเรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบของอำเภอ แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพและไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี