ฝนถล่มภาคเหนือหนักต่อเนื่อง
เชียงใหม่อ่วม
น้ำไหลหลากพัดบ้านพังทั้งแถบ
ลำปางยังท่วมหลายพื้นที่
ชัยภูมิน้ำซัดพนังกั้นแตก
กรมอุตุฯ เตือน 47 จังหวัดฝนถล่ม ส่วนกรมชลฯ แจ้งให้พื้นที่ริมแม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่ เฝ้าระวังน้ำเพิ่มสูง เสี่ยงท่วม ขณะที่ดอยม่อนล้าน ปิดเส้นทางหลังจากดินสไลด์ ชาวแม่ริม ระทม ดูบ้านพังต่อหน้าต่อหน้าพบกระแสน้ำซัดบ้านถล่มอีก 2 หลัง ลำปาง วิกฤตหนัก น้ำเหนือไหลบ่า ท่วมพื้นที่ เร่งระบายน้ำ 2 เขื่อน ส่วนที่ชัยภูมิ พนังกั้นน้ำพัง ทะลักท่วมบ้านเรือ พื้นที่การเกษตร 3,000 ไร่ ถนนตัดขาดหลายเส้นทาง
เมื่อวันที่ 24 กันยายน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมฝ่ายตะวันออกบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง และภาคใต้ตอนล่าง
อุตุฯเผยทะเล2ฝั่งคลื่นสูง1-2เมตร
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตั้งแต่ จ.พังงาขึ้นมา มีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตั้งแต่ จ.ภูเก็ตลงไป และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ชี้ภาคเหนือ-อีสานยังมีฝนหนัก
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่านแพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนมขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.ลพบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
ภาคตะวันออก-กทม.ตกร้อยละ60
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา และนราธิวาส ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากที่ จ.ระนอง พังงา ตรัง และสตูลตั้งแต่ จ.พังงา ขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตรตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
กรมชลฯเตือนริมน้ำปิงเฝ้าระวัง
ด้านนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทานแจ้งเตือนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำแม่น้ำปิงที่เพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันสถานีวัดระดับน้ำ P.1 (สะพานนวรัฐ) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีน้ำไหลผ่านประมาณ 352ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าคืนวันที่ 25 กันยายน 2567 ที่สถานีวัดระดับน้ำ P.1 จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านเพิ่มขึ้นประมาณ 438 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำสูงสุดที่ระดับ 3.90 เมตร เกินระดับวิกฤติ 20 เซนติเมตร อาจส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่เสี่ยงบริเวณบ้านป่าพร้าวนอก ร้านอาหารท่าน้ำ ทางลอดใต้สะพานป่าแดด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.เชียงใหม่ และหมู่บ้านจินดานิเวศน์
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงรับทราบพร้อมจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยง เพื่อสามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ทันที
ดอยม่อนล้านดินสไลด์ปิดเส้นทาง
ส่วนนายอานนท์ กุลนิล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา จ.เชียงใหม่ รายงานสถานการณ์ฉุกเฉินว่าเกิดฝนตกหนักและดินสไลด์ทำให้เส้นทางคมนาคมหลายสายได้รับความเสียหาย ได้แก่ ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1150 บ้านทุ่งห้า–เชียงราย ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1150 สู่ดอยม่อนล้าน บ้านแม่แวนน้อยซึ่งสภาพถนนถูกน้ำท่วม มีความเสี่ยงเกิดดินสไลด์ได้อีก จึงแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางบริเวณดังกล่าวโดยขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งแก้ปัญหา
แม่ริมอ่วมน้ำพัดบ้านพังอีก2หลัง
ขณะเดียวกัน ที่บ้านทรายมูล ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ภายหลังฝนตกหนักต่อเนื่อง จนเกิดกระแสน้ำเชี่ยวกราก กัดเซาะบ้านทั้งหลังพังเสียหาย จนไหลไปกับกระแสน้ำ นับตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ขณะนี้พบว่าน้ำได้ไหลลงสู่ลำน้ำแม่ริม จนทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน และกัดเซาะบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำจนพังถล่มเพิ่มเติมอีก 2 หลัง ทำให้มีบ้านพังเสียหายจากกระแสน้ำไปแล้ว 3 หลัง นอกจากนี้บริเวณตรงข้ามพื้นที่ ต.ริมเหนือ อ.แม่ริม ก็ถูกน้ำกัดเซาะจนบ้านเรือนอีกหลายหลังมีความเสี่ยงจะพังถล่มอีก ทางเจ้าหน้าที่จึงประกาศให้ชาวบ้านอพยพออกนอกพื้นที่
เจ้าของบ้านโอดสิ้นเนื้อประดาตัว
นางมุกดา อายุ 65 ปี เจ้าของบ้านที่พังถล่ม เปิดเผยว่า บุตรชายได้กู้ธนาคารมาสร้างบ้าน 5 แสนบาท โดยสร้างและอาศัยอยู่ได้ประมาณ 3 ปี จนมาถูกน้ำกัดเซาะจนพังและไหลไปกับกระแสน้ำ ตนได้แต่ยืนดูบ้านพังไปต่อหน้าต่อตา รู้สึกเสียใจมากเพราะเหมือนสิ้นเนื้อประดาตัว ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะทำอย่างไร คงต้องไปอาศัยอยู่กับญาติก่อน หลังจากนี้ก็คงไปหาพื้นที่ใหม่อาศัย คงไม่กลับมาอยู่ที่เดิมแล้ว เพราะรู้สึกกลัวจะเกิดเหตุซ้ำ แม้ว่าจะอยู่อาศัยมานาน แต่ก็ไม่เคยเกิดเหตุที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน
นอภ.แม่ริมเร่งช่วยเหลือชาวบ้าน
ส่วนนายวัชระ เทพกัน นายอำเภอแม่ริม กล่าวว่า มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมกว่า 1,000 ครัวเรือน โดยยังมีอีกประมาณ 6 หมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมขัง เนื่องจากน้ำแม่ริมยังล้นตลิ่งอยู่ สำหรับบ้านริมน้ำที่พังถล่ม ทางอำเภอจะประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งให้การช่วยเหลือ ในส่วนของบ้านที่เสียหายทั้งหลัง ไม่เกินหลังละ 49,500 บาท ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอกับความเสียหาย แต่ทางอำเภอจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป
เขื่อนในลำปางเร่งระบายน้ำเพิ่ม
ที่ จ.ลำปาง นายชัชวาลย์ฉายะบุตร ผวจ.ลำปาง กล่าวถึงสถานการณ์น้ำว่าเนื่องจากเขื่อนกิ่วคอหมารับปริมาณน้ำเพิ่มจาก อ.วังเหนือ จึงมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจำนวนมากจนเกินความจุแล้ว ทำให้ต้องระบายน้ำออกเพิ่มเติม ในระดับ 150-250 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที โดยทางสำนักงานชลประทาน จะเร่งดำเนินการ รวมทั้งจะมีการประชุมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนพื้นที่ท้ายน้ำ ทั้งที่ ต.วิเชตนคร ต.ปงดอน ต.แจ้ห่ม และ ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น ขอให้ประชาชนที่อยู่ริมน้ำวัง เร่งเก็บของขึ้นที่สูง และเตรียมพร้อมเผชิญสถานการณ์น้ำ
ส่วนเขื่อนกิ่วลม ปัจจุบันระบายน้ำอยู่ที่ 220 ลบ.ม./วินาที โดยรับมวลน้ำจากเขื่อนกิ่วคอหมาจึงเริ่มระบายน้ำช่วงเวลา 20.00 น.วันเดียวกันนี้ ในอัตรา 320 ลบ.ม./วินาที ไม่เกิน 375 ลบ.ม./วินาที โดยมวลน้ำจะเริ่มมีผลกระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำของแม่น้ำวัง พื้นที่ อ.เมือง จ.ลำปาง
ลำปางกระทบหลายอำเภอจมน้ำ
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมจาก อ.เมืองอ.ห้างฉัตร อ.เกาะคา อ.เสริมงาม จ.ลำปาง มวลน้ำจะไปรวมกันในแม่น้ำวัง มีมวลน้ำมากถึง 800 ลบ.ม./วินาที ส่งกระทบกับพื้นที่ อ.สบปราบ อ.เถิน และ อ.แม่พริก คาดว่าปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นในวันที่ 25-26 กันยายนนี้ จึงขอให้เตรียมพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สำหรับพื้นที่หน้าวัดบ้านจำทรายมูล หมู่ 6 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง น้ำได้ท่วมถนนห้างฉัตร-เกาะคา ระดับน้ำสูงประมาณ 60 เซนติเมตร น้ำยังคงไหลแรง รถเล็กไม่สามารถผ่านเส้นทางได้ ขณะเดียวกัน ระดับน้ำในแม่น้ำวัง เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนริมสองฝั่งหลังจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ระบายน้ำเพิ่ม จนมีปริมาณน้ำไหลลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อน อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลนครลำปาง ได้แจ้งเตือนประชาชนเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง รวมทั้งขนย้ายยานพาหนะด้วย
หนองคายน้ำไหลท่วมหลายจุด
ที่ จ.หนองคาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ได้เกิดน้ำไหลบ่าอย่างรุนแรงที่บ้านดงบัง ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ บ้านวังน้ำมอก อ.ศรีเชียงใหม่ และบ้านผาตั้ง อ.สังคม ซึ่งไหลมาจากพื้นที่ อ.บ้านผือ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ก่อนจะมาสมทบกับน้ำในพื้นที่ อ.โพธิ์ตาก ที่มีรอยต่อ อ.ศรีเชียงใหม่ จากนั้นมวลน้ำจะไหลลงห้วยโมง และลงสู่แม่น้ำโขง โดยทำให้เกิดน้ำเอ่อทะลักท่วมพื้นที่บ้านเรือนบางหลังที่อยู่ริมน้ำ จนน้ำท่วม รวมถึงพื้นที่ทางการเกษตร นอกจากนี้กระแสน้ำที่ไหลแรง ยังทำให้รถขนาดเล็กสัญจรไปได้อย่างยากลำบาก
ผญบ.บ้านดงชี้จมน้ำนับสัปดาห์
นายจำลอง รักธรรม ผู้ใหญ่บ้านดงบัง กล่าวว่า ได้เกิดน้ำท่วมนานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ รองรับน้ำที่ไหลมาจาก อ.ศรีเชียงใหม่ และบางส่วนจาก อ.โพธิ์ตาก คาดว่าน้ำจะมีปริมาณสะสมมากขึ้นอีก จนทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าวซ้ำอีก ที่ผ่านมา มีเกษตรกร 111 ราย ได้แจ้งความเสียหายไว้แล้ว โดยเป็นนาข้าว รวม 1,097 ไร่ บ่อปลา 52 ไร่ และสวนปาล์ม 673 ไร่ แต่เกษตรกรยังแจ้งไม่หมด คาดว่ามีพื้นที่ประมาณ 4,500 ไร่ ที่ได้รับผลกระทบ
พบนาข้าว-พืชสวนเสียหายยับ
อย่างไรก็ตาม มวลน้ำก้อนนี้คาดว่าจะไหลไปยังสถานีสูบน้ำที่ 6 ในช่วงคืนวันเดียวกันนี้ โดยน้ำบางส่วนระบายลงแม่น้ำโขงได้ แต่ส่วนใหญ่ต้องใช้การสูบน้ำเนื่องจากน้ำโมง ลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขงหนุนสูง ในพื้นที่บ้านดงบังท่วมมานานกว่า 1 สัปดาห์ ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1.68 เมตร ถือว่าน้ำท่วมสูงมาก นาข้าวเสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีมีสวนส้ม สวนมะพร้าว ซึ่งเกษตรกรเปลี่ยนจากนาข้าวเป็นสวนผลไม้ ก็ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ได้รับความเสียหายเช่นกัน
ชัยภูมิพนังกั้นน้ำพัง-ทะลักท่วม
ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ วันเดียวกัน ภายหลังฝนตกตลอดทั้งวันทั้งคืน ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาภูแลนคา ไหลลงสู่ลำห้วยต่างๆ ในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.คอนสวรรค์ เป็นจำนวนมาก ทำให้พนังกั้นน้ำลำห้วยโสก หมู่ 11 ต.บ้านโสก อ.คอนสวรรค์ พังเสียหาย มวลน้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือน โรงเลี้ยงสัตว์ พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 23 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมกว่า 3,000 ไร่ ทาง อบต.บ้านโสก ได้ประสานปศุสัตว์ ช่วยนำโคขุนของชาวบ้านขึ้นที่สูงเป็นการด่วน
น้ำป่าภูแลนคาล้นลำห้วยเข้าท่วม
ทั้งนี้ น้ำป่าจากเทือกเขาภูแลนคาไหลลงสู่ลำปะทาว และส่วนหนึ่งไหลออกไปยังลำห้วยยาง และไหลลงสู่อ่างห้วยโสก ก่อนที่จะไหลลงสู่ลำห้วยสาขาไส้ไก่ตามหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งน้ำได้เอ่อล้นตลิ่ง โดยพนังกั้นน้ำลำห้วยโสก พังเสียหายกว่า 10 เมตร พื้นที่ อ.คอนสวรรค์ ได้รับผลกระทบ กว่า 20 หมู่บ้านใน ต.ยางหวาย ต.ลาดใหญ่ และ ต.คอนสวรรค์ ทำให้น้ำท่วมครั้งนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 4 ตำบล 2 อำเภอ ถนนหลายสายในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมพื้นที่บ้านลาดใหญ่ ต.คอนสวรรค์ มีน้ำท่วมเป็นระยะทางกว่า 500 เมตร
อย่างไรก็ตาม ทาง อบต.บ้านโสก ได้ประสานเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ช่วยขนย้ายโคขุนและสัตว์เลี้ยงในพื้นที่แล้ว เนื่องจากโคขุนต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์ในการขนย้ายด้วยความระมัดระวัง
ระดมกระสอบทรายแจกชาวบ้าน
ขณะที่นายกาญกาญจนวงศ์สกุล นายอำเภอคอนสวรรค์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งว่าจะมีฝนตกและมีน้ำท่วมฉับพลัน จึงประสานผู้นำชุมชนประกาศแจ้งเตือนให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเกิดน้ำท่วมขึ้นมาซึ่งทาง อบต.บ้านโสก ได้ระดมเจ้าหน้าที่ นำกระสอบทรายไปแจกจ่ายให้ชาวบ้าน และนำเครื่องสูบน้ำไปช่วยระบายน้ำออกจากบ้านเรือนชาวบ้าน รวมทั้งเร่งกำจัดวัชพืชตามแหล่งน้ำเพื่อเปิดทางน้ำไหลออกได้เร็วขึ้นเมื่อน้ำลดแล้ว ก็จะลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
ครม.เห็นชอบงดเว้นค่าไฟฟ้า
อีกด้านหนึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับค่าไฟฟ้าเดือนกันยายน-ตุลาคม2567 โดยในเดือนกันยายนจะไม่เรียกเก็บค่าไฟฟ้า ส่วนเดือนตุลาคมจะให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าร้อยละ30 กำหนดให้เป็นส่วนลดก่อนคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี