น้ำปิงไหลทะลักท่วมเข้าตัวเมือง

‘เชียงใหม่’หนัก

2เขื่อนใหญ่ลำปางเร่งระบายน้ำ

กว๊านพะเยาเอ่อท่วมรอบ2

อุตุเตือน50จังหวัดฝนถล่ม

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำปิงทะลักท่วมหลายพื้นที่ ระดับน้ำเพิ่มต่อเนื่อง พะเยาน้ำล้นกว๊าน ท่วมซ้ำอีกรอบ ลำปางฝนหนัก 2 เขื่อนใหญ่ เร่งระบายน้ำเพิ่ม หลายหมู่บ้านท่วมแล้ว สุโขทัยคันดินพังน้ำยมทะลักท่วมถนนถูกตัดขาดท่วม 100 หลัง เขื่อนเจ้าพระยา ปรับระบายน้ำเพิ่ม เตือนจังหวัดพื้นที่เสี่ยงท้ายน้ำรับมือนายกฯจ่อลงพื้นที่เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์แม่น้ำปิง ล้นตลิ่ง ว่ายังคงขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง โดยล้นพนังกั้นน้ำชุมชนป่าพร้าวนอก ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ นับตั้งแต่คืนที่ผ่านมา ก่อนจะขยายออกไปยังชุมชนต่างๆ ส่วนช่วงเช้า จุดวัดระดับน้ำ P1 เชิงสะพานนวรัฐ วัดได้ 4.45 เมตร เกินจุดวิกฤติที่ 3.70 เมตร ขณะที่ตัวเมืองระดับน้ำ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 2-3 เซนติเมตร

เชียงใหม่น้ำท่วมขยายวงกว้าง

สำหรับระดับน้ำที่ล้นตลิ่งได้ขยายวงกว้าง เข้าท่วมหลายชุมชน ตั้งแต่ชุมชนป่าพร้าวนอก ชุมชนป่าแดดบางส่วน ชุมชนสันป่าข่อย ถนนเจริญประเทศเกือบทั้งสาย บริเวณสำนักงานป่าไม้เชียงใหม่ โรงเรียนมงฟอร์ตประถม โรงเรียนพระหฤทัยฯ วัดชัยมงคล โดยระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 40-60 เซนติเมตร บางจุดท่วมเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้น้ำยังท่วมไปยังถนนช้างคลาน ตั้งแต่หน้าโรงแรมแชงกรีล่า จนถึงทางลอดป่าแดด รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ หลายโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ มีการประกาศหยุดการเรียนการสอนแล้ว

อุทกวิทยาเชียงใหม่แจ้งเตือนภัย

ขณะที่รายงานข้อมูลระดับน้ำแม่แตง จากสถานีเตือนภัยล่วงหน้า บ้านห้วยป่าซาง ต.กี้ดช้าง อ.แม่แตง วัดได้ 4.51 เมตร (ค่าวิกฤต 5.00 เมตร) มีสัญญาณไฟสีเหลือง ส่วนอุทกวิทยาที่ 1 เชียงใหม่ จึงแจ้งข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการเตือนภัย โดยระดับน้ำอาจทำให้เกิดน้ำลันตลิ่งพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณหมู่บ้านท้ายน้ำลำน้ำแม่แตง และไหลสมทบลงแม่น้ำปิง ในลำดับถัดไป

กรมชลฯคาดน้ำปิงเพิ่มสูงอีก

ด้านกรมชลประทาน รายงานสถานการณ์แม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่ ว่าสถานีวัดระดับน้ำ P.1 สะพานนวรัฐ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 549 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 87 เซนติเมตร (ระดับตลิ่ง 3.70 เมตร) คาดการณ์ว่าช่วงกลางดึกวันเดียวกันนี้ ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากระดับตลิ่งประมาณ 1.30 เมตร จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวแม่น้ำปิง ได้แก่ โซนที่ 1 บ้านป่าพร้าวนอก(บางส่วน) ร้านอาหารท่าน้ำ ทางลอดใต้สะพานป่าแดด โซนที่ 2 ถนนเจริญประเทศ ป่าไม้เชียงใหม่ โรงเรียนมงฟอร์ตประถม วัดชัยมงคล บ้านป่าพร้าวนอก หมู่บ้านเวียงทอง โซนที่ 3 บ้านเด่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่(บ้านเด่น) หมู่บ้านจินดานิเวศน์

โซนที่ 4 ห้างริมปิงซุปเปอร์ วัดท่าสะต๋อย ตลาดทองคำ ค่ายกาวิละ ถนนกองทราย ตลาดสันป่าข่อย(บางส่วน) โซนที่ 5 ตลาดหนองหอย ถนนเกาะกลาง โรงเรียนมงฟอร์ตมัธยม โรงเรียนกาวิละ วัดเมืองสาตรหลวง วัดเมืองสาตรน้อย หมู่บ้านปาล์มสปริงส์ วัดเมืองกาย ถนนราษฎร์อุทิศ โซนที่ 6 ถนนช้างคลาน ไนท์บาร์ซาร์ สี่แยกแสงตะวัน วัดหัวฝาย และโซนที่ 7 กาดหลวง กาดเมืองใหม่ สถานีรถไฟ บ้านต้นขาม หมู่บ้านปาล์มสปริงส์ ถนนเจริญ ถนนแก้วนวรัฐ วัดสิงห์คำ พื้นที่เวียงกุมกาม เฝ้าระวังระดับน้ำจากฝนที่ตกสะสมในพื้นที่ เตรียมยกของขึ้นที่สูงและนำยานพาหนะไปจอดในที่ปลอดภัย พร้อมกับเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและติดตามการแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิด

นทท.ติดค้างรีสอร์ทแม่ฮ่องสอน

ที่ จ.แม่ฮ่องสอน นายอเนก ปันทะยม นายอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน รับรายงานเหตุมีนักท่องเที่ยวติดอยู่ในรีสอร์ท ปายริเวอร์ไซด์ golden hut คันนารี่เกสท์เฮ้าส์ ปายในฝัน มีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล 2 คนติดอยู่ภายใน จึงรายงานเหตุไปยังนายชูชีพ พงษ์ไชย ผวจ.แม่ฮ่องสอน ก่อนมีการเร่งเข้าให้การช่วยเหลือ รวมทั้งได้สั่งการให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอปาย เฝ้าติดตามปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ต้นน้ำปาย ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ ต.เวียงเหนือ ต.เวียงใต้ และ ต.แม่ฮี้ โดยมีหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ รวม 6 หมู่บ้าน

พะเยาน้ำป่าหลากในหลายพื้นที่

ส่วนที่ จ.พะเยา สถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ยังเกิดน้ำท่วม ภายหลังฝนตกหนัก โดยมีน้ำป่าไหลหลากในหลายอำเภอ ขณะเดียวกัน น้ำในกว๊านพะเยา ก็เกินปริมาณกักเก็บ ทำให้เอ่อล้นท่วมพื้นที่เศรษฐกิจอีกรอบ โดยเฉพาะถนนรอบชายกว๊าน ตั้งแต่แยกประตูเหล็กถึงท่าเรือวัดและร้านค้าโดยรอบชายกว๊าน ต้องมีการเร่งเสริมกระสอบทรายกั้นมวลน้ำที่ล้นเข้ามา

กว๊านพะเยาน้ำล้นท่วมซ้ำอีกหน

ขณะที่สำนักงานโครงการชลประทานพะเยา แจ้งว่าน้ำในกว๊านพะเยา มีปริมาตร 61.626 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ซึ่งเกินปริมาณกักเก็บแล้ว ดังนั้นจึงต้องเปิดประตูระบายน้ำ เพิ่มการระบายลงสู่ลำน้ำอิง ขอให้ประชาชนทั้งสองฝั่งลำน้ำอิง เตรียมความพร้อมขนของขึ้นที่สูง เสริมคันดิน วางแนวกระสอบทราย เตรียมการระบายน้ำ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ลำปางหลายหมู่บ้านยังจมบาดาล

ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมู่บ้านนาแส่ง ต.นาแส่ง และบ้านนากิมเหนือ ต.นาแก้ว อ.เกาะคา จ.ลำปาง ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนที่อยู่ใกล้แม่น้ำวัง นับตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา โดยระดับน้ำอยู่ที่ 30 เซนติเมตร-1 เมตร บางจุดลึกกว่า 1 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนระดับน้ำที่ยังไม่ลดลงเนื่องจากมีฝนตกอีกครั้ง ทำให้น้ำยังมีทีท่าว่าจะเพิ่มสูง เนื่องจากเขื่อนกิ่วลม และเขื่อนกิ่วคอหมา มีการปล่อยน้ำลงมา เหตุเกิดจากฝนที่ตกชุกในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยหลวงและอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท อ.วังเหนือ ที่เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำวัง จนเกินความจุ จึงจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำจากเขื่อนทั้งสอง

เขื่อนกิ่วลมเพิ่มการระบายน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เขื่อนกิ่วลม ได้เพิ่มการระบายน้ำที่อัตรา 324 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนในเขตเทศบาลนครลำปาง ในพื้นที่ลุ่มต่ำทั้งสองฝั่ง และพื้นที่ท้ายน้ำวัง ลงไปใน อ.เกาะคา จึงแจ้งเตือนชาวบ้านให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต่อมาพบว่าระดับน้ำที่สะพานรัชฎา เพิ่มสูงอยู่ในระดับสีแดง แล้ว ส่วนระดับน้ำที่บริเวณสะพานเสตุวารี วัดได 3.7 เมตร ทำให้ริมตลิ่งน้ำเริ่มทะลักท่วมสู่ถนนเลียบแม่น้ำวัง และบ้านเรือนที่อยู่ติดริมน้ำ

นอกจากนี้ มีรายงานอีกว่าสะพานข้ามลำห้วยแม่น้ำตุ๋ย บ้านน้ำโท้ง ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง คานกลางสะพานและเสาค้ำกลางสะพาน ทรุดเอียง ทางเทศบาล ต.บ่อแฮ้ว จึงประกาศเตือนห้ามรถทุกชนิดผ่านโดยเด็ดขาด ซึ่งสะพานดังกล่าวเริ่มทรุดตัวหลังจากเกิดน้ำป่าไหลหลากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

สุโขทัยคันดินพังน้ำยมจม100หลัง

ที่ จ.สุโขทัย สถานการณ์น้ำท่วมที่ริมแม่น้ำยม พบว่าสะพานในพื้นที่หมู่ 6 บ้านท่าช้าง ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง คันดินถูกน้ำกัดเซาะจนขาดเป็นแนวยาวกว่า 20 เมตร มวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนขยายวงกว้าง โดยเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 3 บ้านบางคลอง อ.เมือง จ.สุโขทัย บ้านเรือนได้รับผลกระทบเกือบ 100 หลังคาเรือน จากกระแสน้ำที่ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว

ตร.ปิดการจราจรถนนสายหลัก

ส่วนถนนจรดวิถีถ่อง สายสุโขทัย-ศรีสำโรง ระดับน้ำสูงจากผิวจราจร ประมาณ 60 เซนติเมตร ระยะทางยาว 200 เมตร โดยถนนดังกล่าวเป็นถนนสายหลักในการสัญจรเข้าตัวเมืองสุโขทัย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดการจราจรทั้งฝั่งขาขึ้นและขาล่อง ตั้งแต่สี่แยกไฟแดง (ท่าช้าง) จนถึงบริเวณหน้าวัดศรีสังวร เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง เกรงว่าจะเกิดอันตราย น้ำยังไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้าที่อยู่ริมถนน โดยเฉพาะฝั่งตะวันตกซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับแม่น้ำยม ทำให้ชาวบ้านและกู้ภัย ต้องรีบช่วยกันขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง บางรายต้องขนย้ายออกจากบ้านไป หรือบางรายขนย้ายไม่ทันจำต้องปล่อยให้จมน้ำไป แล้วอพยพออกมาอาศัยอยู่บ้านญาติ หรือพื้นที่ปลอดภัย

น้ำป่าภูผาล้อมหลากท่วมจ.เลย

ขณะที่ จ.เลย นับตั้งแต่กลางดึกคืนที่ผ่านมา ได้เกิดน้ำป่าจากภูผาล้อม ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่หมู่ 2 และหมู่ 8 บ้านเพีย ต.น้ำสวย อ.เมือง จ.เลย โดยชาวบ้านต่างพากันขนของหนีน้ำอย่างโกลาหล ซึ่งระดับน้ำบริเวณบ้านที่อยู่ริมคลอง ลึกประมาณ 1 เมตร ทรัพย์สินที่ขนย้ายไม่ทัน ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมทั้งน้ำยังหลากข้ามถนนตั้งแต่บ้านไร่ทาม จนถึงบ้านสูบ ต.น้ำสวย อ.เมือง จ.เลย หลายจุด รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ระดับน้ำสูง 50-70 เซนติเมตร

พ่อเมืองเลยรุดแก้ปัญหาในพื้นที่

นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผวจ.เลย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากที่บ้านเพีย ต.น้ำสวย อ.เมือง จ.เลย โดยพบว่ามีบ้านเรือนได้รับผลกระทบประมาณ 100 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 40-90 เซนติเมตร ถนนสายไร่ทาม-โนนภูทอง ถูกน้ำท่วมระยะทางประมาณ 300 เมตร มีรถยนต์เสียหายหลายคัน และก่อนถึงบ้านหนองดอกบัว น้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 10 หลังคาเรือน

เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม

วันเดียวกัน กรมชลประทาน แจ้งว่าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำอีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำเหนือที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ 1,333 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนต่ำกว่าตลิ่ง 4.12 เมตร ซึ่งการปรับเพิ่มการระบายน้ำดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย รวมทั้งพื้นที่เสี่ยงบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ได้แก่ 1.คลองโผงเผง จ.อ่างทอง 2.คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ 3. ต.หัวเวียง อ.เสนา , ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ดังกล่าวเฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และหากมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำ กรมชลประทาน จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ

นายกฯบินลงเชียงใหม่ศุกร์นี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ว่าได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว และมีการพูดคุยกับรองนายกฯ โดยศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ก็ดูแลเต็มที่ ส่วนการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์นั้น กำลังพิจารณาดูวัน ว่าจะเป็นวันเสาร์-อาทิตย์นี้ หรือวันศุกร์ เพื่อพูดคุยกับหน่วยราชการ

ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธาน ศปช.เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 กันยายนนี้ นายกฯ พร้อมด้วยรองนายกฯ และคณะ จะลงพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์แก้ปัญหาและตรวจเยี่ยมการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยจะมีการประชุมที่สนามบิน เพื่อติดตามสถานการณ์ โดยเฉพาะการดูดโคลนและการเยียวยา ซึ่งรองนายกฯ จะแยกกันลงพื้นที่

อุตุฯเตือน50จว.รับมือฝนหนัก

ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังอ่อน ขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมฝ่ายตะวันออกบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

อันดามัน-อ่าวไทยคลื่นสูง2เมตร

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย มีกำลังอ่อน ทำให้ทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ภาคตะวันออกฝนตกร้อยละ80

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส และภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่