ผลิตภัณฑ์โครงการพระราชดำริทั่วไทย ขึ้นแท่นมาตรฐาน อย. กว่า 70 รายการ
สำนักงาน กปร. และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมขับเคลื่อนพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในด้าน อาหารปลอดภัย พร้อมเพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย และขยายตลาดแก่เกษตรกร โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐาน อย. แล้วกว่า 70 รายการ
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้ง 6 แห่งได้จัดตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร เพื่อศึกษา วิจัย ทดลอง ภายใต้บริบทภูมิประเทศและภูมิสังคม จนประสบความสำเร็จแล้วขยายผลสู่ประชาชน อาทิ การปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ การแปรรูปผลผลิต ตลอดจนการพัฒนาด้านต่าง ๆ จวบจนปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อให้สร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนอย่างครอบคลุม เพิ่มศักยภาพในการดำเนินชีวิต ประชาชนอยู่ดีกินดี โดยมีสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( สำนักงาน กปร. ) ทำหน้าที่ประสานการดำเนินงานกับส่วนงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน
ปัจจุบันมีการขยายผลการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ผ่านศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริมากถึง 221 แห่ง กระจายในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ พฤษภาคม 2567) เพื่อเป็นแหล่งถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ นับตั้งแต่เกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ การประมง ปศุสัตว์ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปจนถึงการแปรรูปและหัตถกรรม
นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. เปิดเผยว่า ในปี 2567 สำนักงาน กปร. ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคของศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ศูนย์สาขาและเกษตรกรในเครือข่าย จนได้รับมาตรฐาน อย. มากกว่า 70 รายการ ซึ่งจะทำให้สินค้าของศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ เป็นที่ยอมรับ และเกษตรกรมีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น
“มีการจัดตั้งอาคารร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานชื่อร้าน จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย อาคารสิริพัฒนภัณฑ์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ จังหวัดจันทบุรี ร้านเลิศพัฒนภัณฑ์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ จังหวัดสกลนคร ร้านบวรพัฒนภัณฑ์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ จังหวัดเพชรบุรี และร้านพิกุลเกษตรภัณฑ์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จังหวัดนราธิวาส นอกจากนี้ยังมีร้านพวงครามที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจะมีการนำผลิตภัณฑ์อาหารที่ผ่าน อย. มาให้ ชม ชิม และช้อปภายในงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร” ระหว่างวันที่ 12 - 15 ธันวาคม 2567 ณ เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก จากนั้นจะเริ่มวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศและทางออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้อย่างทั่วถึงต่อไป” นางสุพร ตรีนรินทร์ กล่าว
ด้านนางกัญญารัตน์ สุนทรา รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี เผยว่า ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ได้พัฒนาต่อยอดงานศึกษาวิจัยหลายรายการ โดยเฉพาะสาหร่ายผักกาดทะเล ซึ่งเป็นผลผลิตที่โดดเด่นของศูนย์ และเป็น Super food น้องใหม่ที่ได้รับการพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์ในตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น เส้นบะหมี่ ข้าวเกรียบ น้ำสาหร่ายผักกาดทะเล ตลอดถึงเวชสําอาง อาทิ สเปรย์แอลกอฮอล์ สบู่ เซรั่ม “ที่ผ่านมาทางศูนย์ฯ ได้ขยายผลสู่เกษตรกรในพื้นที่มากกว่า 20 ครัวเรือน สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 1 ล้านบาทต่อปี ทำให้ความเป็นอยู่ของราษฎรดีขึ้น” นางกัญญารัตน์ สุนทรา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี