'นพดล'ชื่นชมทุกหน่วยงานปราบซิมผี-บัญชีม้า พร้อมหนุนรัฐบาล'แพทองธาร'แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แนะรีบคืนเงินเหยื่อมิจฉาชีพ

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2567 นายนพดล กรรณิกา นักวิชาการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ได้ออกมาหนุนแนวทางการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดกว่า 2,100 รายในช่วงเวลาเพียง 16 วัน ระหว่างวันที่ 10-25 กันยายน 2567 โดยมีเป้าหมายหลักเป็นการปราบปรามซิมผีและบัญชีม้า ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการทำธุรกรรมอาชญากรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพทางออนไลน์

นายนพดล กล่าวว่า “การดำเนินการครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานที่มีประสิทธิภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), สำนักงาน กสทช., ธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ที่ร่วมมือกันปิดช่องโหว่ในการใช้งานซิมการ์ดและบัญชีธนาคารโดยมิชอบ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ที่ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหามิจฉาชีพทางเทคโนโลยีอย่างเด็ดขาด"

ทั้งนี้ นายนพดล ยังแสดงการสนับสนุนต่อรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ในการออกนโยบายปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพทางออนไลน์ โดยชี้ว่าปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องการการแก้ไขอย่างจริงจัง และการดำเนินการของหน่วยงานต่างๆ ในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการตัดวงจรอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

นายนพดล ยังเสนอแนะเพิ่มเติมว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันอาชญากรรมในอนาคต ควรพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจสอบข้อมูลแบบเรียลไทม์ ที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมการใช้ซิมการ์ดและบัญชีธนาคารที่ผิดปกติอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ควรมีการรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการให้หมายเลขโทรศัพท์หรือบัญชีธนาคารแก่ผู้อื่นใช้งาน เพื่อป้องกันการถูกหลอกใช้เป็นบัญชีม้า

ทางด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ได้แถลงถึงความสำเร็จในการจับกุมซิมผีและบัญชีม้ากว่า 870 คดี รวมถึงคดีหลอกลวงทางเทคโนโลยีและพนันออนไลน์ ทั้งนี้ ได้เตือนประชาชนให้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ตนเปิดใช้งาน และปิดหรือยกเลิกหมายเลขที่ไม่ได้ใช้งานทันที เพื่อป้องกันไม่ให้หมายเลขถูกนำไปใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.เอกธนัช ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่ามีบัญชีเสี่ยงที่จะเป็นบัญชีม้ากว่า 500,000 บัญชี และกำลังร่างกฎหมายเพื่อคืนเงินแก่ผู้เสียหายจากบัญชีเหล่านี้ คาดว่าจะเริ่มกระบวนการคืนเงินได้ภายในต้นปี 2568

นายนพดล กล่าวเพิ่มเติมว่า ปปง. ควรเร่งพัฒนากฎหมายและเครื่องมือการตรวจจับบัญชีม้าอัตโนมัติเพื่อให้สามารถระงับบัญชีที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยได้ทันที นอกจากนี้ยังควรสร้างความร่วมมือกับธนาคารและผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในการยืนยันตัวตนของผู้ใช้ เพื่อป้องกันการเปิดบัญชีหรือซิมการ์ดที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด

นายนพดล สรุปว่า การดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ในการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพทางออนไลน์ แต่การปราบปรามต้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการพัฒนากฎหมายและเทคโนโลยีเพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว