วันที่ 28 กันยายน 2567 เมื่อเวลาเวลา 10.45 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) รายงานมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 18 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ ตาก เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย เลย หนองคาย อุดรธานี ชัยภูมิ มหาสารคาม อุบลราชธานี ปราจีนบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวม 73 อำเภอ 284 ตำบล 1,408 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,973 ครัวเรือน ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ระบายน้ำออกจากพื้นที่พร้อมดูแลให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายให้กลับคืนสู่สภาพปกติอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่าในระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 27 ก.ย. 67 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 37 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ระยอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และสตูล รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 213 อำเภอ 926 ตำบล 4,930 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 175,955 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 49 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 28 คน
ทั้งนี้ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 18 จังหวัด ได้แก่เชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ ตาก เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย เลย หนองคาย อุดรธานี ชัยภูมิ มหาสารคาม อุบลราชธานี ปราจีนบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 73 อำเภอ 284 ตำบล 1,408 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,973 ครัวเรือน รายละเอียด ดังนี้
ภาคเหนือ รวม 10 จังหวัด 43 อำเภอ 142 ตำบล 739 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 16,926 ครัวเรือน
1. เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สรวย และ อ.แม่ลาว รวม 12 ตำบล 108 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,892 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2. เชียงใหม่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.แม่อาย และ อ.แม่ออน รวม 10 ตำบล 25 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
3. น่าน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.นาน้อย อ.นาหมื่น และ อ.เวียงสา รวม 9 ตำบล 10 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 96 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
4. ลำปาง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่พริก อ.สบปราบ อ.เถิน อ.เกาะคา และ อ.แจ้ห่ม รวม 21 ตำบล 129 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,571 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
5. ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.ป่าซาง อ.บ้านธิ อ.ทุ่งหัวช้าง อ.แม่ทา อ.เวียงหนองล่อง และ อ.บ้านโฮ่ง รวม 29 ตำบล 234 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,113 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
6. แพร่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ลอง อ.วังชิ้น อ.สูงเม่น และ อ.เมืองฯ รวม 11 ตำบล 27 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 819 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
7. ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สามเงา และ อ.บ้านตาก รวม 5 ตำบล 39 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,445 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
8. เพชรบูรณ์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ชนแดน อ.ศรีเทพ อ.หล่มเก่า อ.หนองไผ่ และ อ.หล่มสัก รวม 7 ตำบล 21 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 738 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
9. พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ อ.เมืองฯ อ.บางกระทุ่ม อ.วังทอง อ.นครไทย และ อ.วัดโบสถ์ รวม 26 ตำบล 103 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,694 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
10. สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง และ อ.เมืองฯ รวม 12 ตำบล 43 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,551 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 6 จังหวัด 20 อำเภอ 72 ตำบล 361 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,491 ครัวเรือน
1) เลย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมืองฯ รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 112 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2) หนองคาย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ อ.เมืองฯ และ อ.โพนพิสัย รวม 26 ตำบล 146 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,717 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
3) อุดรธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ และ อ.สร้างคอม รวม 6 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 270 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
4) ชัยภูมิ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.คอนสวรรค์ อ.บ้านแท่น อ.ภูเขียว และ อ.จัตุรัส รวม 10 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 66 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
5) มหาสารคาม เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.กันทรวิชัย อ.โกสุมพิสัย อ.เชียงยืน รวม 19 ตำบล 123 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
6) อุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เขมราฐ อ.โพธิ์ไทร อ.นาตาล อ.โขงเจียม และ อ.เมืองฯ รวม 9 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 303 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
ภาคตะวันออก รวม 1 จังหวัด 4 อำเภอ 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 639 ครัวเรือน
1) ปราจีนบุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ประจันตคาม อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ และ อ.นาดี รวม 6 ตำบล 21 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 639 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
ภาคกลาง รวม 1 จังหวัด 6 อำเภอ 64 ตำบล 287 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,917 ครัวเรือน
1) พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และ อ.บางไทร รวม 64 ตำบล 287 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,917 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ
เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ พื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในภาคอื่นที่ไม่มีสถานการณ์ภัย เข้าร่วมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงช่วยฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือน ในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รายงานเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง และปักหลักช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี