แพร้านอาหารขนาดใหญ่จอดอยู่ในแม่น้ำน่านข้างโรงแรมดังเชิงสะพานเอกาทษรถ อำเภอเมืองพิษณุโลก ถูกความแรงของแม่น้ำน่านซัดหลุดจากฝั่งลอยไปไกล 3 กม.ชาวแพต้องช่วยกันใช้เรือหางยาว 10 ลำประคองไม่ให้ชนเรือนแพที่อยู่อาศัยและแพร้านอาหาร จนสามารถนำมาผูกไว้ได้อย่างปลอดภัย ไม่มีผู้ได้รับอันตรายและทรัพย์สินอื่นเสียหาย
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 28 กันยายน 2567 เกิดเหตุระทึกขวัญแพร้านอาหารขนาดใหญ่ชื่อร้านอาหารชาวแพ จอดอยู่ในแม่น้ำน่านข้างโรงแรมเดอะแกรนด์ริเวอร์ไซด์ เชิงสะพานเอกาทษรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ได้ถูกความแรงของแม่น้ำน่านพัดหลุดจากฝั่งลอยไปกลางแม่น้ำ ชาวบ้านต่างหวั่นวิตกว่าแพร้านอาหารขนาดใหญ่นี้จะลอยไปชนเรือนแพ และแพร้านอาหารที่อยู่อาศัยจำนวนมากทางทิศใต้ของตัวเมือง
อย่างไรก็ตามทันทีที่เกิดแพร้านอาหารชาวแพหลุดออกจากฝั่ง ผู้ดูแลที่เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแพได้รีบช่วยกันใช้เรือหางยาวออกติดตามและประคองแพไม่ให้ไปชนกับเรือนแพที่อยู่อาศัยรวมถึงแพร้านอาหารอื่นๆ โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาทีจึงสามารถนำแพ ที่แยกออกจากกันเป็น 2 ส่วนนำไปผูกไว้ริมตลิ่ง ส่วนแรกเป็นโป๊ะขนาดใหญ่ ไปผูกติดอยู่ริมตลิ่งฝั่งตะวันออกใกล้เคียงกับโรงสูบน้ำของกองบิน 46
อีกส่วนหนึ่งเป็นลักษณะ แพที่ต่อด้วยโครงเหล็ก และมีถังแกลลอนอยู่ด้านล่าง นำมาผูกติดไว้บริเวณด้านหลัง ร้านอาหารริมหลิ่ง ซึ่งแพที่หลุดมานี้ลอยไกลจากสะพานเอกาทศรถ ผ่านสะพานสุพรรณกัลยา มาถึงร้านอาหารริมหลิ่ง ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร และแพไม่ได้ไปหลุดชนทำความเสียหายให้กับแพอื่นๆ
โดยในช่วงที่เกิดเหตุแพร้านอาหารหลุดออกมานั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายงานป้องกันเทศบาลนครพิษณุโลก ได้ขับรถติดตามเพื่อดูแลความปลอดภัยของแพอื่นๆ กระทั่งตามมาถึงจุดที่สามารถผูกโยงแพไว้ ใกล้เคียงกับร้านอาหารริมหริ่ง
ต่อมา เจ้าของแพชื่อนายนพดล มุกุระ ได้เดินทางมาถึงพร้อมกับบอกเจ้าหน้าที่ว่า แพหลังดังกล่าวตนเป็นเจ้าของเปิดเป็นร้านอาหาร ชื่อร้านอาหารชาวแพ ซึ่งมีทั้งแพที่สร้างด้วยโป๊ะขนาดใหญ่ และแพที่สร้างด้วยทั้งแกลลอน ซึ่งแพของตนนั้นได้ปล่อยทิ้งร้างมาประมาณปีกว่าแล้ว อยู่ในสภาพทรุดโทรมเนื่องจากโป๊ะที่พยุงแพนั้นมีรอยรั่วแต่ก็ได้จ้างคนดูแลแผลตลอดเวลา
กระทั่งช่วงสัปดาห์นี้แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกมีความแรงมากระดับน้ำเพิ่มสูง ตนก็ได้กำชับให้ผู้ดูแลแพเพิ่มเชือกและลวดสลิง ในการผูกแพไว้ แต่ก็ยังหลุดออกมา ซึ่งหลังจากนี้ก็คงต้องดำเนินการรื้อแพในส่วนที่หลุดออกมา ส่วนเรือนแพที่ยังอยู่อีกส่วนหนึ่งบริเวณข้างโรงแรมเดอะแกรนด์ริเวอร์ไซด์นั้นก็อาจจะพิจารณารื้อถอนทิ้งเช่นกัน ซึ่งต้องรอให้ระดับน้ำลดลงก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านอาหารชาวแพนั้นอยู่ในสภาพทรุดโทรม ปล่อยทิ้งร้างมานานแล้ว ร่วมปีกว่าๆ ยิ่งในช่วงแม่น้ำน่านเพิ่มระดับสูงสุดแล้วชาวบ้านต่างวิตกว่าอาจจะหลุดลอยพังลงไปได้กระทั่งเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารขนาดใหญ่อีกร้านหนึ่งคือร้านอาหาร แพน้ำน่าน ใกล้เคียงสะพานสุพรรณกัลยา เป็นแพที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม พื้นที่แพส่วนใหญ่จมลงไปในแม่น้ำน่านแล้ว ยังเหลือเพียงโครงหลังคาโผล่ขึ้นมา และเป็นเช่นนี้มา 2 ปีกว่าแล้ว ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นก็อยากให้เจ้าของมาดำเนินการรื้อถอนออก
สำหรับวันนี้เป็นวันที่แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกเพิ่มระดับสูงสุดแล้ว อยู่ที่ระดับ 7.60 เมตร อยู่ห่างจากตลิ่งประมาณ 3 เมตร แม้ไม่มีผลกระทบกับน้ำท่วมในเขตเมือง แต่ก็มีผลกระทบกับชาวแพที่อยู่อาศัยในแม่น้ำน่านต้องคอยปรับแพขึ้นลงตลอดเวลา และวันนี้แม่น้ำน่านจะค่อยๆลดระดับลงเฉลี่ยชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี