ช้างป่าอาละวาด
ทำลายพืชสวนนครนายก
เกษตรกรร้องอุทยานฯช่วย
ชาวบ้าน 2 ตำบล เมืองนครนายก ร้องกรมอุทยานแห่งชาติแก้ปัญหาช้างป่าบุกหมู่บ้านหากิน ทำลายพืชสวนชาวบ้านเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงาน ชาวบ้าน 6 หมู่บ้านตำบลสาริกา และตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก ซึ่งอยู่ใกล้แนวเขตติดต่ออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร้องขอความช่วยเหลือและเห็นใจจากกรมอุทยานฯและอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เร่งมีมาตรการดูแลเยี่ยวยาและหาวิธีแก้ไขปัญหาช้างป่าออกหากินนอกแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่งผลกระทบให้พืชผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหาย
นายพงษ์สวัสดิ์ ธีระวัฒนกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาพระ บอกว่า ปัญหาช้างป่าที่ออกมาหากินนอกพื้นที่อุทยานกำลังสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านและพืชผลทางการเกษตร ซึ่งปัญหานี้เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยอุทยานได้มีการส่งทีมงานเพื่อช่วยผลักดันช้างกลับคืนสู่ธรรมชาติ แต่ทีมงานเริ่มรู้สึกอ่อนล้าและเหนื่อยล้า จึงมีความจำเป็นต้องการนโยบายจากทางอุทยานที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพในการจัดการปัญหานี้ เพื่อให้ชุมชนได้รับการช่วยเหลืออย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม
ว่าที่ร้อยตรี ปรารภ กิ่งแก้ว รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) สาริกา บอกว่า ช้างป่าที่ลงมาในพื้นที่ตำบลสาริกาในปัจจุบันมีจำนวนมากในพื้นที่ตำบลสาริกา และตำบลเขาพระ ซึ่งเป็นเขตติดต่อกันสองตำบล โดยเฉพาะตอนนี้ในพื้นที่หมู่ 1, 2, 3-4, 11 และ 12 ตำบลสาริกา ประสบปัญหาเรื่องช้างป่าเป็นอย่างมาก รวมถึงคาบเกี่ยวมายังพื้นที่ตำบลเขาพระ ซึ่งผลกระทบช้างป่าที่ลงมาในพื้นที่สองตำบล สร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้มีช้างโขลงอยู่ในพื้นที่ตำบลเขาพระ
“อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมอุทยานฯ เร่งเข้ามาแก้ไขให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยด่วน ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรชุดผลักดันช้างป่า รวมถึงมาตรการเยียวยาชาวบ้านด้วย”
นายประยูร โสภิณ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ตำบลเขาพระ บอกว่า ช้างป่าจะลงมาจากเข้าช่วงเวลา เที่ยงคืนถึงตี 5 ล่าสุดลงมาทั้งหมด 11 ตัวในนั้นจะมีลูกช้างรวมอยู่ด้วย ซึ่งจะเดินผ่านไร่สวนและบ้านเรือนประชาชนมาเรื่อยๆ ซึ่งพฤติกรรมของช้างโขลงนี้ หากลูกช้างไม่เดินพวกแม่ช้างในโขลงก็จะหยุดรอ บางทีลูกช้างก็หยุดวิ่งเล่นบนเนินดินลูกรังไปมา
ที่ผ่านมาโขลงช้างที่เข้าในพื้นที่ได้ทำลายผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน ซึ่งปีนี้ทำความเสียหายมากที่สุดเมื่อเทียบกับก่อนๆที่ผ่านมา ขณะที่ตอนนี้ชาวบ้านในชุมชนต้องช่วยเหลือกันเองเรี่ยรายเงินทำแนวกันช้างไว้ก่อน โดยทำแนวสายไฟล้อมบริเวณไม่ให้ช้างเข้ามาในพื้นที่ไร่สวนและพื้นที่อาศัยของชาวบ้าน โดยตอนนี้มีเจ้าหน้าที่จากอุทยานฯได้เข้ามาช่วยไล่ช้างซึ่งก็พอช่วยได้ประมาณหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นชาวบ้านก็ยังเกิดความหวาดระแวงนอนไม่หลับ เมื่อได้ยินเสียงดังในช่วงกลางดึกหลังเที่ยงคืนซึ่งเป็นช่วงที่ช้างป่าลงมาในพื้นที่
ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่อยากให้ทางอุทยานฯ เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ยิ่งบริเวณที่อยู่ใกล้แนวเขาเขตติดต่ออุทยานฯ เพราะตอนนี้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของชาวบ้านต้องรีบเข้าบ้านเมื่อพลบค่ำนอนไม่หลับเมื่อได้ยินเสียงผิดแปลงในช่วงกลางดึก เพราะกลัวช้าง
นายเกตุแก้ว ลาวิชัย ชาวบ้านตำบลเขาพระ บอกว่า เมื่อ 1-2 วันมีช้างป่า 2-3 ตัวเข้ามาในบ้านของตน โดยเข้ามาตั้งแต่เวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ตนกำลังทำกับข้าวและเก็บข้างของในบ้าน ซึ่งพฤติกรรมช้างป่าจะเดินเข้ามาเงียบๆ แล้วซุ่มไปหากินผลไม้ ต้นกล้วย และพืชผลที่สวนตนได้ปลูกเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไปเข้าข่วงกลางดึกก็จะมีช้างป่าเดินเข้ามาเพิ่มจากเดิมรวมแล้วมากกว่า 10 ตัวก็จะเดินไปยังสวนต่างๆ ที่อยู่ติดกับสวนตนเพื่อหากินพืชผลทางการเกษตรที่ปลูกเอาไว้ ซึ่งสวนของตนปลูก ทุเรียน ส้มโอ กระท้อน และฝรั่ง
ที่ผ่านมาช่วงเดือนกรกฎาคม ต้นกระท้อน 6-7 ต้นที่กำลังจะเอาไปขายก็ถูกช้างเข้ามากินจนเหลือไม่เท่าไหร่ ทำให้ตนเก็บผลผลิตไปขายได้ไม่มาก ส่วนเดือนกันยายนเดือนนี้ส้มโอตนเก็บขายได้ประมาณ 10 กว่ากิโลกรัม นอกนั้นช้างป่าก็กินไปหมด ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จากอุทยานก็มาช่วยต้อนผลักดันช้างป่าออกไปจากสวน ขณะที่ตอนนี้ตนก็ต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับช้างป่าที่ลงมาหากินในพื้นที่ชุมชน เพราะตนเป็นชาวบ้านไม่รู้จะหาวิธีป้องกันไร่สวนรวมถึงชีวิตของตนเองจากช้างป่าได้อย่างไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี