ปิดฉาก”พ่อใหญ่คำปอน” อดีตเจ้าพ่อระดับตำนาน-เจ้าของธุรกิจหลายอย่างในจังหวัดนครพนม ก่อนหันมาใช้ชีวิตแบบเงียบๆหลังป่วยหลายโรครุมเร้า ใจเด็ดเดินลงแม่น้ำโขงปลิดชีพตัวเองโดยไม่ยอมให้ใครเป็นภาระ
วันที่ 28 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 17.30 น. ร.ต.อ.ชยพัทธ์ โพธิจักร รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม ได้รับแจ้งจากนายศักดา บุณนะวงษ์ กำนัน ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม ว่า มีชาวประมงซึ่งเป็นลูกบ้านของตน พบศพคนลอยอยู่ในแม่น้ำโขง เขตบ้านกุดข้าวปุ้น หมู่ 3 ต.ขามเฒ่า จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรงค์ เรืองมี ผกก.สภ.บ้านกลาง แพทย์เวร รพ.นครพนม และ เจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีสัตต กู้ชีพสว่างนาวาจุดเมือง โดยจุดพบศพอยู่ใกล้กับสะพานห้วยบังกอ รอยต่อระหว่าง ต.ขามเฒ่า กับ ต.ท่าค้อ ที่พังถล่มซ้ำซากถึง 3 ครั้ง บริเวณนี้จนได้ชื่อใหม่ว่าสะพานขาด พบศพผู้ตายเป็นชายนอนคว่ำหน้า ในสภาพสวมเสื้อลายหมากรุกสีดำขาว กางเกงบ๊อกเซอร์ขาสั้น ลิ้นจุกปาก นิ้วมือหงิกงอ เจ้าหน้าที่จึงนำขึ้นจากน้ำมาชันสูตร เบื้องต้นไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน
ต่อมา นางเพียรมะสอน หมื่นหอม อายุ 48 ปี ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาพร้อมกับสามีเพื่อขอดูศพ เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 กันยายน คุณพ่อคือนายคำปอน นันตะพัก อายุ 72 ปี ได้หายออกจากบ้านพักที่อยู่หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง พื้นที่ชุมชนท้ายเมือง เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยเวลาประมาณ 10.00 น. มีพยานเห็นว่านายคำปอนได้เรียกรถสามล้อเครื่องมารับ โดยไม่มีใครรู้ว่าไปไหน จึงลงเฟซบุ๊กส่วนตัวประกาศหาตัว กระทั่งมีคนโทรมาบอกว่าพบศพชายลอยน้ำ ลักษณะคล้ายคุณพ่อที่หายไป เมื่อเจ้าหน้าที่ปิดผ้าคลุมศพออก นางเพียรมะสอนถึงกับปล่อยโฮ ทรุดตัวลงข้างศพ พร้อมกับคำพูดออกมาว่า “ทำไมพ่อทำแบบนี้” ก่อนที่สามีจะดึงแขนภรรยาออกมาสงบสติอารมณ์ และไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ทั้งนี้ นายคำปอน นันตะพัก อายุ 72 ปี ผู้เสียชีวิต เมื่อสมัย 30 ปีที่แล้ว ถือเป็นบุคคลระดับตำนานของจังหวัดนครพนมคนหนึ่ง เนื่องจากมีธุรกิจอยู่หลายอย่าง เช่น เจ้าของบริษัทจัดหางานแห่งแรกของจังหวัดนครพนม จัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศ เจ้าของบริษัทคำปอนทัวร์ มีรถตู้มากกว่า 10 คัน บริการจ้างเหมาทั่วประเทศไทย และเป็นอดีตเจ้ามือหวยใต้ดินรายใหญ่ ต่อมาในห้วงประมาณ 20 ปี มีเลขเด็ด 3 ตัวที่เจ้ามือรายอื่นไม่กล้ารับแทง แต่นายคำปอนกลับรับแทงเลขดังแบบไม่อั้น ปรากฏว่าเลขดังออก 3 ตัวตรงๆ นายคำปอนแสดงสปิริตนำทรัพย์สินที่มีขาย เพื่อนำเงินมาจ่ายให้ลูกค้า พลอยทำให้ธุรกิจต่างๆปิดตัวลงไปด้วย นายคำปอนจึงใช้ชีวิตอยู่เงียบๆกับครอบครัว ภายหลังได้เจ็บป่วยหลายโรค เช่น โรคไตต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 3 วัน โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และเส้นเลือดหัวใจตีบ
ก่อนกลายเป็นศพแพทย์ได้ตรวจพบ เส้นเลือดหัวใจนายคำปอนตีบ จึงทำเรื่องส่งตัวไปผ่าตัดที่ รพ.ศูนย์สกลนคร ในวันที่ 8 ตุลาคมที่จะถึงนี้ แต่ปรากฏว่านายคำปอนปฏิเสธการรักษา แม้ภรรยารวมถึงลูกๆ ต่างยินยอมให้ผ่าตัด โดยพูดว่าพ่อไม่อยากให้ใครมาเป็นภาระ กระทั่งวันที่ 26 กันยายน 67 นายคำปอนนั่งกินข้าวอยู่หน้าบ้าน โดยมีลูกสาวได้ถ่ายคลิปไว้ประมาณ 5 วินาที ซึ่งถือเป็นภาพสุดท้าย ก่อนที่คุณพ่อจะหายตัวไป โดยทางครอบครัวรู้สึกเอะใจ เมื่อกลับมาไม่เจอนายคำปอน แต่พบสิ่งของสำคัญที่ติดตัวพ่อตลอด คือ สร้อยคอทองคำและพระเครื่อง ตลอดจนเอกสารบัตรประชาชน ถูกวางไว้ในบ้านอย่างน่าสงสัย พร้อมมีกระดาษเขียนด้วยลายมือนายคำปอน ว่า ขอมอบสิ่งของเหล่านี้ให้ใครบ้าง ครอบครัวจึงหาตัวกันจ้าละหวั่น ก่อนจะไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.เมืองนครพนม และต่อมาวันที่ 28 กันยายน ได้มาพบศพลอยน้ำซึ่งเป็นนายคำปอนอดีตเจ้าพ่อระดับตำนานแห่งเมืองนครพนม
เบื้องต้นคาดว่านายคำปอนไม่ต้องการให้ใครมาเป็นภาระ จึงปฏิเสธการรักษาผ่าตัดหัวใจ ที่ต้องใช้เงินไม่น้อยกว่า 150,000 บาท ในขณะที่ทางครอบครัวไม่มีปัญหาเรื่องเงิน หลังกินข้าวมื้อสุดท้ายอิ่มแล้ว จึงเรียกรถสามล้อเครื่องไปส่ง คาดเป็นบริเวณถนนสวรรค์ชายโขง จุดเช็คอินชื่อดังของจังหวัด ก่อนจะเดินลงไปในแม่น้ำโขงปลิดชีพตัวเอง โดยไม่มีคนแถวนั้นสังเกตเห็น เป็นการปิดฉากตำนานคนดังเมืองนครพนมอย่างถาวร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี