กระแสน้ำกัดเซาะถนนหลักขาด
‘สุโขทัย’อ่วมหนัก
บ้านพังยับ-ต้องนอนในเต็นท์
‘ปภ’.เตือน63จังหวัดทั่วไทย
รับมือฝนหนัก30ก.ย.-3ต.ค.
‘ลำปาง’ดับสังเวยแล้ว4ศพ
ปภ.แจ้ง63จังหวัดรับมือฝนถล่ม กรมอุตุฯ ประกาศเตือนประเทศไทยตอนบนอากาศแปรปรวน กระทบถึง 3 ต.ค.นี้ สุโขทัย น้ำซัดถนนขาด บ้านพัง ชาวบ้านเดือดร้อนหนักต้องอาศัยรถไถหลับนอนนับเดือน ส่วนลำปาง ดับแล้ว4 เขื่อนใหญ่ยังเร่งระบายน้ำต่อเนื่อง ขณะที่อ่างทอง ระดับน้ำเพิ่มสูง อบต.บ้านอิฐ เตรียมรับมือน้ำเหนือ ด้านชาวเชียงใหม่ โอดฟื้นฟูบ้านพักลำบาก ไม่มีน้ำประปา ส่วนรถน้ำเน้นล้างถนน
เมื่อวันที่ 29กันยายน นายไชยวัฒน์จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ ระบุว่าประเทศไทยตอนบนมีลักษณะอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคกลาง รวมทั้งกทม.มีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ระหว่างวันที่ 30กันยายน ถึง 3ตุลาคม 2567 แยกเป็น ภาคเหนือทุกจังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทุกจังหวัด ภาคกลางทุกจังหวัด และภาคใต้ จ.ชุมพร
ปภ.ประสาน63จว.รับมือน้ำ
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า กอปภ.ก.ได้ประสานแจ้ง 63 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และกทม.รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยช่วงดังกล่าว โดยติดตามสภาพอากาศและแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า อีกทั้งจัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที
ขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจาก ทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกล้มทับ รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามข้อมูลสถานการณ์ และปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างเคร่งครัด และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้
กรมอุตุฯชี้อากาศแปรปรวน
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนฉบับที่ 3 (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 29 กันยายน–3 ตุลาคม 2567)บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือด้านตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ประกอบกับร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีลักษณะอากาศแปรปรวนเกิดขึ้นได้ มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกทม.และปริมณฑล และภาคตะวันออก จากนั้นอากาศจะเย็นลง กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1–3 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
เหนือ-อีสานกระทบหลายพื้นที่
สำหรับจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ดังนี้วันที่ 30 กันยายน–1 ตุลาคม 2567 ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรีพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกทม.และปริมณฑลภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
มีผลกระทบถึงช่วงวันที่3ต.ค.
ช่วงวันที่ 2–3 ตุลาคม 2567 ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรีพระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม รวมทั้ง กทม.และปริมณฑลภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด และภาคใต้ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร
สุโขทัยน้ำยังท่วมถนนหลายจุด
ที่ จ.สุโขทัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้สถานการณ์น้ำท่วมถนนเส้นหลัก 101 สายสุโขทัย-ศรีสำโรง ช่วงแยกท่าช้าง ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ทั้งสองฝั่งจะเริ่มลดระดับลงบ้างแล้ว แต่บางจุดยังมีน้ำท่วมสูง จึงต้องปิดการจราจรชั่วคราว ขณะที่เด็กๆต่างก็พากันออกมาเล่นน้ำ ที่ท่วมบนถนนอย่างสนุกสนาน โดยมีผู้ปกครองคอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด
คันดินพังน้ำทะลัก-ถนนตัดขาด
ส่วนพื้นที่หมู่ 6 ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง ซึ่งคันดินพังที่จุดเดิมบริเวณใต้สะพานสิริปัญญารัต ทำให้น้ำทะลักท่วมบ้านเรือนในหมู่ 4 และหมู่ 6 กระแสน้ำยังคงไหลเชี่ยวกราก ตัดขาดทางหลวงหมายเลข 1195 เส้นเตว็ดใน-วังไม้ขอน ช่วงหมู่ 6 ต.วังใหญ่ โดยระดับน้ำทรงตัว แต่ความเสียหายขยายวงกว้าง ขณะเดียวกัน ชาวบ้านยังพากันลุ้นระทึกที่เสาไฟฟ้าถูกกระแสน้ำซัดโอนเอนไปมา มีโอกาสที่จะโค่นลงมา
ชาวบ้านโอดต้องอาศัยนอนรถไถ
นายจเร ฟักโต อายุ 51 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 6 ต.วังใหญ่ กล่าวว่า บ้านถูกกระแสน้ำพัดพังเสียหายทั้งหลัง ทำให้ตนและภรรยาต้องไปอาศัยหลับนอนบนรถพ่วงรถไถที่จอดไว้ริมถนน ย้ายที่นอนที่ทำครัวกันอยู่ตรงนี้มานานกว่า 1 เดือนแล้ว โดยมีถุงยังชีพกับสิ่งของที่นำมาแจกช่วยประทังชีวิตไปวันๆ
ชาวบ้านเดือดร้อนน้ำซัดบ้านพัง
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมหมู่ 5 ต.ยางซ้าย อ.เมือง จ.สุโขทัย ชาวบ้านยังคงเดือดร้อนอย่างหนักเช่นกัน รวมทั้งถนนถูกน้ำกัดเซาะพังเป็นระยะทางยาวหลายสิบเมตร และมีหลายครอบครัวต้องหนีน้ำท่วมมานอนบนถนนแทน ขณะที่บ้านของนางกุหลาบ อายุ 47 ปี ก็ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนดินรอบๆบ้านพังทลายหายไปกว่าครึ่งหลัง ทำให้ 3 ชีวิตแม่ลูกที่อาศัยอยู่ในบ้าน ต้องย้ายมานอนในเต็นท์บนถนนนานร่วมเดือน อย่างไรก็ตาม หลายหน่วยงานยังคงระดมกำลังให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
ลำปางพื้นที่ลุ่มต่ำยังท่วมขัง
ส่วนที่ จ.ลำปาง สถานการณ์แม่น้ำวังในพื้นที่ จ.ลำปาง ขณะนี้แม้ว่าระดับน้ำจะลดลงในระดับที่ต่ำลงกว่า 1 เมตร จากฝนที่หยุดตกมาได้ 2 วันแล้ว ทำให้น้ำที่จะไหลลงมาสมทบในแม่น้ำวังลดลง แต่แม่น้ำวังก็ยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำในเขตตัวเมืองลำปาง เทศบาลนครลำปาง เข้าสู่วันที่ 9 แล้ว เนื่องจากการเร่งปล่อยน้ำของเขื่อนใหญ่ 2 แห่งของ จ.ลำปาง
2เขื่อนใหญ่ลำปางเร่งระบายน้ำ
จากสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากลงสู่เขื่อนเป็นจำนวนมากก่อนหน้านี้ ทำให้เขื่อนมีน้ำที่เต็มและเกินความจุ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจังหวัดลำปาง และชลประทาน ได้พิจารณาปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำวังในอัตราที่มาก และอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งสถานการณ์น้ำในเขื่อนกิ่วคอหมา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ปริมาณน้ำอยู่ที่ 173 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 103% ของความจุ มีการระบายน้ำอยู่ที่ 134 ลบ.ม./วินาที
พร่องน้ำรอฝนตามคาดการณ์
ขณะที่เขื่อนกิ่วลม อ.เมือง จ.ลำปาง ความจุ 106 ล้าน ลบ.ม.มีน้ำ 77 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 72% ของความจุ ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวัง 314 ลบ.ม./วินาที ซึ่งช่วงระยะนี้ยังมีการพร่องน้ำ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำตามประกาศแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา พื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งจะมีสภาพอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจจะเกิดฝนตกหนักในห้วงวันที่ 29 กันยายน-3 ตุลาคม 2567
ลำปางยังกระทบหนัก4อำเภอ
สำหรับพื้นที่ลุ่มซึ่งแม่น้ำวังส่งผลกระทบในเขตตัวเมืองลำปาง ได้แก่ ชุมชนถนนเลียบแม่น้ำวัง บริเวณชุมชนท่านางลอย, ชุมชนท่ามะโอ ใกล้สะพานท่ามะโอ, ชุมชนถนนเลียบป่าไม้, ชุมชนปงสนุก ใกล้กับสะพานรัตนโกสินทร์ 200 ปี หลังวัดเกาะวาลุการาม โดยที่ฝั่งถนนเลียบแม่น้ำวัง ฝั่งชุมชนกาดกองต้า ย่านถนนคนเดิน น้ำลดลง แต่ระดับน้ำยังปริ่มตลิ่ง นอกจากนี้ แม่น้ำวังยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่ 4 อำเภอตอนล่างของ จ.ลำปางซึ่งขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ อ.เกาะคา และ อ.สบปราบ คลี่คลายแล้ว จากระดับน้ำที่ลดลง แต่ยังคงสร้างผลกระทบในที่ลุ่มต่ำใน อ.เถิน และ อ.แม่พริก
ปภ.ลำปางเผยตายแล้ว4เจ็บอีก4
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลำปาง รายงานว่าห้วงระหว่างวันที่ 23-27 กันยายน 2567 จ.ลำปาง ได้รับผลกระทบ 12 อำเภอ 55 ตำบล 273 หมู่บ้าน 4,951 หลังคาเรือน ราษฎร 14,525 คน ได้รับผลกระทบ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน 4 ราย เสียชีวิต 4 ราย เป็นราษฎรในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร 2ราย อ.วังเหนือ และ อ.เถิน อำเภอละ 1 ราย
อ่างทองพร้อมรับมือน้ำเหนือ
ด้าน อบต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง ได้เตรียมความพร้อม ภายหลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มเป็น 1,899 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่อง และมีการรั่วซึมบริเวณเขื่อน หมู่ 10 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง น้ำไหลเข้าหมู่บ้าน จึงเร่งอุดท่อระบายน้ำริมเขื่อน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่ขังออก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
นายจำนงค์ มะลิอ่อง นายก อบต.บ้านอิฐ เปิดเผยว่า ติดตามสถานการณ์น้ำตลอดเวลา มีการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำเหนือ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดที่น้ำซึมบริเวณริมเขื่อน และอุดท่อระบายน้ำริมเขื่อน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ถึงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเฝ้าระวังและคอยติดตามสถานการณ์ระดับน้ำอย่างใกล้ชิด ขณะที่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน จ.อ่างทอง บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด ระดับน้ำอยู่ที่ 7.33 เมตร จากระดับตลิ่ง 10 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,722ลบ.ม./วินาที
อ่างฯแม่งัดปรับลดการระบายน้ำ
ที่ จ.เชียงใหม่ นายเฉลิมเกียรติ อินทกนก ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล รายงานสถานการณ์ระบายน้ำของเขื่อนฯ ว่าปัจจุบันได้ปรับลดการระบายผ่านสปิลเวย์ คงเหลือ 90 ลบ.ม./วินาที ตามแผนการระบายน้ำเพื่อสร้างช่องว่างให้กับเขื่อนในการรับน้ำ และป้องกันปริมาณน้ำล้นอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉินที่ไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากปริมาณน้ำอาจจะล้นลำน้ำแม่งัดได้ ซึ่งถือเป็นการเปิดระบายในรอบ 13 ปี โดยครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 2554 ซึ่งน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่หนักเช่นกัน
พื้นที่ท้ายน้ำยังท่วมขัง-เริ่มเน่า
ทั้งนี้ แม้ว่าในขณะนี้สถานการณ์น้ำปิงที่สะพานนวรัฐ หรือ P1 จะลดระดับต่ำลงเหลือ 3.05 เมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤตแล้ว จากอัตราการไหลเฉลี่ย 320 ลบ.ม./วินาที แต่พื้นที่ท้ายน้ำหลายพื้นที่รอบๆ เขตเศรษฐกิจยังคงมีน้ำท่วมสูงและกลายเป็นน้ำขังและส่งกลิ่นเน่าเหม็น เช่น บ้านม่วนใจ๋ ต้นเปา อ.สันกำแพง บ้านริมฝั่งน้ำเขต อ.หางดง และเขต อ.สารภี ก่อนจะระบายลงสู่เขต จ.ลำพูน
ฟื้นฟูบ้านมีอุปสรรค-น้ำไม่ไหล
ขณะที่การฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมประสบปัญหาและอุปสรรคใหญ่ เนื่องจากน้ำประปาไม่ไหล หรือไหลอ่อน หากไม่มีเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงในการดึงน้ำก็ไม่สามารถล้างโคลนและเศษขยะที่หลงเหลืออยู่ภายในบ้านได้ และเริ่มเน่าเหม็น เพราะไม่มีรถบรรทุกน้ำจากเทศบาลนครเชียงใหม่และอบต.เข้ามาในพื้นที่ชุมชนหรือหมู่บ้านแต่อย่างใด เพราะยังคงเน้นการล้างถนนใหญ่ให้สะอาดเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี