นักวิจัยด้านการบริหารจัดการน้ำของไทยร่วมประชุมและแสดงความเห็นในเวทีสัปดาห์น้ำสากลแห่งเอเชียที่กรุงปักกิ่ง พร้อมนำเสนอแผนงานวิจัยการสนับสนุนเสริมความมั่นคงด้านน้ำโดยนวัตกรรมในพื้นที่อีอีซี รวมถึงรับฟังตัวอย่างการแก้ไขปัญหาเขาหัวโล้นของจีนที่ใช้เวลานานกว่า 20 ปี
รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ผู้อำนวยการแผนงานการนำผลงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ ด้านการบริหารจัดการน้ำ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เปิดเผยว่า ตนได้รับเชิญให้เข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นในการประชุมสัปดาห์น้ำสากลแห่งเอเชีย ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 23-26 กันยายน 2567 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีนเป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งมีผู้นำประเทศเข้าร่วมกว่า 10 ประเทศ พร้อมองค์กรและสมาคมวิชาชีพระหว่างประเทศ เพื่อลงนามในประกาศเจตนารมณ์ปักกิ่งในความร่วมมือระหว่างประเทศจีนกับสภาน้ำเอเชีย (Asia Water Council) ที่จะใช้แบบอย่างจากจีนถ่ายทอดไปยังประเทศสมาชิกในทวีปเอเชียซึ่งมีคนเข้าร่วมกว่า 1,000 คน หลังจีน
ออกนโยบายด้านน้ำในปี 2014
ภายในงานเดียวกันทางเจ้าภาพได้จัดการประชุมโต๊ะกลมวิทยาการด้านน้ำขององค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) และเครือข่ายด้านน้ำ ในโอกาสนี้ รศ.ดร.สุจริต ได้กล่าวแสดงความยินดี และนำเสนองานวิจัยในกลุ่มนโยบายน้ำ เรื่อง “การสนับสนุนเสริมความมั่นคงด้านน้ำโดยนวัตกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นผลงานจากแผนงานวิจัยเข็มมุ่งด้านการบริหารจัดการน้ำ ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) พร้อมรับฟังตัวอย่างการแก้ไขปัญหาเขาหัวโล้นของจีนที่สำเร็จและใช้เวลานานกว่า 20 ปี โดยประเด็นที่นำเสนอจะเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณคัดเลือกเป็นบทความลงใน UNESCO Water Science Report ปี 2025
สำหรับรายงานข้อเสนอเชิงนโยบายของไทยที่คณะวิจัยจัดทำขึ้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสนอแนะนโยบายในการปรับปรุงการบริหารจัดการน้ำผ่านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทบทวนแนวทางปฏิบัติด้านการใช้ทรัพยากรน้ำระหว่างประเทศ สรุปผลจากการดำเนินโครงการวิจัยในแผนงานเข็มมุ่งด้านการจัดการน้ำรวม 3 ระยะติดต่อกัน และแสดงผลลัพธ์หลักของการวิจัยพัฒนาแต่ละเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น เป็นนวัตกรรมเพื่อปรับปรุงการบริหารจัดการน้ำในระดับปฏิบัติการ โดยออกแบบบูรณาการอย่างเป็นระบบให้ตอบสนองกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในแต่ละพื้นที่ศึกษา ตัวอย่างการยกระดับการบริหารจัดการน้ำที่ดำเนินการไป ได้แก่ 1) การปรับปรุงการตัดสินใจการสูบน้ำและการเก็บกักน้ำ รวมถึงการรีไซเคิลน้ำที่ใช้ซ้ำ การปรับปรุงคุณภาพน้ำเพื่ออุตสาหกรรมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก 2) การปรับปรุงการปล่อยน้ำจากเขื่อนหลักเพื่อเพิ่มการเก็บกักน้ำเพื่อฤดูแล้งของเขื่อนในพื้นที่ราบภาคกลาง 3) การปรับปรุงระบบชลประทานด้วยระบบเซนเซอร์ ไอโอที และควบคุมการปิดเปิดประตูน้ำอัตโนมัติ พร้อมฝึกอบรมกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อลดการสูญเสียน้ำจากการส่งน้ำและ 4) การพัฒนากลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่เกษตรกรน้ำฝนผ่านระบบภูมิสารสนเทศเพื่อสร้างความสามารถการวางแผนการบริหารจัดการน้ำชุมชน และเชื่อมโยงกับแผนทรัพยากรน้ำบูรณาการระดับจังหวัด
ทั้งนี้ เนื้อหารายงานดังกล่าวได้นำเสนอประเด็นและความท้าทายด้านการจัดการน้ำที่มีอยู่ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรมในต่างประเทศ การทบทวนการปรับปรุงการบริหารจัดการน้ำที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในระดับนานาชาติ ให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและสถานะความมั่นคงของน้ำ ผลลัพธ์การวิจัยหลักจากแผนงานวิจัยเข็มมุ่ง รวมถึงตัวอย่างการออกแบบเชิงนวัตกรรมที่ได้มาจากเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาจากโครงการวิจัย ตลอดจนจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ผ่านการประยุกต์นวัตกรรม รวมถึงเป็นแนวทางปฏิบัติที่ช่วยให้การใช้น้ำมีประสิทธิภาพ เพิ่มความมั่นคงด้านน้ำและยกระดับผลิตภาพน้ำของประเทศให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.chulabook.com/education/201346)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี