ยายวัย 68 ปีชาวนครพนมนอนป่วยติดเตียงอยู่บ้านคนเดียว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ถูกเจ้าหน้าที่ตัดไฟฟ้าทำเครื่องออกซิเจนดับเสียชีวิตคาบ้าน ญาติยายเผยเจ้าหน้าที่ไม่สนคำอ้อนวอนที่พยายามอธิบายถึงเหตุผลอ้างคำเดียว "ทำตามหน้าที่" สุดท้ายยายต้องเสียชีวิตคาบ้าน
วันที่ 2 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนมรายงานว่า ได้เกิดเรื่องสลดขึ้นเมื่อนางสาวนงลักษณ์ จันทร์ชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านนาขาม (ผอ.รพ.สต.นาขาม) ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม พร้อมญาติผู้เสียชีวิตออกมาร้องเรียนผ่านสื่อเพื่อสะท้อนปัญหาไปยังผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กรณีนางเกียน ลี้พล อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ชาวบ้านนาขาม ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม มีเป็นผู้ป่วยติดเตียง ขยับร่างกายและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทำให้มีแผลกดทับนานหลายเดือน โดยอาการทรุดลงเรื่อยๆ จึงต้องใช้อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องผลิตอ็อกซิเจนช่วยหายใจ รวมถึงเครื่องดูดเสมหะและเตียงลม โดยนางเกียนอาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง เนื่องจากสามีเสียชีวิต เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และไม่มีลูกเป็นคนดูแล จึงต้องอาศัยน้องสาว รวมถึงลูกหลานคอยดูแลเป็นบางเวลา
จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา มีพนักงานบริษัทเอกชน รับเอกสารจากสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขา อ.วังยาง จ.นครพนม มายืนยันเพื่อยกมิเตอร์ไฟฟ้า ออกจากบ้านพักของนางเกียน ระบุว่าบ้านหลังนี้ค้างชำระค่าไฟฟ้าประมาณ 2 เดือน ขณะที่เจ้าหน้าที่บริษัทเอกชน กำลังจะตัดกระแสไฟฟ้า หลานสาวของนางเกียน ได้เข้าไปอ้อนวอน ให้เหตุผลว่าคุณยายเจ้าของบ้านป่วยติดเตียง อาศัยอยู่เพียงลำพังไม่มีคนดูแล พร้อมให้เหตุผลว่าแต่เดิมไม่เคยเสียค่าไฟ เนื่องจากใช้กระแสไฟไม่เกินหน่วยตามรัฐบาลให้ความช่วยเหลือ จนกระทั่งคุณยายเจ้าของบ้าน ป่วยหนักต้องมีอุปกรณ์การแพทย์ ทั้งใช้เครื่องช่วยหายใจ เครื่องดูดเสพหะ และเตียงลม จึงต้องใช้ไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้น เข้าเกณฑ์ต้องชำระเงิน เมื่อตรวจสอบพบว่า มีบิลแจ้งชำระ 2 เดือน รวมประมาณ 1,500 บาททางญาติยืนยันพร้อมรับผิดชอบ จะเร่งไปดำเนินการจ่ายค่าไฟฟ้า และขอร้องให้งดการตัดไฟ เพราะเกรงว่าจะกระทบการรักษาผู้ป่วย
แต่เจ้าหน้าที่ผู้นั้นไม่ยอมฟังเหตุผล อ้างต้องทำตามหน้าที่ จึงดำเนินการยกมิเตอร์ไฟฟ้าไป โดยไม่อีนังขังขอบว่าในบ้านมีผู้ป่วยติดเตียง ทำให้อุปกรณ์การแพทย์หยุดทำงาน หนักสุดคือเครื่องผลิตอ็อกซิเจนไม่ทำงาน ทำให้ยายเกียนเจ้าของบ้าน ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มีอาการทรุดหนัก และเสียชีวิตช่วงคืนที่ผ่านมา ทั้งที่ญาติพยายามเร่งไปชำระค่าไฟ และมีเจ้าหน้าที่มาติดตั้งมิเตอร์คืน ในช่วงเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ผู้ป่วยไม่สามารถหายใจเองได้จึงเสียชีวิต
ทั้งนี้หลังบ้านนางเกียนถูกตัดกระแสไฟ ทางด้านยายกรม เชื้อบริหาร อายุ 73 ปี พี่สาวของผู้ตาย อาศัยในหมู่บ้านเดียวกันรีบนำเงินไปชำระตามใบแจ้งบิล โดยซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ หลานสาวขับไปชำระที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขา อ.วังยาง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 10 กิโลเมตร
โดยทางญาติรวมถึงหลานสาวยังคาใจ ถามหาคุณธรรมผู้ที่มาตัดกระแสไฟ ทั้งที่มีการพูดคุยแจ้งเหตุผล ที่ค้างชำระค่าไฟ แต่ไม่ยอมรับฟัง มองข้ามชีวิตคน พร้อมระบุว่าหากไม่เจอกับญาติพี่น้องตัวเองคงไม่รู้สึกหรอก พร้อมเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ออกมาชี้แจง และแสดงความรับผิดชอบ เชื่อว่าเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของผู้ป่วย ถึงแม้จะนอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ยังดีที่ผู้ป่วยยังพูดคุย ใช้ชีวิตกับญาติพี่น้องได้ จึงไม่ควรจะมาเสียชีวิตคาเตียงแบบนี้ แทนที่จะได้ใช้เงินหมื่นจากรัฐบาล ที่เพิ่งได้รับมาไม่ถึงวัน แต่ยังดีได้นำมาจ่ายค่าไฟ และซื้ออาหารให้ทานก่อนเสียชีวิต
ส่วนนางสาวสุธารินี อายุ 42 ปี หลานสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่าลูกหลานทุกคนจะออกไปทำงานกันหมด พอเลิกงานจะกลับมาดูแลยายเกียนผู้เสียชีวิต และมีคนสลับสับเปลี่ยนกันมานอนเฝ้าทุกวัน โดยในช่วง 1- 2 เดือนที่ผ่านมา ยายเกียนมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงเครื่องดูดเสมหะ แต่ยังพูดคุยรู้เรื่องมีสติดี รับประทานอาหารได้ วันเกิดเรื่องมีเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นบริษัทเอกชน ทำหน้าที่ตัดไฟที่เกินกำหนดชำระ มาทำการยกหม้อมิเตอร์ไฟหน้าบ้านยาย
ตนจึงไปสอบถามและขอร้อง โดยให้เหตุผลว่าจะไปชำระทันที เพราะตอนนี้ไม่มีคนดูแลยาย แต่กลับถูกปฏิเสธไม่ฟังเหตุผลใดๆ พร้อมยกหม้อไฟไปต่อหน้าต่อตา จึงประสานหาทางช่วยเหลือ เพื่อนำเงินไปชำระ แต่ระยะทางไกลประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลานับชั่วโมง จึงมีเจ้าหน้าที่กลับมาติดตั้งหม้อไฟ แต่อาการยายทรุดลงแล้วและเสียชีวิตตอนกลางดึก ถึงแม้ตนไม่สามารถยืนยันได้ว่า เสียชีวิตเพราะเครื่องผลิตอ็อกซิเจนไม่ทำงาน แต่ยังคาใจถึงคุณธรรมในการทำงานด้านบริการ เชื่อว่าหากไม่ตัดไฟยายยังใช้ชีวิตต่อได้หากจะอ้างไม่มีข้อมูลยืนยันเป็นผู้ป่วย เมื่อหลายเดือนก่อนเคยเกิดเรื่องลักษณะเดียวกันมาแล้ว ครั้งนั้นมีการอ้อนวอนขอให้แจ้งก่อนการตัดไฟ เพราะไม่มีคนดูแล ผู้ป่วยอยู่คนเดียวลำพัง ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายซ้ำอีก
ทางด้านนางสาวนงลักษณ์ จันทร์ชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านนาขาม ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม ในฐานะมีหน้าที่ดูแลสุขภาพของคนในชุมชน เปิดเผยว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปดูแลยายเกียนทุกสัปดาห์ ช่วยเหลือในส่วนที่ญาติไม่สามารถทำเองได้ เพราะบางวันต้องล้างแผลกดทับ ยอมรับยังรับไม่ได้ พอรู้ว่ามีเจ้าหน้าที่มายกมิเตอร์ไฟ ทำให้ยายอาการทรุดและเสียชีวิต จึงขอถามหาคุณธรรมคนทำงานบริการประชาชน ทั้งที่รู้ในบ้านคนจะตาย แต่ไม่ยอมฟังเหตุผลทั้งที่ญาติอ้อนวอนขอความเมตตา ตนในฐานะพยาบาล ยังไม่เลือกที่จะช่วยเหลือรักษาชีวิตคน ไม่ว่าจะเป็นคนผิดคนถูก จรรยาบรรณต้องรักษาอาการเจ็บป่วยเพื่อให้รอดชีวิตทุกคน แต่หน่วยงานการไฟฟ้า อ้างทำตามหน้าที่ ทั้งรู้ว่าจะเกิดผลกระทบกับผู้ป่วย ฝากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทบทวนหาทางแก้ไข ได้ยินเรื่องนี้ทางสื่อบ่อยมาก อยากให้แก้ไขจริงจังเสียที น่าจะมีทางออกที่ดี เชื่อว่ามีมาตรการแก้ไข ถามว่าเมื่อเกิดความสูญเสียใครจะรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับปัญหาการยกมิเตอร์ไฟฟ้าถือเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ มีการร้องเรียนผ่านสื่อประจำ เพื่อให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีมาตรการดูแลช่วยเหลือ พิจารณาเป็นรายบุคคลตามความเหมาะสม เพราะบางรายมีความจำเป็น โดยไม่มีเจตนาเบี้ยวค่าไฟ แต่บางครั้งมีปัญหาเกี่ยวกับระบบจ่ายค่าไฟผ่านแอพพลิเคชั่น รวมถึงบิลค่าไฟไม่ถึงมือเจ้าของบ้าน จึงเกิดการชำระล่าช้า แต่ผู้รับจ้างเอกชนไม่สนใจฟังเหตุผล อ้างทำตามหน้าที่เพราะมีค่าตอบแทนในการตัดยกหม้อไฟหลังละ 100 กว่าบา ถึงรู้ว่าเกินกำหนดจ่ายเพียงแค่ชั่วโมงเดียว ยังตัดไฟเพราะได้ค่าตอบแทน ทั้งที่ชาวบ้านยอมจ่ายค่าปรับตามระเบียบ แต่ยังยืนยันที่จะยกหม้อไฟฟ้า โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อธุรกิจการค้า รวมถึงคนที่เจ็บป่วย ที่ต้องใช้เครื่องมือแพทย์ช่วยเหลือตามชุมชนหมู่บ้าน จึงอยากถามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สะกดคำว่าคุณธรรมเป็นไหม - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี