กรมชลฯการันตี
ปีนี้กทม.น้ำไม่ท่วม
เชียงราย 6 อ.ยังหนัก
‘อยุธยา’จม 7 อำเภอ
นายกฯ“อิ๊งค์”ตรวจการบริหารน้ำ กรมชลฯย้ำกทม.น้ำไม่ท่วมเท่าปี’54 ศปช.เผยเชียงรายปริมาณฝน 195 มม. เสี่ยงท่วมใน 6 อำเภอ ด้านกรมอุตุฯเตือนอากาศแปรปรวน ทั่วไทยฝนหนัก 60-80% ส่วนอยุธยา ท่วมแล้ว 7 อำเภอ เร่งทำแนวป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานริม2ฝั่งแม่น้ำ
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ที่กรมชลประทาน จ.นนทบุรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตรวจการบริหารจัดการน้ำ โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.นายสุริยพล นุชอนงค์ รักษาการอธิบดีกรมชลประทาน รายงานสถานการณ์ และนายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ร่วมต้อนรับ โดยนายสุริยพล กล่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำในภาพรวม ตั้งแต่ต้นน้ำภาคกลาง รวมถึงพื้นที่ กทม.ซึ่งช่วงหนึ่งได้การันตีว่า ปีนี้น้ำไม่ท่วม กทม.
นายกฯย้ำกทม.ไม่ท่วมเท่าปี54
นายกฯ กล่าวว่า คน กทม.และปริมณฑล เป็นห่วงกันเยอะว่าปีนี้จะท่วมหรือไม่ท่วม เวลาปล่อยน้ำได้มีการแจ้งชาวบ้านอยู่แล้วใช่หรือไม่ ซึ่งต้องแจ้งเตือนไว้ก่อน และตรงนี้ต้องฝากกระทรวงมหาดไทย ในเรื่องอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน เรื่องการแจ้งเตือนล่วงหน้า ปีนี้ถ้าเทียบกับปี 2554 อยากให้เกิดความสบายใจ ซึ่งปี 2554 มีพายุเข้า 5 ลูก แต่วันนี้มีลูกเดียว และปี 2554 เหลือพื้นที่เก็บน้ำอีกมาก ห่างจากปี 2554 เยอะ ดังนั้นคน กทม.ที่กำลังกลุ่มใจน้ำจะท่วมหรือไม่ ก็ไม่ต้องเป็นห่วง
เชียงรายปริมาณฝนสูง195มม.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษานายกฯ และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ประกอบกับการติดตามปริมาณฝนของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ ซึ่งมีปริมาณฝนสะสมที่ จ.เชียงราย สูงถึง 195 มิลลิเมตร ทำให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) คาดการณ์พื้นที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำกกเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ตามแนวลำน้ำรวม 147.14 ตารางกิโลเมตร ใน 6 อำเภอของ จ.เชียงราย ได้แก่ อ.เมือง อ.เวียงชัย อ.เวียงเชียงรุ้ง อ.แม่จัน อ.ดอยหลวง และ อ.เชียงแสน คาดว่าระดับน้ำจะขึ้นสูงกว่าตลิ่ง 1.18 เมตร ในวันที่ 4 ตุลาคมนี้
เร่งจัดการขยะในพื้นที่เชียงราย
นายจิรายุ เปิดเผยด้วยว่า จากการที่ ศปช.ส่วนหน้า ติดตามการแก้ปัญหาขยะตกค้างในพื้นที่ จ.เชียงราย พบว่า อ.เมือง จ.เชียงราย สามารถเพิ่มอัตราการขนขยะจากเดิม 1,000 ตัน/วัน เป็น 1,300 ตัน/วัน ส่วนใน อ.แม่สาย ยังขนขยะได้จำกัด เนื่องจากถูกกลบทับด้วยโคลน จึงมีอัตราการขนขยะอยู่ที่ 100 ตัน/วัน คาดว่าหากเพิ่มอัตราการขนได้อีก ก็จะทำให้ทั้ง 2 พื้นที่ ขนขยะแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้
อุตุฯเผยสภาพอากาศแปรปรวน
ด้าน น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 9 (221/2567) ว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ประกอบกับร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางและภาคตะวันออก
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีลักษณะอากาศแปรปรวนเกิดขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้นอากาศจะเย็นลงกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เตือนให้เฝ้าระวังท่วมฉับพลัน
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง
เหนือ-กทม.ฝนหนักร้อยละ80
ส่วนพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ภาคใต้ทั้ง2ฝั่งมีฝนตกร้อยละ60
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ขึ้นไป ทะเลคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.กระบี่ ลงมา ทะเลคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตร
เชียงรายอ่วมท่วมขังหลายจุด
ที่ จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่ายังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่บางแห่ง ถนนบางเส้นทาง โดยในพื้นที่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย บริเวณแยกไฟแดงหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ระดับน้ำลดลง รถยนต์และจักรยานยนต์ สามารถใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน ทั้งสองฝั่งได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม บางจุดยังคงมีน้ำท่วมขังรอการระบาย
ถนนสัญจรลำบาก-รถเล็กดับ
ขณะที่บริเวณแยกไฟแดงขัวแคร่ ยังมีน้ำท่วมทำให้การสัญจรไปเป็นอย่างยากลำบาก ส่วนถนนบายพาสเส้นตะวันตก มีน้ำท่วมขังจากน้ำที่ไหลมาจากดอยโป่งพระบาท รถเล็กที่จอดติดไฟแดงเครื่องดับหลายคัน เจ้าหน้าที่ต้องช่วยเข็นออกมา เส้นทางที่มุ่งหน้าไปยัง อ.แม่จัน ประมาณ 100 เมตร ถนนสัญจรได้เพียง 1 ช่องทาง ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ปีนี้ถูกน้ำท่วมแล้วถึง 4 ครั้ง
พิจิตรฝนหนักน้ำระบายไม่ทัน
ส่วนที่ จ.พิจิตร วันเดียวกัน สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร ได้มีน้ำท่วมสูง หลังจากเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากนานนับชั่วโมง ส่งผลให้ถนนศรีมาลา ย่านเศรษฐกิจตลาดเมืองพิจิตร น้ำไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำน่านได้ทัน ส่วนระดับน้ำที่สถานี N7A อ.เมือง จ.พิจิตร ต่ำกว่าตลิ่ง 29 เซนติเมตร ซึ่งอยู่ในจุดวิกฤต ทางชลประทานพิจิตร ได้ปักธงแดง ประกาศเตือนในพื้นที่หลายวันแล้ว
เร่งตั้งเครื่องสูบน้ำออก5จุด
ทั้งนี้ ทางเทศบาลเมืองพิจิตร ได้ใช้กระสอบทรายปิดกั้นไม่ให้น้ำจากแม่น้ำน่านไหลทะลักเข้าพื้นที่ แต่เมื่อมีฝนตกตก น้ำจึงล้นท่วมเส้นทางคมนาคม อย่างไรก็ตาม ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 5 จุด ที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับแม่น้ำน่าน เร่งสูบน้ำออก คาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาน้ำเอ่อล้นรอการระบายได้
อยุธยาท่วม7อำเภอ/เร่งทำกั้นน้ำ
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สถานการณ์ฝนที่ตกประกอบกับเขื่อนเจ้าพระยา มีการระบายน้ำอยู่ที่ 1,899 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องหลายวัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำน้อย เพิ่มสูงขึ้น จนมีผลกระทบใน 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.บางไทร อ.พระนครศรีอยธุยา อ.บางปะอิน และ อ.บางปะหัน รวม 88 ตำบล 486 หมู่บ้าน 17,649 ครัวเรือน โดยที่หน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร พบว่ามวลน้ำยังมีปริมาณมากและไหลแรง หลายจุดมีน้ำล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือนสองฝั่งแม่น้ำ วัดและโบราณสถานหลายแห่ง ต้องเร่งทำแนวป้องกันน้ำท่วม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี