สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบการคัดกรองบุคคลและพาหนะซึ่งเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย และควบคุมคนต่างชาติในขณะอยู่ในประเทศ โดยมีกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 เป็นเหมือนประตูเข้าสู่ประเทศไทยฝั่งทิศใต้ รับผิดชอบพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย โดยมี พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ทำหน้าที่เป็นแม่ทัพใหญ่ รับผิดชอบกำลังพลในสังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 จำนวนกว่า 800 นาย ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ในภาวะที่การเดินทางระหว่างประเทศสามารถเดินทางได้ง่ายขึ้น และนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ ทำให้บุคคลจากหลากหลายชาติ สามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้นในแต่ละปี ส่งผลให้มีอาชญากรแอบแฝงปะปนกับนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทย นำมาสู่รูปแบบแผนประทุษกรรมการกระทำผิดที่หลากหลายขึ้น ซึ่งในภารกิจการคัดกรองคนต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยนี้นี้ ด่านตรวจคนเข้าเมืองในสังกัดได้ตรวจสอบและปฏิเสธคนต่างชาติที่มีลักษณะห้ามเข้ามาในประเทศไทย อาทิ ไม่มีปัจจัยยังชีพแก่การเข้ามาท่องเที่ยว , ภัยสังคม , เข้ามาเพื่อทำงาน เป็นต้น เฉพาะปี 2567 ที่ผ่านมา ได้ปฏิเสธไปแล้วจำนวนกว่า 3,900 คน
ภารกิจในพื้นที่ชั้นในของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมและตรวจสอบคนต่างด้าว ได้มีการกวางล้าง ป้องกัน ปราบปราม ซึ่งผลการปฏิบัติงานปี พ.ศ.2567 กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 ภายใต้การอำนวยการของ ผู้การโปรด ผบก.ตม.6 และรองผู้การนักสืบฝีมือดี พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม.ช่วยราชการ บก.ตม.6 ได้ร่วมกันทำผลงานจับกุมคนต่างชาติลักลอบกระทำผิดมากมาย ผลงานเด่นคือสามารถจับกุมขบวนการลักลอบขนคนข้ามแดนซึ่งกระทำผิดในรูปแบบกลุ่มขบวนการ มีการวางแผนการทำงานเป็นระบบ ตั้งแต่การลักลอบนำคนต่างชาติเข้ามาทางพรมแดน จ.สระแก้ว หรือพรมแดนที่ติดกับประเทศเมียนมา แล้วนำพาเดินทางผ่านพื้นที่ชั้นในเพื่อมุ่งสู่พรมแดนภาคใต้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย โดยสามารถสืบสวนด้วยวิธีการที่ทันสมัย นำเทคโนโลยีมาใช้และนำเสนอให้เห็นผังเป็นกลุ่มขบวนการและรูปแบบการกระทำผิดนำไปสู่การออกหมายจับกลุ่มเครือข่ายได้เป็นจำนวนมาก ปรากฏตามภาพสื่อมวลชนในลักษณะดักจับได้พร้อมรถขนต่างด้าวอย่างต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีผลการปฏิบัติคดีสำคัญอื่นๆ เช่น การจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผู้ต้องหาคนจีน 43 คน ร่วมกันคนไทย 19 คน ตั้งฐานกระทำผิดในลักษณะขบวนการคอลเซ็นเตอร์ฉ้อโกงประชาชน ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเดือนมีนาคม 2567 , การจับกุมผู้หลอกลวงหญิงไทยไปค้าประเวณีในประเทศมาเลเซียในข้อหาค้ามนุษย์ , การจับกุมคนต่างด้าวลักลอบขนยาเสพติดหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด เช่น จับกุมคนสัญชาติลาว ขนยาบ้า จำนวน 100,035 เม็ด ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช , จับกุมชาวไนจีเรีย พร้อมของกลางยาไอซ์ , ยาอี , โคเคน และ เคตามีน จำนวนมาก , ตรวจสอบจับกุมคนต่างด้าวใช้หนังสือเดินทางปลอม วีซ่าปลอม หรือคนต่างด้าวสวมบัตรประชาชน รวมจำนวนกว่า 40 คดี , ตลอดจนร่วมมือตำรวจสากลในการจับกุมคนต่างด้าวกระทำผิดหลบหนีหมายจับจากต่างประเทศ จับกุมส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังพัฒนาหน่วยงานในสังกัด บก.ตม.6 ให้เป็นส่วนช่วยสนับสนุนการสืบสวนขยายผลการจับกุมอาชญากรรมประเภทต่างๆ แก่ตำรวจภูธรในพื้นที่เมื่อเกิดคดีและคนร้ายหรือผู้เสียหายเป็นคนต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นคดีฆาตกรรม ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ในรูปแบบแผนประทุษกรรมที่คนต่างชาติมักลงมือกระทำในประเทศไทย เช่น การชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ เหรียญ bit coin หรือเงินเหรียญคลิปโตต่างๆ อีกด้วย
ผลงานผู้การโปรดในการควบคุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในปี 2567 จัดว่าโดดเด่น เป็นรูปธรรมอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งได้ยินเสียงแว่วมาว่า นอกจากผู้การโปรดจะตอบรับและขับเคลื่อนนโยบายของผู้บังคับบัญชาอย่างแข็งขันแล้ว ผู้การโปรดเป็นที่รักของผู้ใต้บังคับบัญชา ดูแล สนับสนุน ตรวจเยี่ยม และบำรุงขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่เสมอ จึงนำมาสู่ผลงานมากมาย เห็นอย่างนี้แล้ว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร.คงเบาใจในเรื่องปัญหาคนต่างด้าวในพื้นที่ภาคใต้ได้อย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี