เปิดสาเหตุโศกนาฏกรรมไฟไหม้บัสนร.
ถังแก๊สต่อเติมท่อรั่ว
กรมขนส่งแจงยางไม่ได้แตก
แต่เพลาหักครูดผิวถนน
แฉพบติดตั้งแก๊สเกินมา5ถัง
จัดพิธีศพวันแรกแสนเศร้า
บรรยากาศการประกอบพิธีศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนวันแรกเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ครอบครัวเคาะโลงเรียก พร้อมนำขนม อาหาร เสื้อผ้า ของเล่น มาวางที่โลงศพยายเศร้า สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ หลานชาย 2 คน จากไปไม่มีวันกลับ ด้าน“ผบช.สพฐ.”ยืนยันสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากก๊าซรั่ว รอผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ศธ.พร้อมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ทำบุญอุทิศให้ผู้ล่วงลับ และพิธีเสริมสิริมงคลเรียกขวัญกำลังใจให้ผู้ประสบอุบัติเหตุปลอดภัย “เพิ่มพูน”เผยยกระดับความปลอดภัยทัศนศึกษา ดึงขนส่งร่วมตรวจสอบสภาพรถก่อนใช้งาน“อธิบดีกรมการขนส่งฯ”สั่งตั้งคกก.ชุดพิเศษ สอบหลักเกณฑ์ปฏิบัติของจนท. ตรวจสภาพรถ-ถังแก๊ส ถูกต้องหรือไม่ ให้เวลา 2 สัปดาห์
เมื่อเวลา 08.00น. วันที่ 3 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณหอประชุมของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม หมู่ 5 ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งประกอบพิธีศพของผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน จำนวน 23 ราย ซึ่งเดินทางมาจากรุงเทพฯ เป็นขบวนสุดท้ายเวลา 02.00น ของเมื่อคืนวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา
โดยภายในงานเริ่มมีการประดับตกแต่ง ผูกผ้าขาวดำในอาคาร จัดตั้งดอกไม้ประดับ และการตกแต่งต่างๆ จนเก็บเสร็จเรียบร้อย ท่ามกลางบรรยากาศที่ยังคงเต็มไปด้วยความเศร้ามีครอบครัวและประชาชนเดินทางมาไหว้ศพของผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้นำเอาอาหารและเครื่องดื่มรวมไปถึงของเล่นของใช้ส่วนตัวและชุดนักเรียน มาวางไว้บนโลงเย็น ก่อนที่จะจุดธูป 1 ดอก แล้วเคาะโลง เรียกให้มาทานข้าว บางรายก็ไปหอมรูปผู้เสียชีวิต ด้วยน้ำตานองหน้า ส่วนศพคุณครูทั้ง 3 ท่าน เจ้าหน้าที่นำมาตั้งไว้กลางของศพเด็กนักเรียน 20 คน เรียงเป็นแถวริมหอประชุม
ยายสุดเศร้าสูญเสียหลานชาย2คน
ป้านุช ขำกระแส หนึ่งในญาติของผู้เสียชีวิต กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ตนเองได้สูญเสียหลานชายถึง 2 คน ซึ่งถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งที่ยิ่งใหญ่มาก โดยตนเองนั้นได้เลี้ยงหลายชายทั้ง 2 มาตั้งแต่เล็ก ซึ่งพ่อของเด็กมีอาชีพรับจ้างทั่วไป
ส่วนบรรยากาศรอบพิธี ได้มีโรงทานของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี เขต 2 พร้อมกับ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มาพร้อมกับโรงทานของเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สนภ.1นทพ.) มาให้บริการประชาชนที่มาร่วมงาน
ปธ.องคมนตรีเชิญพวงมาลาพระราชทาน
ส่วนในช่วงเวลา 17.00น. พล.อ.สุรยุทธ์ จุฬานนท์ ประธานองคมนตรี ได้เชิญพวงมาลาพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีและพระบรมวงศานุวงศ์ วางหน้าหีบศพผู้เสียชีวิต ที่อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ต.ลานสัก จ.อุทัยธานี ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม พร้อมให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิตซึ่งจะมีการสวดอภิธรรมศพทั้งหมด 5 คืน และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้
ขณะที่ นายธีรพัฒน์คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้ออกประกาศเชิญชวนไปยังส่วนราชการในจังหวัดอุทัยธานี ให้แต่งกายไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตระหว่างวันที่ 2-4 ตุลาคม 2567 ด้วย
ศธ.จัดพิธีอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ
วันเดียวกัน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ และพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลเรียกขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประสบอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)อุทัยธานี เขต 2 ที่บริเวณลานจอดรถอาคารสามัญ 99 กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. และผู้บริหารองค์กรหลัก ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ ก่อนเริ่มพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ และพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคล ประธานในพิธีและผู้ร่วมพิธีได้ยืนสงบนิ่งไว้อาลัย
‘อธิบดีขนส่งฯ’แจงกมธ.คมนาคม
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ. มีวาระสำคัญในการหารือกรณีรถบัสนักเรียนจังหวัดอุทัยธานีไฟไหม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่แทรกเข้ามาเร่งด่วน มีการเชิญนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และคณะมาชี้แจงถึงสาเหตุรวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาในอนาคต
แฉถังก๊าซต่อเติมท่อรั่วทำไฟไหม้
นายชีพ น้อมเศียร ผู้อำนวยการ (ผอ.) สำนักวิศวกรรมยานยนต์ กล่าวว่า จากการตรวจสภาพรถพบว่า ประตูด้านหลังฝั่งขวา คันโยกที่ใช้เปิดปิดภายในตัวรถยังใช้งานได้ปกติ และรถที่เกิดเหตุเป็นรถโดยสารชั้นเดียว พื้นที่ด้านล่างใช้เก็บสัมภาระ นอกจากนี้ ยังพบว่าล้อรถไม่ได้มีการระเบิด ซึ่งพบถังก๊าซ 11 ถัง และมีท่อก๊าซหลุดเป็นเหตุให้เกิดก๊าซรั่ว รวมถึงพบว่าเพลาล้อหน้าหักครูดกับถนน ซึ่งอยู่ระหว่างกรมการขนส่งทางบกกับกองพิสูจน์หลักฐานร่วมกันวิเคราะห์สรุปหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะแถลงให้ทราบต่อไป
ต่อมา นายจิรุตม์ เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้มี 5 ข้อสั่งการ ได้แก่ 1.สั่งการให้เรียกรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทางที่ใช้ก๊าซ CNG มาตรวจสภาพภายใน 60 วัน จำนวน 13,426 คัน 2.ยกระดับมาตรฐานการประกอบการขนส่งรถโดยสารไม่ประจำทางทั้งระบบ ซึ่งมีความหละหลวมมากกว่ารถโดยสารประจำทาง 3.ประสานงานกับกระทรวงศึกษาธิการและสถานศึกษาทั่วประเทศ เพื่อขอความร่วมมือกรณีมีความจำเป็นต้องใช้รถนำนักเรียนหรือผู้สูงอายุนอกพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยของรถก่อนเดินทางทุกครั้ง 4.ออกกฎหมายเพิ่มเติมเงื่อนไขในการออกใบอนุญาตให้มีพนักงานประจำรถ ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการเผชิญเหตุและการช่วยเหลือผู้โดยสารในเหตุการณ์วิกฤติ 5.ออกกฎหมาย เพื่อให้ผู้ประกอบการต้องแนะนำข้อมูลและแนวทางเผชิญเหตุฉุกเฉินในการใช้บริการเหมือนบนสายการบิน
รถเกิดเหตุถังก๊าซต่อเติมเกินมา5ถัง
ภายในห้องประชุมกรรมาธิการ ได้มีการตั้งคำถาม ซึ่งนายพีระเดช ศิริวันสาณฑ์ สส.นครสวรรค์ พรรคภูมิใจไทย และนายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน ได้ซักถามถึงการตรวจสอบจำนวนถังก๊าซภายในรถ ที่พบว่ามีถึง 11 ถัง อีก 5 ถังที่เกินมา ได้เพิ่มเข้ามาในขั้นตอนไหน การตรวจสภาพรถเป็นการตรวจทิพย์หรือไม่ เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้ตรวจสอบสภาพรถจะไม่เห็นจำนวนถังที่เกินมา รวมถึงการจดทะเบียนครั้งแรกตั้งแต่ปี 2513 และมีการจดทะเบียนอีกครั้งในปี 2561 ได้มีการดัดแปลงสภาพไปมากเพียงใด “ปี2513 ผมยังไม่เกิดเลย มีอะไรคงเดิมบ้างในรถคันนี้ และเราต้องนับอายุของรถจากเวลาใดกันแน่” นายพีระเดช กล่าว
ขณะที่อธิบดีกรมขนส่งทางบก ยืนยันว่ามีการติดตั้งถังก๊าซเกินกว่าที่จดทะเบียนไว้ 5 ถัง จากที่จดทะเบียนไว้ 6ถัง รวมเป็น 11ถัง ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการของกรมและเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อดูว่า ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
จากนั้น นายจิรุตม์ ได้ให้ นายชีพ อธิบายเหตุการณ์และข้อมูลเพิ่มเติมว่า รถคันที่ประสบเหตุถังที่รั่วไหลเป็นถังหมายเลข 8 ซึ่งไม่ได้อยู่ในรายการตรวจสอบของวิศวกร ถังที่ได้รับการตรวจสอบ มีเพียงครั้งที่ 1-6 ซึ่งทางหมายเลข 8 เป็นถังที่อยู่นอกระบบ ซึ่งต้องเป็นการพิสูจน์หลักฐานของตำรวจต่อไป
นายชีพ ยังกล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการบริษัทชินบุตร พบว่า ใบผู้ประกอบการขนส่ง มีรถในกำกับดูแล 2 คัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคันที่ประสบอุบัติเหตุ เบื้องต้นทางกรมการขนส่งได้ระงับใบประกอบอนุญาต เพราะรถอีกคันก็ไม่สามารถใช้งานได้ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพราะมีลักษณะรถที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งขนส่งจังหวัดได้ออกคำสั่งให้เอารถมาตรวจ ที่จังหวัดลพบุรี เพราะมีเครื่องมือที่พร้อมกว่าซึ่งคาดว่าน่าจะนำเข้ามาตรวจประมาณ 14.00 -15.00 น.
อธิบดีขนส่งวาง5มาตรการคุมเข้ม
ด้าน นายจิรุตม์ กล่าวเสริมว่า คนที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องถังก๊าซเกินจำนวน ประกอบด้วย 1.ผู้ประกอบการหรือเจ้าของรถ เบื้องต้นได้มีการพักใช้ใบอนุญาตจนกว่าผลสอบสวนจะออก 2.คนขับรถ ให้พักใบอนุญาตจนกว่าจะสอบสวนเสร็จ ถ้ามีความผิดก็เพิกถอนใบอนุญาต 3.วิศวกรผู้ตรวจสอบถังแก๊ส ระงับการดำเนินการทั้งหมด 4.บุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (TSM) กรมได้ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่และดึงตัวเข้ามาทำงานที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งผิดหรือไม่ผิดก็ต้องมาดูกัน โดยในบริษัทชินบุตร ทราบว่าเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน กับผู้ประกอบการ ก็ได้มีการเพิกถอนระงับใบอนุญาตเป็นผู้จัดการด้านความปลอดภัยแล้ว เพราะมีความบกพร่องในหน้าที่ที่ปล่อยให้เกิดเหตุได้ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดอยู่ระหว่างการสอบสวน หากพบว่ามีความผิด ในเรื่องของคำสั่งปกครอง ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ในคดีอาญาก็ดำเนินการไปถ้าเจ้าหน้าที่มีความผิดกรมก็ดำเนินการทางวินัยต่อไป ส่วนของเอกชนก็จะต้องโดนทั้งแพ่งทางอาญา ส่วนโทษทางปกครองก็คือ ต้องถอนใบอนุญาตประกอบการ ถอนใบอนุญาตขับรถ ถอนใบรับรองการติดตั้งก๊าซ ถอนการเป็นผู้จัดการด้านความปลอดภัย
ภายหลังเข้าประชุม นายจิรุตม์ เปิดเผยว่า ตนได้ชี้แจงการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ในกรณีรถบัสทัศนศึกษาเกิดเหตุเพลิงไหม้ ว่ามีอะไรในตัวรถที่บกพร่องบ้าง ทั้งนี้ ได้รายงานข้อเท็จจริงให้ กมธ.รับทราบ รวมถึงมาตรการดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และมาตรการที่ใช้กำกับดูแลป้องกันเหตุในลักษณะนี้ เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยเป็นลักษณะข้อเท็จจริงส่วนการตรวจสภาพรถ ผู้เชี่ยวชาญจากกรมการขนส่งทางบก ได้สํารวจพื้นที่ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่รายละเอียดจากการสอบสวน ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหรือหลัง ขออนุญาตให้อยู่ในสำนวนของพนักงานสอบสวน
ตั้งคกก.สอบข้อเท็จจริงขีดเส้น2สัปดาห์
“สิ่งที่พบและสำคัญที่สุด คือถังแก๊สตามที่ได้จดทะเบียนไว้ ซึ่งรถคันเกิดเหตุ ได้แจ้งจดทะเบียนว่ามีถังแก๊ส 6 ถัง แต่ทางพนักงานสอบสวนไปตรวจสอบดูแล้วมีความเห็นตรงกันว่า มีถังแก๊สเกินกว่าที่จดทะเบียนไว้ 5 ถัง โดยต้องมีการสอบสวนต่อไปว่าเกินมาได้อย่างไร ช่วงเวลาใด และใครเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้น ต้องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการในเรื่องนี้” อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษเพื่อตรวจสอบบ้างหรือไม่ นายจิรุตม์กล่าวว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เรื่องวิธีปฏิบัติหลักเกณฑ์ ว่ามีใครหลวมตรงไหน และกำหนดให้รายงานภายใน 2 สัปดาห์นี้ ส่วนเรื่องการสอบสวนเป็นหน้าที่ของอาญา
ผบช.สพฐ.ยันสาเหตุเกิดจากก๊าซรั่ว
ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. เปิดเผยว่า ขณะนี้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจสอบรถบัสที่เกิดไฟไหม้เพิ่มเติมทั้งระบบก๊าซ ระบบเบรก และการเดินรถ เพื่อความรอบคอบและรายละเอียดของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ แต่เบื้องต้นยืนยันว่าเกิดการรั่วไหลของก๊าซบริเวณส่วนหน้าของรถ ส่วนอะไรเป็นตัวที่ทำให้เกิดประกายไฟ จนลุกลาม รวมถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการรั่วไหล ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ แต่มีข้อสันนิษฐานอยู่ 2 ประเด็น ซึ่งไม่สามารถเปิดได้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ควบคุมของรถ หรือความเสื่อมสภาพของท่อต่อก๊าซต่างๆ ยังต้องรอการตรวจสอบ เนื่องจากเพลิงลุกไหม้ครั้งนี้ มีก๊าซเข้าไปเป็นเชื้อเพลิงในการลุกไหม้ของรถอย่างรวดเร็ว
รอผู้เชี่ยวชาญระบบก๊าซเข้าตรวจสอบ
ดังนั้นก็จะต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านระบบก๊าซมาให้ข้อมูล กับเจ้าหน้าที่ พฐ.และตรวจสอบในเชิงลึก โดยยึดหลักนิติวิทยาศาสตร์ ว่าอะไรเป็นชนวนให้เกิดประกายไฟลุกลามขึ้นมา เพื่อสรุปให้กับพนักงานสอบสวนตามขั้นตอน ส่วนที่มีการติดตั้งก๊าซเกินจำนวนกว่าที่ได้รับอนุญาต ถือว่าเป็นหลักฐานชัดเจนที่มีการกระทำความผิด
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ขอบคุณทุกกำลังใจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่สามารถปฎิบัติหน้าที่และสามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้อย่างรวดเร็วและเป็นไปตามาตรฐานสามารถคืนร่างของผู้เสียชีวิตให้กับญาติภายใน 27 ชม.เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่มีความห่วงใยประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี