‘เชียงใหม่-เชียงราย’อ่วม
น้ำท่วมอีกรอบ
ฝนถล่ม/น้ำล้นเข้าตัวเมือง
ร้านค้า‘ไนท์บาซาร์’จมอีก
ดอยเต่าหนักสุดรอบ10ปี
เตือน37จังหวัดฝนหนัก
เชียงใหม่ อ่วมหนัก ฝนถล่มหนัก-น้ำปิงทะลักท่วมตัวเมือง กระทบโรงแรม-ร้านค้ากว่า 300 แห่งดอยเต่าท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี ส่วนแม่น้ำสายไหลหลากท่วมพื้นที่ส่วนฝนตกหนักทำน้ำป่าท่วมพื้นที่แม่ริม ศูนย์อนุรักษ์ช้าง เร่งอพยพช้างกว่า100เชือก อ.แม่สาย จ.เชียงรายซ้ำ ส่วนลำปางฝนถล่ม 6ชม.น้ำป่าทะลักท่วมหมู่บ้าน โดยทั้งว2เขื่อนใหญ่ ระดับน้ำเพิ่มสูง เขื่อนเจ้าพระยา ปรับระบายน้ำเป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนเตรียมรับมือน้ำล้นตลิ่ง ปภ.สรุปน้ำยังท่วม 18 จังหวัด เตือน ฝนตกหนัก 37 จังหวัด
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ครั้งที่ 2ในรอบสัปดาห์ ว่าภายหลังน้ำปิง ล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมย่านการค้าไนท์บาซาร์ พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จนถึงถนนช้างคลาน กลายสภาพเป็นคลอง ระดับน้ำสูง 50-70 เซนติเมตร ร้านค้ากว่า 300 แห่ง และโรงแรมที่พักขนาดใหญ่ ต่างได้รับผลกระทบ ต้องใช้รถขนาดใหญ่และเรือรับส่งนักท่องเที่ยวเข้าออกอย่างทุลักทุเล ซึ่งน้ำท่วมชุมชนเขตเมืองเชียงใหม่ ขยายวงกว้าง โดยเฉพาะในรัศมี 1 กิโลเมตร จากลำน้ำปิง
เชียงใหม่อ่วมหนักน้ำท่วมสูง
ทั้งนี้ ในบางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร เช่น ชุมชนป่าพร้าวนอก และถนนเจริญประเทศ ด่านแรกที่รับน้ำตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา รวมถึงสนามกอล์ฟยิมคาน่า ย่านวัดเมืองกาย ถูกน้ำท่วมเกือบเต็มพื้นที่ และอีกหลายชุมชนซึ่งต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ส่วนแม่น้ำปิง ยังทรงตัวอยู่ในระดับ 4.80 เมตร ภาพรวมสถานการณ์น้ำยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากตลอดคืนที่ผ่านมา ยังคงมีฝนตกหนักทางตอนเหนือ อ.เชียงดาว และ อ.แม่แตง คาดการณ์ว่ามวลน้ำก้อนใหญ่จะเคลื่อนถึงตัวเมืองเชียงใหม่ จนทำให้แม่น้ำปิง เพิ่มสูงอีก
น้ำป่าทะลักเข้าท่วมพื้นที่แม่ริม
ขณะเดียวกัน ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำป่าจากดอยไหลทะลักสู่น้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ระดับน้ำสูงและมีสีแดงขุ่น ไหลเชี่ยวรุนแรง ไหลบ่าลงสู่พื้นที่ลุ่มต่ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวน้ำตกแม่สา ต้องแจ้งไปยังอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนพื้นที่ลุ่มให้รับมือมวลน้ำ พร้อมกับปิดกั้นพื้นที่ในหลายตำบลของ อ.แม่ริม เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ที่ถนนโชตนา-แม่ริม น้ำได้หลากลงสู่ผิวถนนแล้ว
ตลาดเมืองใหญ่ริมปิงกระทบหนัก
ขณะที่บริเวณตลาดเมืองใหญ่ ริมน้ำปิง ถูกน้ำท่วมระดับหัวเข่า ภายหลังระดับน้ำปิงเพิ่มสูงขึ้น ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าซึ่งนำสินค้ามาวางขาย ต่างต้องรีบขนย้ายสินค้า ส่วนผัก ผลไม้ อาหารสด ชาวบ้านที่มาหาซื้อ ต้องลุยน้ำเข้าออก เพราะไม่สามารถขับรถเข้าไปได้ ทั้งนี้ พ่อค้าแม่ค้าหลายรายจำใจต้องปิดร้าน เนื่องจากน้ำที่ท่วมเป็นอุปสรรคทำให้แทบไม่มีลูกค้า รวมทั้งหากวางสินค้าไว้ อาจได้รับความเสียหาย
น้ำแม่แตงท่วมศูนย์อนุรักษ์ช้างฯ
อีกด้านหนึ่ง ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสถานการณ์ฝนตกหนักบนดอย ได้ส่งผลให้ลำน้ำแม่แตง ไหลเข้าท่วมศูนย์อนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม โดยทาง น.ส.แสงเดือน ชัยเลิศ เจ้าหน้าที่มูลนิธิอนุรักษ์ฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า น้ำป่าได้หลากเข้าท่วมพื้นที่ศูนย์บริบาลช้าง แอลลิแฟ้นท์ เนเจอร์ปาร์ค และมูลนิธิอนุรักษ์ฯ ต้องอพยพช้างกว่า 100 เชือก และสัตว์อีกหลายชนิด โดยอาสาสมัครต้องลุยน้ำเข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ น้ำป่าไหลลงมาอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ได้มีการอพยพช้างไปอยู่ตามสวนผลไม้ที่เช่าไว้ พร้อมกับสัตว์ป่วยและพิการนับพันตัว ให้ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
มีรายงานด้วยว่า ถนนทั้งสองฝั่งในพื้นที่ถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่จึงต้องขอสนับสนุนเรือ เพื่อเข้าพื้นที่ ส่วนถนนปางไม้แดง ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่ใช้สัญจรได้ก็เกิดดินสไลด์ ปิดทับถนนแล้ว จึงมีการประสานไปยังจังหวัด เพื่อขอให้เร่งเคลียร์เส้นทางดังกล่าว
กรมอุทยานฯเร่งช่วยอพยพสัตว์
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์กับทางไทยพีบีเอสออนไลน์ ว่าขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เกือบ 50 นาย พร้อมอุปกรณ์เรือสปีดโบ้ท รถโฟร์วิล ระดมเข้าพื้นที่เพื่อช่วยอพยพสัตว์ป่าแล้ว แต่พบอุปสรรคคือถนนรอบทางเข้าถูกตัดขาด จึงประสานขอเรือท้องแบน ใช้สัญจรแทน นอกจากนี้ยังต้องการอาสาสมัครจำนวนมากเข้าช่วยอพยพสัตว์ ซึ่งมีทั้งช้างนับ 100 เชือก สัตว์ป่วย พิการ นับพันตัว รวมทั้งทีมสัตวแพทย์ เนื่องจากช้างบางเชือก มีปัญหาเรื่องอารมณ์และไม่เชื่อง ขณะที่หน่วยช่วยชีวิตช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ พร้อมสัตวแพทย์ ควาญช้าง และโมบายด์ยูนิต กำลังออกเดินทางจาก จ.ลำปาง ไปช่วยเหลือปางช้างที่ประสบอุทกภัยใน อ.แม่แตง จ. เชียงใหม่
‘ดอยเต่า’ท่วมหนักสุดรอบ10 ปี
รายงานแจ้งว่าสถานการณ์ในพื้นที่ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ หลังเกิดฝนตกหนักช่วง 2วันต่อเนื่องทำให้อ่างเก็บน้ำแม่หาด มีน้ำเต็มความจุมีมวลน้ำล้นสปิลเวย์ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาเพิ่มและน้ำท่า จาก บ.ผาต้าย ต.แม่ลาน อ.ลี้ จ.ลำพูน เข้ามาสบทบ ทำให้นำเอ่อล้นตลิ่งไหลลากเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรของประชนชน ในพื้นที่ ต.โปงทุ่ง และ ต.ดอยเต่า ได้รับความเสียหาย ประกอบด้วยด้วย ต.โปงทุ่ง จำนวน 7 หมู่บ้าน ผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 545 หลังคาเรือน ต.ดอยเต่า จำนวน 389 ครัวเรือน ซึ่งบางจุดที่น้ำไม่เคยท่วมมาก่อน แต่ในปีนี้กลับถูกน้ำท่วมบนดอยเต่า ต.โปงทุ่ง อ.ดอยเต่า ทำให้ชาวบ้านต่างต้องยกของขึ้นที่สูง ถือว่าหนักที่สุดในรอบ 10 ปี
เชียงรายหนักน้ำท่วมพื้นที่ซ้ำอีก
ที่ จ.เชียงราย สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่สาย ทั้งที่ ต.เวียงพางคำ และ ต.แม่สาย ยังคงมีน้ำท่วมหนัก ภายหลังคืนที่ผ่านมา ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสาย ได้ไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ชุมชนหัวฝาย สายลมจอย เกาะทราย ไม้ลุงขน เหมืองแดง ซึ่งปริมาณน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำสาย โดยส่วนหนึ่งไหลล้นข้ามบิ๊กแบ็กที่ตั้งเป็นคันกั้นน้ำไว้ใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 (แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก) และมีจุดที่รั่วซึมจากพื้นที่บ้านหัวฝาย
แม่สายช้ำเพิ่งขนดินโคลนออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ได้พยายามอุดรูรั่วและสูบน้ำกลับออกไปยังแม่น้ำสาย เพื่อป้องกันไม่ให้มวลน้ำจำนวนมากทะลักเข้าสู่ชุมชน และแม้ว่าปริมาณน้ำจะค่อยๆ ลดลงแล้ว แต่น้ำก็ยังคงท่วมขังในชุมชนผามควาย ต.แม่สาย ซึ่งเป็นชุมชนที่พึ่งได้รับการช่วยเหลือฟื้นฟู โดยนำดินโคลนออกจากซอยในชุมชนดังกล่าว เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่หลังจากมวลน้ำกลับเข้ามาท่วมพื้นที่ชุมชนแห่งนี้อีก จึงเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าในการช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป
เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือชาวบ้าน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.แม่สาย โดยเฉพาะโซนที่ติดกับลำน้ำแม่สาย พบว่ายังคงต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากยังมีปริมาณฝนที่ตกลงมาจากด้านเหนือของแม่น้ำสาย โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งเทศบาล ต.เวียงพางคำ และเทศบาล ต.แม่สาย ต่างจัดกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยกันสกัดน้ำบริเวณริมตลิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าสู่ชุมชนได้ง่าย พร้อมทั้งประกาศแจ้งเตือนและช่วยเหลือชาวบ้านที่ต้องการอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าว
ลำปางน้ำป่าหลากท่วมอ.แม่พริก
ส่วนที่ จ.ลำปาง นายจรัสพันธ์ อรุณคง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลำปาง รายงานสถานการณ์ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ว่าพื้นที่ อ.แม่พริก เกิดฝนตกหนักนานกว่า 6 ชั่วโมง ส่งผลให้น้ำป่าทะลักจากภูเขาไหลลงอ่างเก็บน้ำผาวิ่งชู้ อ.แม่พริก ล้นสปิลเวย์ ลงสู่ลำห้วยแม่พริก เป็นจำนวนมาก ซึ่งน้ำป่าที่ไหลเชี่ยวแรง ผ่านพื้นที่หลายหมู่บ้าน ทั้งหมู่บ้านสันขี้เหล็ก, บ้านแม่พริกบน, บ้านร่มไม้ยาง, บ้านแม่พริกลุ่ม, บ้านท่าด่าน จนน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำ
สะพานถูกตัดขาดสัญจรไม่ได้
นอกจากนี้ยังพบกอไผ่ไหลมาติดที่ตอม่อสะพานข้ามลำห้วยแม่พริก บริเวณหมู่บ้านห้วยขี้นก หมู่ 7 ต.แม่พริก ทำให้สะพานพังถล่ม ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรได้ และฝนที่ยังคงตกอยู่จึงทำให้น้ำป่ายังไหลหลากลงมายังอ่างเก็บน้ำผาวิ่งชู้ อย่างต่อเนื่อง
2เขื่อนใหญ่ลำปางน้ำเพิ่มสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน มวลน้ำในแม่น้ำวังที่ไหลผ่านในเขตเทศบาลนครลำปาง เพิ่มสูงขึ้น หลังจากมีฝนตกใน อ.วังเหนือ และ อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ส่งผลให้มวลน้ำไหลเข้าเขื่อนกิ่วคอหมา และเขื่อนกิ่วลม เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงต้องเพิ่มการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวัง เพิ่มเป็น 370 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ส่วนพื้นที่ท้ายเขื่อนก็ยังมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้มีลำน้ำสาขาไหลมาสมทบจนระดับแม่น้ำวัง ในเขตเทศบาลนครลำปาง เพิ่มสูงขึ้นกว่า 1 เมตร เข้าท่วมบนถนนเลียบแม่น้ำวังทั้ง 2 ฝั่ง บางจุดสูงกว่า 1 เมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ชาวบ้านในพื้นที่ต่างระบุว่าน้ำท่วมเป็นหนที่ 3 แล้วในรอบปี
อยุธยาบ้านริมน้ำท่วมนับเดือน
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สถานการณ์น้ำท่วม ยังคงได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ส่งผลกระทบน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ประกอบกับมีฝนตกหนักในพื้นที่ท้ายเขื่อน ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำน้อย คลองสาขาต่างๆ ยังมีน้ำท่วมสูง ต้องใช้เรือเป็นพาหนะเข้าออก โดยชาวบ้านใน ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำน้อย น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน สำหรับบ้านที่ใต้ถุนสูง น้ำท่วมถึงพื้นบ้านชั้น 2 ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางมวลน้ำล้อมบ้านนานนับเดือนแล้ว
เขื่อนเจ้าพระยาปล่อย2พันลบ.ม.
ด้านนายวิชัย ผันประเสริฐ ผอ.ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท กล่าวว่า เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า ซึ่งปัจจุบันปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา สถานี C2 นครสวรรค์ อยู่ที่ 2,221 ลบ.ม./วินาที สมทบกับปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำสะแกกรัง CT.19 อุทัยธานี อยู่ที่ 71 ลบ.ม./วินาที ระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ที่อัตรา 1,947 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ +15.80 ม.รทก.จึงทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 1,947 ลบ.ม/วินาที เป็นอัตรา 2,000 ลบ.ม./วินาที ขอให้พื้นที่จังหวัดท้ายเขื่อนฯ เตรียมพร้อมป้องกันและแก้ปัญหาน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วม เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ศปช.เตือน7โซนเชียงใหม่เสี่ยง
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.)เปิดเผยว่าที่ประชุม ศปช.ได้ประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงทั้ง 7 โซนใน จ.เชียงใหม่ ได้แก่ โซน 1 บ้านป่าพร้าวนอก (บางส่วน) ร้านอาหารท่าน้ำ ทางลอดใต้สะพานป่าแดด โซน 2 ถนนเจริญประเทศ ป่าไม้เชียงใหม่ โรงเรียนมงฟอร์ตประถม วัดชัยมงคล บ้านป่าพร้าวนอก หมู่บ้านเวียงทอง โซน 3 บ้านเด่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.เชียงใหม่ (บ้านเด่น) หมู่บ้านจินดานิเวศน์ โซน 4 ห้างริมปิงซุปเปอร์ วัดท่าสะต๋อย ตลาดทองคำ ค่ายกาวิละ ถนนกองทราย ตลาดสันป่าข่อย (บางส่วน) โซน 5 ตลาดหนองหอย ถนนเกาะกลาง โรงเรียนมงฟอร์ตมัธยม โรงเรียนกาวิละ วัดเมืองหลวง วัดเมืองสาตรน้อย หมู่บ้านปาล์มสปริงส์ วัดเมืองกาย ถนนราษฎร์อุทิศ โซน 6 ถนนช้างคลาน ไนท์บาร์ซาร์ สี่แยกแสงตะวัน วัดหัวฝ่าย และโซน 7 กาดหลวง กาดเมืองใหม่ สถานีรถไฟ บ้านต้นข้าม หมู่บ้านปาล์มสปริง ถนนเจริญเมือง ถนนแก้วนวรัฐ พื้นที่เวียงกุมกาม
ระดมทุกหน่วยช่วยพื้นที่เชียงราย
ทั้งนี้ กรมทรัพยากรน้ำ รายงานระดับน้ำแม่น้ำกก อ.เมือง จ.เชียงราย รวมทั้งระดับน้ำที่สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 (ด่านพรมแดนแม่สาย) อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทุกหน่วยงานระดมความช่วยเหลือเข้าฟื้นฟูผลกระทบจากโคลนที่ยังตกค้างตามชุมชนอย่างต่อเนื่อง
เตือนท้ายเขื่อนเจ้าพระยารับน้ำสูง
สำหรับสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา หลังจากกรมชลประทาน ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ จึงขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง, คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา, ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) , วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี และ อ.เมือง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี และวัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 20-30 เซนติเมตร
‘ภูมิธรรม’ย้ำเร่งช่วยที่เชียงราย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ จ.เชียงราย ว่าน้ำไหลจากแม่น้ำสาย แต่ไม่มีปัญหาอะไรมาก ช่วงคืนวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ทหารช่างได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านโดยทำงานกันอย่างหนัก 2 ผลัด ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร นอกจากนี้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ในฐานะประธาน ศปช.ส่วนหน้า จ.เชียงราย และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะที่ปรึกษาฯก็อยู่ในพื้นที่ เพื่อดูสถานการณ์
เชียงใหม่น้ำเพิ่มสูง-เร่งสูบออก
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์ที่ จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำสูงขึ้นพอสมควร พ้นจากตลิ่งเกือบ 1 เมตร ขณะนี้มีการเฝ้าระวังแล้ว ได้นำเครื่องสูบน้ำแรงดันสูงประจำอยู่ทุกจุด เคลื่อนย้ายรถราต่างๆ ไปอยู่ในที่ปลอดภัย สำหรับการดูดสิ่งของที่ขวางทางน้ำ จะพยายามเร่งทำ เพื่อระบายน้ำให้เร็วที่สุด ขณะที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก ช้างทั้งหมด 126 เชือก ช่วยมาได้แล้ว 117 เชือก ส่วนอีก 9 เชือก กำลังดำเนินการ และสัตว์ที่เหลือ ได้อพยพไปอยู่ที่ปลอดภัยแล้ว
ชี้เหนือตอนล่าง-ภาคกลางกระทบ
รองนายกฯกล่าวว่าขณะเดียวกัน พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง กระทบหลายจุด ทั้ง จ.พิจิตร สุโขทัย ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็มี จ.เลย กระทบมากหน่อย ส่วนภาคกลาง พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบมากหน่อยคือ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณแม่น้ำน้อยกับแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่หน้างาน กำลังทำงานกันอย่างเต็มที่
ขอพิจารณาเงินเยียวยาชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ภาคเหนือประสบอุทกภัยหลายรอบ จะได้รับเงินเยียวยากี่รอบ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กำลังดูอยู่ แต่ได้จ่ายรอบแรกไปแล้ว ก็ต้องดูว่าสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง เพราะขณะนี้มีข้อเสนอหลายเรื่อง ต้องหาทางแก้ไขต่อไป สถานการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญ เป็นครั้งแรกที่ดินถล่มมากขนาดนี้และแพร่ขยายไปหลายจุด
ปภ.เผยน้ำยังท่วมใน18จังหวัด
วันเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)รายงานว่าได้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมใน 38 จังหวัด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 18 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย เลย อุดรธานี กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม อุบลราชธานี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 51 อำเภอ 252 ตำบล 1,262 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,214 ครัวเรือน
อุตุฯเผยหลายพื้นที่ฝนตกหนัก
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อยโดยมีฝนบางแห่งทางตอนล่างของภาค ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมด้านตะวันออกของภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง
ขอให้ประชาชนบริเวณในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลและพื้นที่ลุ่ม
เฝ้าระวังฝนตกหนัก37จังหวัด
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยมีฝนบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.ชุมพร ลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณ จ.ระนอง พังงา ตรัง และสตูล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี