ศธ.ยกกำลังพลอาชีวะ ร่วมด้วยช่วยประชาชน ฟื้นฟูเชียงรายหลังอุทกภัย พร้อมซ่อมแซมสิ่งของและทำความสะอาด
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2567 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานปล่อยคาราวาน “อาชีวะ ร่วมด้วยช่วยประชาชน” ฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย และตั้งศูนย์ Fix it Center ให้บริการ พร้อมนำผ้ายันต์ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือ สมเด็จเจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ไม่ประมาท แคล้วคลาด ปลอดภัย ให้กับผู้เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ด้วย ในการนี้ นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) และคณะผู้บริหาร ศธ.เข้าร่วม ณ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
รมว.ศธ. เปิดเผยว่า คาราวาน “อาชีวะ ร่วมด้วยช่วยประชาชน” เพื่อช่วยฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในอำเภอแม่สาย และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทีมอาชีวะ กว่า 403 คน จากวิทยาลัยในสังกัด สอศ.ที่เข้าร่วม จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 3-7 ตุลาคม 2567 แต่ในเบื้องต้นจากการลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย พบว่าประชาชนยังต้องการความช่วยเหลือในด้านต่างๆ จึงขยายต่อไปอีก 15 วัน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 22 ตุลาคม ในพื้นที่อำเภอแม่สาย 2 จุด คือ วัดผาสุการาม บ้านไม้ลุงขน และชุมชนบ้านเหมืองแดง แบ่งทีมดำเนินงานเป็น 1.ทีมฟื้นฟูพื้นที่ เป็นนักเรียน นักศึกษา 137 คน จากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี 11 แห่ง ในภาคเหนือ ปฏิบัติงานทำความสะอาด ขุดลอก และดันโคลนในพื้นที่สาธารณะ วัด โรงเรียน และชุมชน โดยใช้รถแม็คโคร รถแทรกเตอร์ รถบรรทุก จากวิทยาลัยฯ ช่วยตักและขนดินโคลนจำนวนมาก และนำสิ่งประดิษฐ์ "รถเข็นดันโคลน" จากวิทยาลัยเทคนิคลำพูน และวิทยาลัยอื่นๆ จำนวน 100 คัน มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว และ 2.ทีม Fix it Center เป็นนักเรียน นักศึกษา จำนวน 266 คน จากวิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยการอาชีพ และวิทยาลัยอื่นๆ ในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก แพร่ ลำปาง ให้บริการล้างทำความสะอาด สิ่งของที่จมโคลนจากน้ำท่วม และซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือการเกษตร เช่นเครื่อสูบน้ำ และรถจักรยานยนต์ อาทิ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตรวจเช็คระบบไฟฟ้า ฟรี แก่ประชาชน
รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ได้รับรายงานจาก เลขาธิการ อาชีวะ เบื้องต้นพบว่ามีประชาชนนำสิ่งของ รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ ตู้เย็น พัดลม เครื่องมือทางการเกษตร เครื่องตัดหญ้า ปั๊มน้ำ มาใช้บริการล้างดินโคลน และซ่อมแซมแล้วกว่า 500 รายการ เนื่องจากมีดินโคลนเยอะมากและจมน้ำ จึงต้องใช้เวลาในการล้างนาน นอกจากนี้ยังเข้าพื้นที่สาธารณะ ชุมชน วัด โรงเรียน ล้างดิน ดันโคลน ล้างพื้น ขุดโคลนจากท่อระบายน้ำ สูบน้ำโคลน กว่า 15 จุด ในอำเภอแม่สาย
“กระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง โดยเหตุการณ์น้ำท่วมช่วงก่อนหน้านี้ ได้จัดตั้งศูนย์ Fix it Center 70 ศูนย์ ในจังหวัดเชียงราย หนองคาย และบึงกาฬ ช่วยเหลือซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ไปแล้วกว่า 8,000 รายการ และในครั้งนี้ได้มาช่วยเร่งฟื้นฟูสภาพพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย วัด สถานศึกษา และพื้นที่สาธารณะ กลับมาในสภาพเดิมมากที่สุด และสามารถดำเนินชีวิตได้ดังเดิมทุกคน คือ ผู้มีจิตอาสา และพร้อมให้ความช่วยเหลือในการดำเนินงานครั้งนี้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ และนักเรียน นักศึกษา ยังได้นำความรู้มาปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง เพิ่มพูนทักษะวิชาชีพด้วย ซึ่งทีมอาชีวะจะหมุนเวียนเข้ามาปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องจนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น สำหรับการดูแลนักเรียน นักศึกษา และผู้มาปฏิบัติงาน ได้จัดให้วิทยาลัยอาชีวศึกษาแม่สายเป็นที่พัก มีอาหารครบมื้อ และอำนวยความสะดวกต่างๆ ส่วนโรงครัวจัดทำที่โรงเรียนบ้านเหมืองแดง แจกจ่ายอาหารให้กับทั้งทีมปฏิบัติงานและประชาชนในพื้นที่ด้วย โดย ศธ. พร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างแท้จริง ย้ำการทำงานภายใต้สโลแกน 3 ท. ทำดี ทำได้ ทำทันที ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาทและอยู่ในความปลอดภัย” รมว.ศธ.กล่าว
ทั้งนี้ มีสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นแกนหลักนำทีมอาชีวศึกษา และได้รับความร่วมมือจากวิทยาลัยสังกัด สอศ.ทั่วประเทศ ร่วมมือ ร่วมใจให้การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี