รอง ผบช.น.แถลงจับ“สันติ”อดีตนักมวยคลั่ง อ้างเหตุยิงเปิดทางใส่ตำรวจ พร้อมเปิดละเอียดยิบเส้นทางหลบหนีหลังบุกเข้าบ้านหมอย่านอินทามาระ ก่อนเหมารถแท็กซี่เกือบหมื่นไปภาคอีสาน อ้างอยากไปหาลูกที่อำนาจเจริญก่อนมอบตัว แต่มาโดนจับเสียก่อน สารภาพติดยาเสพติด พบประวัติก่อเหตุต่อเนื่องหลายพื้นที่อย่างโชกโชน
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 และตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายสันติ อดีตนักมวยชื่อดังค่าตัวเงินแสน ผู้ต้องหายิงต่อสู้เจ้าพนักงานและก่อเหตุบุกรุกบ้านของหมอภายในซอยอินทามาระ 29 แยก 3 หนีการจับกุมเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม จนกระทั่งล่าสุดสามารถติดตามจับกุมได้คนร้ายได้บริเวณด่าน ตรวจของ สภ.โพธิ์กลาง ถนนมิตรภาพมุ่งหน้าขาเข้า บริเวณปากทางเข้าบ้านคลองกระบือ หมู่ 7 ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ถึง สน.บางซื่อ! คุมตัว 'สันติ' สอบเข้ม หลังถูกจับได้ที่โคราช)
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจศูนย์สืบสวนตำรวจนครบาล, กก.สส.บก.น.2 สน.บางซื่อ และ สน.เตาปูน ได้สืบสวนติดตามคนร้ายจากกล้องวงจรปิด พบว่าหลังจากก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีข้ามถนนวิภาวดีมายังฝั่งอาคารตลาดหลักทรัพย์ แล้วเดินทางไปที่แฟลตห้วยขวางเพื่อไปเอาเงินที่ฝากไว้กับเพื่อนกว่า 27,000 บาทจากนั้นได้เปลี่ยนชุดเป็นพนักงานส่งอาหาร สวมหมวกนิรภัยสีดำเต็มใบ เดินออกมา ปากซอยประชาสงเคราะห์ 30 แล้วนั่งวินรถจักรยานยนต์มาที่ซอยรามคำแหง 53
จากนั้นเดินเท้ามาตามถนนเลียบคลองแสนแสบ มาถึงซอยรามคำแหง 65 และเดินทางต่อเนื่องไปถึงซอยลาดพร้าว 112 จึงได้ถอดชุดพนักงาน ส่งอาหารทิ้งแล้วนั่งรถยนต์แท็กซี่ไปที่จังหวัดปทุมธานี รอจนเช้าจึงนั่งแท็กซี่ไปหาที่พักย่านรังสิต คลอง 4 พักจนเย็น จึงนั่งแท็กซี่มาที่ห้องพักรายวันในพื้นที่ อ.วังน้อย พักอยู่อีกประมาณ 2 วัน จึงเหมารถแท็กซี่ 8,000 บาท เพื่อหลบหนีไปยังภาคอีสาน
ต่อมาสืบสวนทราบว่าคนร้ายจะเดินทางไปยังภาคอีสาน ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านเกิด จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจต่าง ๆ ตามเส้นทางการหลบหนี จนต่อมา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.67 เวลาประมาณ 00.30 น. สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา ตั้งจุดตรวจจุดสกัด พบรถแท็กซี่ต้องสงสัย และขอเข้าทำการตรวจค้น ปรากฏว่านายสันติได้วิ่งหลบหนี ตำรวจได้ติดตามจนสามารถจับกุมตัวและตรวจค้นพบอาวุธปืนลูกโม่ จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน .38 จำนวน 15 นัด ตรวจค้นกระเป๋านายสันติที่อยู่ในแท็กซี่ พบอาวุธกึ่งออโตเมติก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน จำนวน 17 นัด
จากการตรวจสอบพบมีหมายจับติดตัวจำนวน 4 หมาย ดังนี้ 1.หมายจับศาลจังหวัดอำนาจเจริญ (หนีประกันศาล) ความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานฯ, 2.หมายจับศาลอาญา (สน.เตาปูน) ความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, 3.หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น (สภ.เมืองขอนแก่น) ความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานฯ และ4.หมายจับศาลอาญา (สน.บางซื่อ) ความผิดฐาน พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตาม หน้าที่ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่
จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายได้ก่อเหตุลักทรัพย์ต่อเนื่องในหลายท้องที่ ดังนี้ เมื่อ 14 ก.ย.67 ก่อเหตุลักทรัพย์ได้เงินสด 900 บาท สุรา 1 ขวด ในพื้นที่ สภ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม, 16 ก.ย.67 ก่อเหตุลักทรัพย์ใน พื้นที่ สภ.เมืองข่อนแก่น, 18 ก.ย.67 ก่อเหตุลักทรัพย์ได้ทรัพย์สิน 14 รายการ มูลค่ากว่า 3 แสนบาท ในพื้นที่ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา และในวันเดียวกันไปก่อเหตุบุกรุกเคหะสถานในพื้นที่ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี และ 27 ก.ย.67 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.เตาปูน ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้ไล่ก่อเหตุ มาตั้งแต่จังหวัดมหาสารคาม, ขอนแก่น, สระบุรี จนมาก่อเหตุที่กรุงเทพฯ
นายสันติ รับสารภาพว่า ติดยาเสพติดต้องการเงินเพื่อมาเสพยา และได้ยืนยันว่าวันเกิดเหตุได้หลบหนีเอง ส่วนทรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์จะเอาเงินหรือทรัพย์สินไปฝากไว้กับภรรยา เพื่อให้ภรรยาแปลงทรัพย์สินที่ขโมยมาได้ ส่วนภรรยาไม่ได้ร่วมก่อเหตุด้วย ที่เอาปืนจี้ตำรวจหลบหนีเกิดจากความเครียดเพราะมีการทะเลาะกันกับผู้ต้องหามาโดยตลอด สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนายสันติ อ้างว่าได้มาจากเพื่อน แต่จากการตรวจสอบของตำรวจพบว่าอาวุธปืนเป็นปืนที่ได้มาจากการขโมยมา เจ้าหน้าที่จะส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบต่อไป
นอกจากนี้นายสันติ ยังรับสารภาพอีกด้วยว่าสาเหตุที่หลบหนีไปยังจังหวัดยโสธรเพื่อที่จะไปพักและต้องการเดินทางต่อไปยังจังหวัดอำนาจเจริญเพื่อต้องการพบลูกอีกครั้ง หลังจากนั้นจะติดต่อขอเข้ามอบตัว แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน ส่วนที่ต้องยิงตำรวจในวันเกิดเหตุนั้นนายสันติอ้างว่า ได้วิ่งหลบหนีตำรวจเกือบสุดทางและเหนื่อย จึงต้องการหยุดยั้งไม่ให้ตำรวจติดตามตัวได้ ส่วนที่เข้าบ้านผู้เสียหายนายสันติได้อ้างตัวเป็นตำรวจเพราะต้องการหาน้ำกินเท่านั้น หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะคุมตัวนายสันติส่งไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ และฝากขังในวันพุธ 9 ต.ค.ต่อไป
ทั้งนี้ นายสันติ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4903/2567 ลงวันที่ 4 ต.ค.67 ในความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน, ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืนฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี