"ป้า"ป่วยติดเตียงชาวบุรีรัมย์ถึงกับน้ำตาซึมหลังให้สามีนำบัตร ATM ไปถอนเงินดิจิทัลหมื่นที่ธนาคาร แต่ จนท.แจ้งบัตรถูกระงับถอนไม่ได้ต้องให้เจ้าของบัญชี ซึ่งป่วยติดเตียงมาเซ็นเอกสารทำบัตรใหม่หรือเบิกเงินที่แบงค์เอง แต่หากให้ จนท.ออกไปบริการที่บ้านต้องรอหลังปีใหม่ สามีวอนเห็นใจเมียติดเตียงช่วยตัวเองไม่ได้หวั่นพาไปรอที่แบงค์อาการป่วยอาจกำเริบหรือช็อกได้ น่าจะมีช่องทางอื่น
8 ต.ค.67 นายตุ๊ก แซ่ฮ้อ อายุ 61 ปี ชาวบ้านบ้านศิลาชัย ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากนำบัตร ATM ของนางจำลอง แซ่ฮ้อ อายุ 61 ปี ภรรยา ซึ่งป่วยติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากว่า 1 ปี ไปกดถอนเงินที่ธนาคาร แต่บัตรไม่สามารถกดถอนเงินได้ จึงไปสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารก็แจ้งว่าบัตรถูกระงับ ต้องให้เจ้าของบัญชีซึ่งเป็นภรรยามาติดต่อเซ็นเอกสารที่ธนาคารเพื่อทำบัตร ATM ใหม่ หรือนำสมุดบัญชีมาเบิกถอนเอง ตนก็แจ้งว่าภรรยาป่วยติดเตียงไม่สามารถมาด้วยตนเองได้ ให้ทำเอกสารมอบอำนาจไปให้ภรรยาเซ็นที่บ้านได้หรือไม่ แต่ทางธนาคารยืนยันว่าต้องนำตัวเจ้าของบัญชีไปติดต่อที่ธนาคารเอง หากจะให้เจ้าหน้าที่นำเอกสารไปให้บริการเซ็นที่บ้าน ต้องรอหลังปีใหม่เพราะช่วงนี้ประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก ยังไม่สามารถออกไปบริการที่บ้านได้
นางจำลอง ภรรยาซึ่งป่วยติดเตียงพูดทั้งน้ำตาว่า หลังจากล้มป่วยติดเตียงก็ไม่สามารถไปค้าขายได้เหมือนเมื่อก่อน ขาดรายได้มีเพียงเบี้ยคนพิการเดือนละ 600 บาท และเงินที่ลูกทำงานส่งมาให้บ้าง แต่พอรู้ว่าได้รับเงินโอนช่วยเหลือจากรัฐบาล 10,000 บาท ก็ดีใจว่าจะมีเงินมาแบ่งเบาภาระบ้าง แต่พอสามีถือบัตร ATM ของตนเองไปกดเพื่อจะถอนเงินที่ธนาคารฯ แต่ไม่สามารถถอนได้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าบัตรถูกระงับ ต้องให้เจ้าของบัญชีมาติดต่อทำบัตรใหม่ หรือนำสมุดไปถอนที่ธนาคารเอง ก็เสียใจเพราะไปด้วยตัวเองไม่ได้ลำพังนอนรักษาตัวที่บ้านก็มีอาการปวดเกร็งเป็นระยะ บางครั้งปวดรุนแรงถึงขั้นน้ำตาไหล แต่หากรอเจ้าหน้าที่ออกมาทำให้หลังปีใหม่ตามที่แจ้ง ก็คิดว่านานเกินไปเพราะจำเป็นต้องใช้เงิน
ด้านนายตุ๊ก สามี บอกว่า อยากร้องขอให้ทางธนาคารพิจารณาหาช่องทางที่ไม่ต้องพาภรรยาที่ป่วยติดเตียงไปเซ็นเอกสารที่ธนาคารได้หรือไม่ เพราะเกรงว่าหากนำภรรยาซึ่งป่วยติดเตียงไป อาจจะส่งผลกระทบต่ออาการป่วยของภรรยา หรือเกิดภาวะช็อกได้เพราะบางครั้งภรรยาก็มีอาการปวดเกร็งที่มือและขา พอต้องนัดไปตรวจรักษาที่ รพ.เป็นระยะ แต่หากจะรอเจ้าหน้าที่ออกไปให้บริการหลังปีใหม่ ก็คิดว่านานเกินไป เพราะจำเป็นต้องใช้เงิน 10,000 บาท ที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล เพื่อนำไปซื้อนม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป หรือแพมเพิส และอาหารอ่อนให้ภรรยา เพราะหลังจากภรรยาล้มป่วยมาประมาณ 1 ปี ตนก็ต้องดูแลภรรยา ทำให้ขาดรายได้ทั้งคู่ ทุกวันนี้มีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุคนละ 600 บาท และลูกส่งมาให้บ้างเท่านั้น จึงหวังว่าจะได้เงิน 10,000 บาท มาแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้บ้าง แต่กลับไม่สามารถเบิกถอนเงินได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี