อดีตสส.กทม.จี้ผู้ว่าฯกทม.สอบโครงการเช่ารถเก็บขยะ EV เหตุรวบรัดตัดตอนจนสะดุดเอง ชำแหละปรับรายละเอียดเป็นรถ EV ปูดมี”เอกชนรายใหญ่“เตรียมรถไว้ที่สระบุรีแล้ว ถามเอื้อประโยชน์หรือไม่ เผยได้ยื่นเรื่องร้อง ป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบแล้ว
9 ต.ค.67 ที่โรงแรมปริ๊นซ์ตัน พาร์ค สวีท นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ อดีตสส.กทม. และอดีตประธานสภากทม. แถลงข่าวถึงโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยพลังงานไฟฟ้า (EV) จำนวน 884 คัน วงเงิน 3,993 ล้านบาท ที่ดำเนินการจัดจ้างอยู่ในเวลานี้ว่า ช่วงปี 67-68 จะมีรถเก็บขนขยะมูลฝอยของ กทม. ประกอบด้วยรถเก็บขนมูลฝอยแบบอัดขนาด 2 ตัน และขนาด 5 ตัน และรถเก็บขนมูลฝอยแบบยกภาชนะรองรับมูลฝอย ขนาด 3 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) และ 8 ลบ.ม. ทยอยหมดสัญญาเช่า ไล่ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.67 ที่ผ่านมา จนถึงเดือน มี.ค.68 ทำให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ที่เข้ามาบริหาร กทม.ในช่วงปีงบประมาณ 2566 ได้แต่งตั้ง คณะกรรมการจัดทำทีโออาร์เพื่อจัดหา รถขยะทั้ง 4 ประเภท วงเงิน 3,993 ล้าน
จากเดิมคณะกรรมการจัดทำทีโออาร์ จะให้ใช้รถสันดาบล้วน แต่ นายชัชชาติ มีนโยบายให้ปรับมาใช้เป็นรถพลังงานไฟฟ้า ทำให้ผู้รับผิดชอบโครงการไม่มั่นใจว่า จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ จนมีการสอบถามไปยัง กรมบัญชีกลาง รวมถึงมีผู้ร้องไปที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงความไม่โปร่งใสของโครงการ และ กทม.ก็ได้มีข้อเสนอแนะมายัง นายชัชชาติ ว่า การดำเนินการโครงการมีความสุ่มเสี่ยง เพราะการเปลี่ยนเป็นรถพลังงานไฟฟ้าอาจต้องปรับเปลี่ยนงบประมาณ แต่ กทม.ยืนยันว่า สามารถใช้งบประมาณได้เท่าเดิม ส่งผลให้ต้องมีการใช้ทรัพยากรของสำนักงานโยธา กทม. ที่เตรียมไว้สำหรับซ่อมแซมถนนมาปรับปรุงสถานที่สำหรับการเป็นพื้นที่ชาร์ตรถที่เขตหนองแขม กทม.
นายประเดิมชัย กล่าวว่า ที่สุดแล้วจนถึงขณะนี้ ผู้ว่าฯชัชชาติ ไม่สามารถดำเนินการโครงการได้จนต้องยกเลิกไปในที่สุด เมื่อการจัดหารถไม่ทันกับรถที่จะหมดสัญญาไปแล้วทำให้ กทม. จัดทำโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยจำนวน 470 คัน วงเงิน 241 ล้านบาท ระยะเวลา 270 วัน โดยมีการปรับเป็นรถพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ กทม.ว่า ขั้นตอนการดำเนินการอาจมีปัญหา มีการออกหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่เร่งรีบผิดปกติ เพราะโครงการดังกล่าวมีการตั้งโครงการ เพื่อส่งเรื่องให้บริษัทต่างๆเสนอราคาและรายละเอียด วันที่ 26 เม.ย.67 เพื่อให้บริษัทเอกชนเสนอราคามาภายในวันที่ 9 พ.ค.67 ซึ่งหนังสือดังกล่าวนำส่งไปยังบริษัทต่างในวันที่ 1 พ.ค. 67 แต่วันที่ 3 พ.ค.67 มีการเรียกเจ้าหน้าที่จัดทำเอกสารเพื่อเตรียมเบิกจ่ายงบกลาง ทั้งที่ไม่มีรายละเอียด สุดท้ายมีการเห็นชอบให้ใช้งบกลางเพื่อดำเนินการโครงการในวันที่ 4 มิ.ย.67 โดยระบุว่า เพื่อให้มีรถมาใช้ทดแทนรถที่จะหมดอายุช่วงเดือน ก.ย.67-มี.ค.68 ทำให้เอกชนทั่วไปเตรียมการไม่ทัน เพราะรถไฟฟ้าจำนวน 470กว่าคัน ถ้าไม่มีการเตรียมการ หรือรู้ตัวไว้ก่อน ก็ไม่มีเอกชนรายใดจัดหารถได้ทัน
“อยากตั้งคำถามว่าการดำเนินการรวบรัดตัดตอนแบบนี้เอื้อประโยชน์ให้ใครหรือไม่ เพราะผมได้ยินมาว่า มีเอกชนรายใหญ่เตรียมรถไว้แล้วที่ จ.สระบุรี แต่ที่สุดแล้ว กทม.ไม่กล้าเดินหน้าจนโครงการต้องพับไป ซึ่งหากตั้งเรื่องโครงการใหม่ แต่ยังคงเดินหน้าทำแบบเดิมอีก ก็ไม่มีใครเตรียมรถทันอยู่ดี เรื่องนี้ผมได้ร้องไปที่ ป.ป.ช.แล้ว และทราบว่าป.ป.ช. ได้เรียก กทม. ไปชี้แจงแล้วด้วยเช่นกัน จึงขอเรียกร้องให้ผู้ว่าฯชัชชาติ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง เหมือนเมื่อครั้งที่ตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายที่แพงเกินจริง ควบคู่ไปกับการตรวจสอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อรักษาผลประโยชน์ของคน กทม.” นายประเดิมชัย กล่าว.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี