รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น...ต้องเตือนกัน คืออีกไม่ถึง 1 เดือน ก็จะถึงฤดูมรสุมของภาคใต้ ซึ่งคงจะต้องหนักหนา ไม่ต่างกับอุทกภัย ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลายจังหวัด เท่าที่เห็น หลายพื้นที่ หลายจังหวัด หลายเทศบาล ยังไม่ได้มีการเตรียมรับมือ ด้วยการกำจัดขยะ ในคูน้ำ ลำคลองหลายแห่งมีสภาพที่ตื้นเขิน ก็ยังไม่มีการขุดลอก เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก ลงในแม่น้ำ ก่อนที่จะไหลลงทะเล ที่เห็นมา คูกลางถนน ของถนนสายลพบุรีราเมศวร์ อำเภอหาดใหญ่- อำเภอเมือง ยังมีทั้ง หญ้า ทั้งต้นไม้ เต็มไปหมดแขวงการทางยังไม่ตื่นตัว ในการรับมือกับหน้ามรสุม ที่กำลังจะมา.....วันนี้ เมืองท่องเที่ยว อย่างเกาะภูเก็ต ที่ฝนตกธรรมดา ก็มีเหตุน้ำท่วม และดินถล่ม เช่นเดียวกับเมืองท่องเที่ยว ที่เป็นเกาะแก่ง ก็ยังคงทำงานแก้ปัญหาแบบเช้าชามเย็นชาม ไม่มีความกระตือรือร้น ส่วนสองจังหวัดที่มีข่าวว่า มีการประชุม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับมือกับน้ำท่วมดินถล่ม คือ จังหวัดพัทลุง และจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งจังหวัดพัทลุง นั้น มีน้ำตกหลายแห่ง ในหลายอำเภอ ที่เป็นต้นเหตุของดินถล่ม หากรับน้ำไม่ได้ เช่นเดียวกับจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่น้ำจากเขาหลวง คือสาเหตุของอุทกภัย ส่วนจังหวัดตรัง ก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัด ที่เสียหายจากการเกิดเหตุน้ำท่วมของทุกปี ก็หวังว่า ทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และบุ่นเล้งโล่สถาพรพิพิธ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง มีการประชุมหน่วยงานเพื่อการรับมือกับน้ำท่วม ในครั้งนี้ได้ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา.....อ่านข่าวพบว่า เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรี และเสนาบดี กระทรวงมหาดไทย มีการสั่งการ อย่างเฉียบขาด อย่าให้เกิดอาการเกียร์ว่าง ของผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะทุกเรื่องที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งเรื่องน้ำท่วม เรื่องภัยแล้ง และอื่นๆ ที่เป็นความทุกข์ และความเดือดร้อน ของประชาชน เป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งสิ้น.... เรื่อง น้ำมันเถื่อนก็ยังคงเปิดขายตามริมถนนสาย สะเดา - ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา รวมทั้งยังมีการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนโดยใช้รถหัวลากที่เพิ่มถังใส่น้ำมันลับ แล้วยังมีรถกระบะ รถเก๋งที่มีถังลับ ลอบขนน้ำมันเถื่อนเข้ามาทางด่านสะเดาที่ด่านนอก ก็ไม่ทราบว่า เจ้าหน้าที่ฯที่นั้น มองไม่เห็น หรือทำเป็นมองไม่เห็น นับว่าเป็นเรื่องแปลก..ส่วนบรรดารถพ่วง รถสิบล้อ รถ 22 ล้อ หากเส้นไม่ใหญ่จริงๆ ไม่กล้าขับรถวิ่งเลนขวา จาก บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ ไปถึง ด่านสะเดาหรอก ทั้งขนส่ง ตำรวจทางหลวง กลับมองไม่เห็น...ปิดท้าย เดือนตุลาคมนี้ จะมีเหตุรุนแรง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีความเคลื่อนไหว จากมวลชน ที่เป็นปีกทางการเมืองของบีอาร์เอ็น และกลุ่มภาคประชาชน และมูลนิธิ และเอ็นจีโอ ในการจัดกิจกรรม เพื่อกดดัน ให้จำเลยทั้ง 7 ราย ที่ศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับ ในคดีการชุมนุมที่ สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ปี 2547 หรือ 20 ปี ที่แล้ว และเป็นภาระหน้าที่ของ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.
ภาคที่ 4 คนใหม่ คือ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ในการวางแผน เพื่อรับมือ ทั้งกับความเคลื่อนไหวของมวลชน และระเบิด ทั้งแบบแสวงเครื่องและคาร์บอมบ์ ที่ วันนี้บีอาร์เอ็น ใช้วิธีการมาเร็ว เคลมเร็วก็ต้องให้โอกาส และให้กำลังใจ กับแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ ในการนำทัพ เพื่อรับมือกับบีอาร์เอ็น ในเดือนตุลาคม ส่วนจำเลยทั้ง 7 คน ที่ศาลนราธิวาสออกหมายจับ และเจ้าหน้าที่อีก 8 คน ที่ถูกอัยการสั่งฟ้อง ถ้า ตำรวจหาตัวไม่พบ และจับกุมมาส่งศาลจังหวัดนราธิวาสไม่ได้ คดีเป็นอันพับเพราะหมดอายุความ
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี