กรรมาธิการกฎหมายฯ สภาฯ เผยตำรวจยังตามตัว “จำเลย-ผู้ต้องหา”ในคดีตากใบทั้ง 14 ราย ไม่ได้ รับมี 2 ราย หนีออกต่างประเทศ ประสานขอหมายแดง ลากคอกลับ ส่วนอีก 2 ราย ยังรับราชการอยู่ จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสปีดก่อนคดีหมดอายุความ 25 ตุลาคมนี้ กระตุกสำนึกควรยืดอกสู้คดี ไม่ใช่ยื้อ-หันหลังให้กระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 9ตุลาคม 2567 เวลา13.40น. ที่รัฐสภา นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมกมธ. ที่มีการติดตามความคืบหน้าการติดตามตัวจำเลย และผู้ต้องหาในคดีตากใบ โดยมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพบก(ทบ.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) อัยการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เป็นต้น มาชี้แจงให้ข้อมูลว่า ประเด็นสำคัญที่สังคมอยากรับทราบ คือมีการติดตามสืบหาตัวจำเลย และผู้ต้องหารวม14ราย ตามหมายจับของศาลนราธิวาส และศาลจังหวัดปัตตานี ไปถึงไหนแล้ว เพราะคดีจะขาดอายุความในวันที่25ต.ค.นี้
ซึ่งในช่วงเริ่มต้นการประชุมกมธ.ฯ กระบวนการต่างๆเราเปิดโอกาสให้มีการซักถาม จนมีข้อสรุปคือเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามตัว จำเลย และผู้ต้องหาทั้ง14ราย ตามภูมิลำเนาทะเบียนบ้านแล้วแต่ไม่พบตัว นอกจากนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่าจากการประสานข้อมูลกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบผู้ต้องหาเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว 2 ราย แต่ขอสงวนไม่บอกชื่อ จึงได้ประสานกองการต่างประเทศ เพื่อขอออกหมายแดงประสานงานกับผู้ที่มีข้อมูลผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่ออกนอกประเทศไป
“ทางกมธ.การกฎหมายฯ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการชี้แจงกระบวนการติดตามตัวผู้ต้องหาที่เดินทางออกไปต่างประเทศให้เร็วที่สุด เพราะคดีใกล้จะหมดอายุความ25ต.ค.นี้ ส่วนผู้ต้องหา และจำเลยอีก 12 คนที่อยู่ในประเทศ มีอีก 2 คนที่พบว่ายังรับราชการอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามประสานงานกับผู้บังคับบัญชาของทั้ง 2 รายที่ยังรับราชการอยู่มามอบตัว เพราะขณะนี้ไม่ยอมมาทำงาน สรุปก็คือจำเลย และผู้ต้องหาทั้งหมดยังติดตามตัวไม่ได้”
และว่า กมธ.ฯฝากความหวังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามตัว ขณะที่อัยการภาค 9 ยืนยันว่า หากจับตัวผู้ต้องหาได้ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ได้เตรียมสำนวนฟ้องไว้เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของกอ.รมน. และสภาความมั่นคงแห่งชาติ กมธ.ฯแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ในพื้นที่ เกรงว่าหากคดีหมดอายุความแล้วไม่สามารถจับใครได้เลย อาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งอยู่ก่อนแล้ว อย่างเช่นก่อนหน้านี้เกิดเหตุการณ์คาร์บอมบ์บริเวณบ้านพักนายอำเภอตากใบเมื่อช่วงปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีตากใบ กมธ.ฯจึงฝากไว้ว่าไม่อยากให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ ไม่อยากให้คดีนี้เป็นเงื่อนไขเพิ่มขึ้นอีกต่อไป
เมื่อถามว่าหากคดีหมดอายุความและไม่สามารถติดตามตัวจำเลยและผู้ต้องหาทั้งหมดได้ จำเลยและผู้ต้องหาจะต้องมีความรับผิดชอบอย่างไร อย่างเช่น กรณีของพล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่4 ผู้ต้องหาในคดีตากใบ จะต้องลาออกจากสส.หรือไม่ ประธานกมธ.การกฎหมายฯ กล่าวว่า อยู่ที่ความสำนึกของแต่ละคนว่าจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีข้อกฎหมายใดที่จะตอบแทนในเรื่องนี้ได้ หากเขาทราบอยู่แล้วว่ามีหมาย แทนที่จะมามอบตัวสู้ดคีตามกระบวนการยุติธรรม แต่กลับหันหลังให้กับกระบวนการฯเพื่อให้ขาดอายุความ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี