กกล.บูรพาสกัดจับ 14 แรงงานเถื่อนเขมรหนีความอดอยากลอบเข้าไทยหางานทำ
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 11 ต.ค.67 พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา กกล.บูรพา (คนใหม่)ได้สั่งการให้ พ.อ.เฉลิมเกียรติ ศิริสมบูรณ์ ผบ.ฉก.ร.112 (ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่112) ร่วมกับ พ.ต.อ.ปาริชาติ บรรจงปรุ ผบ.ชค.ตชด.12 (ผู้บังคับชุดควบคุมตำรวจตะเวณชายแดนที่12) นำกำลังพล กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตะเวณชายแดนที่1 (ร้อย ฉก.ตชด.1) ออกทำการลาดตะเวณและเฝ้าตรวจป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายและการขนสินค้าผิดกฏหมายลักลอบเข้ามาในประเทศไทย ตามช่องทางธรรมชาติบริเวณชายแดน ด้าน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ตามนโยบายคุมเข้มตลอดแนวชายแดน ของ พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่1คนใหม่
ต่อมาขณะที่กำลังพล ร้อย ฉก.ตชด.1 ลาดตระเวนมาถึงบริเวณบ้านคลองแผง ม.10 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบรถอีแต๊กหรือรถไถนาเดินตามต่อพ่วงกระบะท้ายบรรทุกแรงงาน พร้อมกระเป๋าสัมภาระมาเต็มคันรถขับมาตามถนนการเกษตร (ถนนลูกรัง) จากแนวชายแดน มุ่งหน้าเข้าพื้นที่ชั้นในเจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบมีนายบัญชา อายุประมาณ 45 ปีชาวบ้านใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นผู้ขับขี่รถอีแต๊ก เมื่อตรวจสอบบริเวณกระบะบรรทุกต่อพ่วง พบมีแรงงานชาวกัมพูชานั่งโดยสารมารวมทั้งหมด 14 คนเป็นชาย 7 คน และหญิง 7 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระตรวจสอบไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทยแต่อย่างใด ซึ่ง 1 ในแรงงานกัมพูชา อ้างว่าหนีความอดอยากจากบ้านเกิดชักชวนกันลักลอบเข้าไทยเพื่อมาหางานรับจ้างทำ
สอบถามนายบัญชา รับว่าได้ลักลอบขนแรงงานกัมพูชทั้ง 14 คนมาจากแนวชายแดน เพื่อลักลอบเข้ามาทำงานรับจ้างทำงานไร่มันสำปะหลังในประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมรถอีแต๊กของกลาง ไปส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี