เลขาปปง. สั่งเร่งสืบทรัพย์ ดิไอคอนกรุ๊ป ชงบอร์ดธุรกรรม ออกคำสั่งยึดทรัพย์ "เจ้าของ" และพวก - เผย"รมต.จิราพร” เชิญหารือทำเนียบฯเย็นนี้
วันที่ 11 ตุลาคม 2567 จากกรณีที่กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) ได้ส่งแบบรายงานคดีกรณี นายณัฏฐ์ กับพวก (ผู้เสียหาย) รวม 90 ราย รวมความเสียหายประมาณ 35 ล้านบาท เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก (ผู้ต้องหา) ในความผิดฐาน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มาตรา 4,5,12 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้ส่งมายังสำนักงาน ปปง.นั้น
วันนายวิทยา นีติธรรม ผอ.กองกฎหมาย และในฐานะโฆษกสำนักงาน ปปง. เปิดเผยว่า นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิ การ ปปง. ได้มีคำสั่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ปปง. เข้าไปดำเนินการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังได้มีการประชุมทีมเจ้าหน้าที่ในเนื้อหาสาระสำคัญ โดยในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาดำเนินการ โดยระหว่างนี้ ปปง. จะทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ครบถ้วนจากรายงานข้อมูลของตำรวจ ปคบ.ว่าเพียงพอที่ ปปง. จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ได้หรือไม่ หากยังมีรายละเอียดใดที่ ปปง. ประสงค์เพิ่มเติมก็จะต้องทำการสอบถามกลับไปใหม่ เพื่อให้ได้ความถูกต้องชัดเจนมากที่สุด ทั้งในส่วนรายการทรัพย์สิน หรือตัวบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์
สำหรับรายละเอียดภายในหนังสือแบบรายงานคดีของตำรวจ ปคบ. ที่ส่งให้ ปปง. ดำเนินการตรวจสอบเรื่องทรัพย์สินของบุคคล นิติบุคคลนั้น โฆษก ปปง. เผยว่า เนื้อหาภายในเกี่ยวข้องกับตัวบริษัทและบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไปแล้ว ขณะที่มูลค่าความเสียหายทางตำรวจ ปคบ. ได้แจ้งมาทั้งจำนวนผู้เสียหายและจำนวนเงินที่ได้รับคำร้องทุกข์ คือ ผู้เสียหาย 90 ราย ส่วนมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้อาจมีมูลค่าความเสียหายและจำนวนผู้เสียหายเพิ่มขึ้นได้อีก ซึ่งเป็นประเด็นที่ตำรวจ และ ปปง. จะต้องช่วยกันตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป
โฆษก ปปง. เผยอีกว่า หากข้อมูลจากตำรวจ ปคบ. ปรากฏข้อเท็จจริงว่าพฤติการณ์ดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมายฟอกเงินของ ปปง. เจ้าหน้าที่ก็จะได้ตรวจสอบว่าผู้สัมพันธ์เกี่ยวข้องแต่ละรายมีการครอบครองทรัพย์สินรายการใดบ้าง และทรัพย์สินต่างๆได้มาอย่างไร จึงจะนำไปสู่กระบวนการดำเนินการกับทรัพย์สิน โดยต้องประมวลเรื่องส่งไปยังที่ประชุมของคณะกรรมการธุรกรรม เพื่อมีมติออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบชั่วคราว ทั้งนี้ในส่วนของข้อกังวลของสังคมว่า ในระหว่างนี้ที่ยังไม่ปรากฏความผิดมูลฐานอาจจะมีการจำหน่าย ยักย้าย ถ่ายเททรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่ได้มาจากการถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดนั้น ตนต้องเรียนว่ามาตรการป้องกันกรณีดังกล่าวจะเหมือนคดีของ น.ส.กรกนก หรือ แม่ตั๊ก เนื่องจากพนักงานสอบสวนจะสามารถอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบเบื้องต้นตามอำนาจของ ป.วิอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการเชิญเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาลเวลา 16:00 น . ได้แก่ เลขาธิการ ปปง. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฯลฯ เพื่อหารือแนวทางในเรื่องดังกล่าว เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ตำรวจยันไม่เกิน 48 ชม. ออกหมายจับ'บอส ดิไอคอน' ดึง'ดีเอสไอ'ถกเป็นคดีพิเศษ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี