"สพฐ. เร่งจัดสรรเงินช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เตรียมสร้างสนามฟุตบอลเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกฯ”
วันที่ 12 ตุลาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานในการประชุมพิจารณาจัดสรรเงินช่วยเหลือครูและนักเรียนที่ประสบเหตุรถบัสทัศนศึกษาเมื่อวานนี้ โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ได้แก่ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. พร้อมผู้อำนวยการสำนักและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม DOC อาคาร สพฐ. 5 ชั้น 9 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom Meeting
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการ นำโดย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ คณะที่ปรึกษา รมว.ศธ. ได้ติดตามความคืบหน้าในการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไฟไหม้รสบัสทัศนศึกษา โดย สพฐ. ได้สรุปจำนวนผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งหมด 46 ราย แบ่งเป็น นักเรียน 39 ราย (เสียชีวิต 20 ราย บาดเจ็บหนัก 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ปลอดภัย 16 ราย) และครู 7 ราย (เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ปลอดภัย 3 ราย) ซึ่ง สพฐ. กำลังดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและมีความคืบหน้าเป็นลำดับ ดังนี้
1. การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯให้แก่ครูผู้เสียชีวิต ทั้ง 3 ราย ขณะนี้ สพฐ. ได้ทำหนังสือส่งไปยังสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการแล้ว และจะเร่งส่งไปที่สำนักนายกรัฐมนตรี ต่อไป 2. การขอเลื่อนเงินเดือน 7 ขั้น สพฐ. จะส่งเรื่องขอเลื่อนขั้นไปที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยจะเร่งให้ทันวันอังคารที่ 15 ตุลาคมนี้ เพื่อให้ทันการประชุมอนุกรรมการในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 และ 3. การสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงผู้ประสบเหตุฯ สพฐ. กำลังเร่งหารือร่วมกับท้องถิ่นในการสร้างอนุสรณ์สถานเป็นสนามฟุตบอล ภายในโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่ครูและนักเรียนได้จากไป และเพื่อใช้ประโยชน์แก่นักเรียนที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วย โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกแบบและจัดสรรงบประมาณ
สำหรับเงินเยียวยาจากหน่วยงานต่าง ๆประกอบด้วย กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 23,500,000 บาท กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม 4,720,000 บาท กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 494,500 บาท ประกันภัยภาคสมัครใจ บริษัทมิตรแท้ประกันภัย 11,650,000 บาท กองทุนการศึกษาขั้นพื้นฐาน 500,000 บาท ประกันอุบัติเหตุกลุ่มบริษัทวิริยะประกันภัย 3,464,000 บาท ประกัน พรบ. บริษัทวิริยะประกันภัย 11,740,000 บาท รวมทั้งสิ้น 56,068,500 บาท จัดสรรให้ ครอบครัวนักเรียนเสียชีวิต รายละ 2,400,000 บาท ครอบครัวครูเสียชีวิต รายละ 2,320,000 บาท นักเรียนบาดเจ็บหนัก รายละ 399,500 บาท นักเรียนบาดเจ็บ รายละ 299,500 บาท และครูบาดเจ็บ 1 ราย 10,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีเงินบริจาคเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุฯ ผ่านบัญชี “รวมน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไฟไหม้รถบัสโดยสาร ขณะเดินทางไปทัศนศึกษาโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี” หลังจากปิดรับบริจาคเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 มียอดรวม 3,718,371.23 บาท ทาง สพฐ. จะจัดสรรให้นักเรียนบาดเจ็บหนัก รายละ 600,000 บาท นักเรียนบาดเจ็บ 300,000 บาท ครูที่กลับเข้าไปช่วยเหลือนักเรียนจนได้รับบาดเจ็บ 100,000 บาท และทายาทผู้เสียชีวิต 23 ราย รายละ 90,000 บาท
“นอกจากการจัดสรรเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทุกคนแล้ว ในส่วนของผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลก็ได้มีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ทั้งนักเรียน ครู และผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล ขอให้มีการเยียวยาในภาพรวมทุกมิติ ส่วนการจัดกิจกรรมทัศนศึกษาหรือการพานักเรียนไปศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ ได้มีหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานในสังกัดให้ปฏิบัติตามแนวทางมาตรการความปลอดภัยของกระทรวงศึกษาธิการอย่างเคร่งครัดด้วย” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี