ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หากใครผ่านไป-มาในกรุงเทพฯ บริเวณริมคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร จะเห็นบ้านหลังเล็กๆ 2 ชั้น เรียงติดกันสวยงามไม่ต่างจากทาวน์เฮ้าส์ในหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งนี่ไม่ใช่โครงการของเอกชนแต่อย่างใด แต่เป็นโครงการ “บ้านมั่นคง” เพื่อแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดสร้างบ้านเรือนกีดขวางทางน้ำ ทำให้คลองไม่สามารถระบายน้ำได้เต็มที่ โดยให้ประชาชนที่อยู่ริมคลองขยับถอยร่นขึ้นมาอยู่บนบก ใช้กระบวนการเช่าที่ดินระยะยาวของรัฐในราคาที่สามารถจ่ายได้ และปรับปรุงบ้านให้สวยงามมั่นคงไม่ทรุดโทรม
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีการไปโฆษณาชวนเชื่อกันปากต่อปากว่า “บ้านมั่นคงสามารถซื้อ-ขายเปลี่ยนมือได้” ซึ่งหลายคนก็เข้าใจว่าเหมือนกับอีกโครงการหนึ่งของรัฐคือ“บ้านเอื้ออาทร” ทำให้เกิดปัญหา “หลอกลวงขายสิทธิ์” หลายคนจ่ายเงินไปแล้วแต่สุดท้ายไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ กฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ “พอช.” ในประเด็นนี้ รวมถึงภารกิจต่างๆ ของ พอช.ในการส่งเสริมให้คนยากไร้ได้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง
- โครงการบ้านมั่นคงมีที่มาที่ไปอย่างไร? : บ้านมั่นคงเป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นภายใต้นโยบายของรัฐบาลในการที่ให้ พอช. ได้พัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยโครงการนี้ตั้งขึ้นในปี 2546 เป็นโครงการนำร่อง 10 โครงการ ราว 1,200 ยูนิต หลังจากนั้นก็พัฒนามาเรื่อยๆ อย่างในปี 2547 ที่รัฐบาลขณะนั้นเปิดให้ลงทะเบียนคนยากจน มีผู้มาลงทะเบียนประมาณ 1.7 ล้านคน ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง
สำหรับโครงการนี้ก็ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในการที่จะให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ในชุมชน บางทีอาจเป็นที่ของตัวเอง บางทีก็เป็นที่บุกรุก ได้พัฒนาปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้ตัวเองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จะมี 2-3 ส่วน ส่วนใหญ่จะไม่ได้อยู่ในที่ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ เช่น อยู่ในที่ดินการรถไฟฯ บ้าง ที่ดินกรมธนารักษ์บ้าง หรือที่ดินของเอกชนบ้าง เป็นการทำให้ประชาชนมีโอกาสไปหาที่ดินของตัวเอง หรือมีการเจรจาพูดคุยกับหน่วยงานเจ้าของที่ดิน ในการที่จะดำเนินการเช่าระยะยาว เพื่อพัฒนาปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้มีความมั่นคงมากขึ้น
- โครงการ “บ้านมั่นคง” แตกต่างจากโครงการ “บ้านเอื้ออาทร” อย่างไร? บ้านมั่นคงเป็นโครงการที่เราไปเริ่มต้นจากการที่ไปสร้างกระบวนการรวมกลุ่มสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ให้เกิดการรวมกลุ่มกันในการที่จะพัฒนายกระดับโครงการขึ้นมา ก็คือทำกับกลุ่มไม่ได้ทำเป็นรายคน สำหรับโครงการอื่นๆ อย่างบ้านเอื้ออาทร เป็นโครงการที่รัฐไปทำโครงการให้แล้วก็ให้ประชาชนได้เข้าไปใช้สิทธิ์ในการอยู่อาศัยในโครงการ
“โครงการบ้านมั่นคงต้องเกิดจากการรวมกลุ่มกัน เพราะว่าเป้าหมายของการตั้ง พอช. ก็คือการสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรชุมชน ฉะนั้นสิ่งที่ พอช. ทำในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน หรือสวัสดิการชุมชน เรื่องอาชีพต่างๆ ต้องเกิดกลุ่มก่อน เกิดการยึดโยงผู้คนเพื่อให้มาดำเนินการร่วมกัน โดยโครงการบ้านมั่นคง พี่น้องประชาชนจะเป็นเจ้าของโครงการเลย ไม่ใช่ พอช. เป็นเจ้าของ ในการเริ่มตั้งกลุ่มออมทรัพย์ ไปหาที่ดิน แม้กระทั่งออกแบบก่อสร้างตามขนาดรายได้ที่ตัวเองมีอยู่ เป็นกระบวนการที่กลุ่มของพี่น้องประชาชนเริ่มต้นเองทั้งหมด”
- คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงมีอะไรบ้าง? : สำหรับโครงการบ้านมั่นคง คุณสมบัติ 1.เป็นผู้มีรายได้น้อย 2.เป็นเจ้าของบ้านที่อยู่ในที่บุกรุก 3.กรณีเป็นผู้เช่าต้องเช่าอย่างต่อเนื่องมาไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีความประสงค์จะอยู่ต่อในที่ตรงนี้ ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ในการเริ่มรวมกลุ่มออกแบบการทำงานร่วมกัน
- พูดถึงบ้านมั่นคง หลายๆ คนจะนึกภาพออกที่บ้านริมคลอง การดำเนินการที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง? : เราดำเนินการอยู่ นับจากภาคเหนือลงมาเลยก็คือคลองแม่ข่า โดย พอช. ไปร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่ ในการพาผู้คนที่บุกรุกอยู่ในคลองขึ้นจากคลองมา เพื่อให้หน่วยงานได้มีโอกาสพัฒนาแม่น้ำ-คู-คลอง ส่วนที่สองที่เราจะเห็นกันในปัจจุบันคือคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร ซึ่งสืบเนื่องมาจากกรณีน้ำท่วมเมื่อปี 2554 รัฐบาลก็มีนโยบายพัฒนาคู-คลอง
โดย พอช. ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนแม่บทในการพัฒนาคลองเปรมประชากรและคลองลาดพร้าว ทำไปคู่กัน มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็คือกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทำเรื่องการสร้างเขื่อนส่วน พอช. เมื่อคนขึ้นมาก็เพื่อให้เขาได้สร้างบ้าน บ้านก็อยู่ในที่ดินของกรมธนารักษ์ในการขอเช่าระยะยาวและดำเนินการก่อสร้าง ขณะนี้ดำเนินการไปที่คลองลาดพร้าว ได้ประมาณ 50% เหตุที่หยุดเพราะเรื่องการก่อสร้างเขื่อนยังไม่เป็นไปตามแผน แต่ปัจจุบันในปีงบประมาณ 2568 กทม. ก็มีแผนที่จะสร้างเขื่อน โครงการเราก็จะเดินต่อไปได้
สำหรับในคลองเปรมประชากรก็ทำควบคู่กันไปทั้งในเรื่องของการสร้างเขื่อนกับการสร้างบ้าน ก็เป็นปกติว่าก็จะมีกลุ่มคนที่เขาเห็นด้วย อยากพัฒนาคุณภาพชีวิตตัวเองให้ดี เขาก็เข้าร่วมโครงการ แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มบางส่วนที่มีความเห็นต่าง อาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับโครงการก็ไม่ได้เข้าร่วม แล้วก็ยังมีบางคนที่มีการต่อต้านโครงการอยู่ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เราก็ต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องด้วยกัน แต่ว่ามิติของการอยู่อาศัยในคลอง อย่างไรก็แล้วแต่นโยบายก็คือพัฒนาคู-คลอง พี่น้องประชาชนที่อาจยังไม่เห็นด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการตามมาตรการของหน่วยงานที่รับผิดชอบ แต่เมื่อขึ้นมาอยู่แล้วเราก็ดำเนินการเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัย ทำโครงการบ้านให้
- เกี่ยวกับบางส่วนที่ต่อต้านไม่ยอมรับโครงการบ้านมั่นคง ทราบมาบ้างว่าอาจเกี่ยวกับปัญหา “สังคมสูงวัย” หลายคนต้องมาเริ่มผ่อนบ้านในโครงการกันใหม่ตอนอายุมากแล้ว กลัวจะผ่อนได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง เรื่องนี้มีแนวทางดูแลหรือไม่? : ในมิติของคนที่เข้าอยู่ในโครงการบ้านมั่นคง ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของอายุ ในช่วงที่เขาสามารถเข้าอยู่ได้เขาก็ผ่อนส่งไปกับระบบของสหกรณ์ เราจะเห็นหลายๆโครงการ ในวันหนึ่งที่เขาไม่สามารถผ่อนส่งได้ สหกรณ์ก็จะมีวิธีในการเข้ามาดูแล ก็คือคนที่ควรได้รับการช่วยเหลือไม่ต้องออกจากโครงการ ก็จะมีหลายที่
“ผมจะยกตัวอย่าง เช่น กรณีที่สายไหม มีสองคนตา-ยาย คุณตาขายปลาหมึกย่าง คุณยายไม่มีรายได้ 2 คนมีรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ วันดีคืนดีคุณตาแขน-ขาอ่อนแรง ทำกินไม่ได้ รายได้หายไป แต่มีรายได้เข้ามาหากจดทะเบียนคนพิการ พอรายได้หายไปสหกรณ์ก็เข้ามาดูแล พี่น้องในโครงการเข้ามาดูแลเรื่องอาหารการกิน เรื่องความเป็นอยู่ แล้วก็อยู่ตรงนี้ต่อไป แล้วในโครงการสหกรณ์ก็จะสามารถบริการจัดการ ซึ่งนี่คือเสน่ห์ของโครงการบ้านมั่นคง ซึ่งมันแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ที่เป็นโครงการในรายปัจเจก”
- ตั้งแต่เริ่มทำโครงการบ้านมั่นคง มีเสียงตอบรับหรือเสียงสะท้อนอย่างไรบ้าง? : ตั้งแต่ปี 2546 เราก็ทำมา 20 ปีแล้ว ก็มีการปรับรูปแบบกันอยู่พอสมควรในหลากหลายมิติ เดิมมีบ้านมั่นคงเมืองก็ขยายไปเป็นบ้านมั่นคงชนบทก็ขยายมาบ้านริมคลองอะไรต่างๆ มันก็มีหลากหลายมิติบางพื้นที่ก็เป็นบ้านรูปแบบเดียวกันอย่างคลองเปรมประชากร-คลองลาดพร้าว บางพื้นที่ก็จะเป็นบ้านหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่การออกแบบของชุมชน หรือบางพื้นที่อาจแค่ปรับปรุงสภาพบ้านก็มี
แต่ที่สำคัญคือจะขึ้นบ้านแบบไหนขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนเขาดูสถานะของตัวเขาเองว่าเขามีรายได้พอที่จะทำมาก-น้อยแค่ไหนที่จะต้องผ่อนส่ง เพราะว่าในส่วนหนึ่งรัฐบาลสนับสนุนงบฯ อุดหนุนไปเพื่อทำโครงสร้างพื้นฐาน แต่ส่วนหนึ่งเขาใช้สินเชื่อของ พอช. ไปสร้างบ้าน ปัจจุบันเราปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อให้กับพี่น้องประชาชนลงมา จากร้อยละ 4 เหลือร้อยละ 3.5 ในปีนี้ก็ปรับลดลงมาให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้ดำเนินการ
- โครงการบ้านมั่นคงสามารถเปลี่ยนมือ-เปลี่ยนสิทธิ์ถือครอง หรือซื้อ-ขาย ได้เหมือนโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ไม่ว่าของภาครัฐหรือภาคเอกชนหรือไม่? : ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าโครงการนี้คือการสร้างการรวมกลุ่มและบริหารจัดการภายใต้สมาชิกของกลุ่มในการสร้างความเข้มแข็ง สมาชิกรู้ตั้งแต่ต้น กรณีที่เช่าไม่สามารถแบ่งแยกโฉนดได้อยู่แล้ว แต่กรณีที่เป็นโครงการบ้านมั่นคงเมือง-บ้านมั่นคงชนบท ซึ่งบางครั้งประชาชนรวมกลุ่มแล้วไปซื้อที่ดินก็จะเป็นโฉนดรวม ซึ่งสมาชิกทราบตั้งแต่ต้น
ทีนี้สามารถเปลี่ยนมือได้ไหม? เกิดสมาชิกรายใดรายหนึ่งวันข้างหน้าไม่ได้อยู่ในโครงการนี้แล้วก็สามารถขายคืนให้กับสหกรณ์ได้ สหกรณ์ก็จะมีหน้าที่ดูหาสมาชิกมาเข้าอยู่ภายใต้โครงการนี้ ก่อนอื่นในการเปลี่ยนมือ ภายใต้เงื่อนไขของโครงการก็คือผู้มีรายได้น้อย เพราะฉะนั้นในการเปลี่ยนมือก็จะเป็นเรื่องที่เครือข่าย (เช่น เครือข่ายสลัม 4 ภาค ที่เจรจาขอเช่าที่ดินแบบระยะยาวกับการรถไฟแห่งประเทศไทย) เขาจะดูว่าผู้ที่เดือดร้อน ผู้ที่มีรายได้น้อยที่ยังไม่ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองที่มั่นคง ถ้าเขาคิดว่าคนนี้เหมาะสมเขาก็จะสามารถนำเข้ามาอยู่ในโครงการนี้ได้
“เช่นเดียวกัน ที่ดินที่สหกรณ์เขารวมตัวกันไปซื้อเป็นของเขา เขาก็จะดูในกลุ่มที่เป็นผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก เนื่องจากว่าโครงการนี้มันจะมีเงื่อนไขอยู่ เนื่องจากเป็นโครงการที่รัฐบาลอุดหนุน เป็นเงินอุดหนุนจากรัฐบาลมาในการที่จะมีเป้าหมายเพื่อผู้มีรายได้น้อย ฉะนั้นคนที่อยู่เหนือเส้นรายได้น้อยขึ้นไปก็ไม่ใช่ผู้มีคุณสมบัติภายใต้โครงการนี้”
- เข้าใจถูกหรือไม่ว่าโครงการบ้านมั่นคง บทบาทของ พอช. เหมือนจะเข้าไปสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวสลัมหรือชุมชนแออัด ซึ่งหลายแห่งก็มีการรวมกลุ่มตั้งเป็นชุมชนอยู่แล้ว? : ถ้าเขารวมกลุ่มกันอยู่แล้วคิดว่าอยากจะยกระดับความเป็นอยู่ของเขาให้ดีขึ้น บางทีที่ดินเขาเช่าหน่วยงานไว้แล้ว แต่บ้านเดิมเขาไม่ดี เขาอยากพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้เลย เริ่มจัดวางผัง เริ่มออกแบบ เริ่มวางระบบการออมต่างๆ แล้วก็มาใช้โครงการกับเราได้
- พอช. เคยได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ของโครงการบ้านมั่นคงหรือไม่? และอยากฝากคำแนะนำอะไรถึงประชาชนบ้าง? : ที่เป็นข่าวดังจะอยู่ที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี คือไปขึ้นโครงการแล้วก็ไม่สำเร็จ แต่อันนั้นมีการทุจริต ก็แจ้งความดำเนินคดี แต่ก็มีบางที่ไปแอบอ้างว่าเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจาก พอช. ให้ไปทำโครงการแล้วก็หลอกให้คนเอาเงินมาออม ตรงนี้ต้องตรวจสอบ เพราะ พอช. ถ้าจะเริ่มดำเนินโครงการ เราเริ่มโดยกระบวนการสร้างกลุ่มก่อนแล้วค่อยดำเนินการร่วมกัน พอช. เราไม่เคยให้ใครไปดำเนินการทำโครงการแบบนี้เป็นรายบุคคล
“ปัจจุบันคนที่ไม่หวังดีกับคนทั่วไป ก็ไปหลอกเอาเปรียบคนทั่วไป มันมีอยู่เยอะ มีทุกวิถีทางเลยที่จะเอาเงินของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ถ้าสมมุติว่ามีคนไปแบบนี้ท่านสามารถเช็คเข้ามาได้ที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เข้ามาที่เว็บไซต์ พิมพ์คำว่าสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ก็จะขึ้นเว็บไซต์ หมายเลขติดต่อที่สามารถติดต่อได้ หรือว่าถ้าใครอยู่ตามภาคต่างๆ เรามีศูนย์ภาคเหนืออยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ภาคอีสานอยู่ที่ จ.ขอนแก่น ภาคใต้อยู่ที่ จ.พัทลุง ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันตก กรุงเทพฯ ปริมณฑลและภาคตะวันออก อยู่ที่สำนักงานใหญ่ (ถ.นวมินทร์ กรุงเทพฯ) ในการที่จะหาข้อมูล” ผอ.พอช. ฝากทิ้งท้าย
บัญชา จันทร์สมบูรณ์ (สัมภาษณ์/เรียบเรียง)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี