nn มีคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอด เน้นย้ำให้ประชาชนระมัดระวังเกี่ยวกับแก๊งอุบาทว์คอลเซ็นเตอร์ที่ทำการเขย่าขวัญประชาชนอยู่ทุกวี่ทุกวัน และมีประชาชนจำนวนมากมายตกเป็นเหยื่อครั้งแล้วครั้งเล่าในทุกๆ วันเช่นกัน ล่าสุดเกิดขึ้นที่อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่สูญเสียเงินในชั่วไม่กี่นาทีจำนวน 7 แสนบาท เพราะถูกชักชวนให้ลงทุน ซึ่งแก๊งอุบาทว์พวกนี้ใช้วิธีการหลอกล่อโดยศึกษาจากประวัติของเหยื่อที่ได้ข้อมูลมาเป็นอย่างดี โดยวิธีการดังกล่าวแก๊งอัปรีย์จะมุ่งเป้าที่ข้าราชการเกษียณ เพราะพวกนี้รู้ดีว่าช่องว่างของคนเกษียณคือจุดอ่อนที่จะสามารถสอดแทรกกลลวงชักชวนได้ง่าย ที่สำคัญจิตใจข้าราชการเกษียณคิดว่าการจะลงทุนเล็กๆ น้อยๆ คงไม่มีปัญหา เพราะอย่างน้อยตัวเองก็มีเงินเดือนอยู่แล้ว ลงทุนเพียงนิดหน่อยไม่กี่พันคงไม่กระทบหรือมีปัญหา แต่พอตัดสินใจลงไปแล้วมันจะใช้กุศโลบายวิธีการชั่วชักชวนด้วยสิ่งล่อใจให้เคลิบเคลิ้มด้วยเหตุผลนั่นนี่เข้าไปอีก อ้างว่าจะได้เงินเป็นก้อน แถมส่งหลักฐานยืนยันการันตีเท็จที่พวกมันจะคิดค้นโดยกุนซือชั่วพูดจาภาษาไทยชัดเจนวางแผนบัญชาการให้แนวทางรุกรับ มีสถานที่ทำการ คือ รอยตะเข็บชายแดนไทย-ลาว, ไทย-เขมร, ไทย-พม่า ที่ยังคงมีการชุกชุมของแก๊งบัดซบพวกนี้หนาแน่น และว่ากันว่าช่วงที่นายกรัฐมนตรีอุ๊งอิ๊งค์เดินทางไปลาวก็มีการพูดถึงเรื่องนี้กันด้วย แต่ถ้าไม่มีการประสานงานเอาจริงเอาจังถึงแนวทางปฏิบัติเป็นรูปธรรม การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องอัปมงคลข้างต้นก็แค่นิทาน “กล่อมเด็ก” ธรรมดาๆ หรือไม่ก็การสร้างภาพให้ดูดีเท่านั้นเอง...

nn “ไผ่ฎำ” เคยพูดเคยแสดงความคิดเห็นพร้อมยกตัวอย่างมาบ่อยครั้งว่า การทำงานของตำรวจนั้นเข้มแข็ง ทว่ากฎหมายและความอ่อนไหวสังคมไทยยังไม่เด็ดขาดเพียงพอกับคนพวกนี้ และการกระทำของคนกลุ่มนี้วันนี้ถือเป็นภัยอันตรายใหญ่หลวงกับประชาชน รวมทั้งระบบเศรษฐกิจสังคมอย่างมากทีเดียว สำหรับประเทศจีนเมื่อเขาจับได้หรือมีประเทศที่สองจับส่งไปให้เขา เขาก็ลงมือประหารชีวิตสังเวยความชั่วช้านั้นหมดทุกคน ลักษณะนี้ประเทศที่มีระบบขั้นตอนมากมายประชาธิปไตยไทยๆ ด้วยการใช้กฎหมายแก้ไขเฉียบขาดนั้นจะกระทำไม่ได้ เพราะติดขัดกับกลุ่มคัดค้านนั่นนี่ให้กวนใจต่อการตั้งใจทำงานของเจ้าหน้าที่หนักยิ่งเสมอมา...

nn แต่ไม่ว่าปัญหาจะหนักแค่ไหนเท่าไหร่อย่างไร ถ้ารัฐบาลลงมาเล่น ลงมาสั่งการให้ชัดเจน ประชาสัมพันธ์ออกข่าวเสมอต้นเสมอปลายแบบเกาะติด ปัญหา “ชะตากรรมชะตาทราม” ที่เกิดจากแก๊งอุบาทว์ข้างต้น เบาบางลงได้...

nn ทิ้งท้ายด้วยเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายทางด้านการแพทย์ที่ว่ากันว่ามีปัญหาหนักหน่วง และมีการวิพากษ์วิจารณ์ฉาวโฉ่ว่า คนการเมืองที่ประกาศิตโยกย้ายขาดความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการเท่าที่ควร เนื่องจาก “วางคนไม่ถูกงานและเอางานไปวางให้ไม่ถูกคน” หรืออาจถูกคนแต่ขาดการเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานที่ละเอียดอ่อน ดังเฉกเช่น ผอ.โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน กับ ผอ.ศูนย์เอราวัณ ซึ่งท้ายที่สุดถูกตั้งคำถามลั่นว่า ย้ายเขาไปแบบขาดความเข้าใจ...nn

ไผ่ฎำ