nn วิพากษ์วิจารณ์กันหนักมากกรณีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ กทม. ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2567 โดยว่ากันว่าข้าราชการทางการแพทย์ 2 ท่าน ที่ถูกโยกย้ายนั้นกลายเป็นปมให้มีการพูดกันลั่นวงการแพทย์ “เสาชิงช้า” แม้ข้าราชการ 1 ใน 2 คน ภายนอกดูจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ออกมา แต่ข้าราชการ ประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยอื้อ ส่วนอีกท่านคือ นายยุทธนา เศรษฐนันท์ ผอ.ศูนย์เอราวัณกรุงเทพมหานคร ท่านถึงกับสุดทน แจ้งความประสงค์ขอลาออกจากราชการ (อยู่ระหว่างพักร้อน) อันเป็นที่น่าเสียดายที่บุคลากรชั้นหัวกะทิผู้มีความรู้ความสามารถผู้ตั้งใจทำงานปิดทองหลังพระมาตลอดในการบริหารศูนย์ฯ ลาออก ท่ามกลางที่ศูนย์ฯดังกล่าวแรกๆ มีปัญหามากมายหลายประการ เนื่องจากขาดคนดีมืออาชีพทางการแพย์ควบคุมให้นโยบายและสั่งการโดยเอาความทุกข์สุขเดือดร้อนของประชาชนเป็นเป้าหมายหลัก
nn ช่วงเมื่อท่านเข้าไปนั่งเก้าอี้ตัวนี้ได้ระยะหนึ่ง บุคลากรที่แทบทำงานกันสะเปะสะปะก็เข้าที่เข้าทาง เพราะบุคลิกนายยุทธนา เป็นคนตรงไปตรงมาไม่ประจบประแจงสอพลอใคร พูดจามีเหตุมีผล ไม่เรื่องมาก ทุ่มเทต่อการทำงาน รวมทั้งเอาใจใส่ผู้ใต้บังคับบัญชาสูงมากคนหนึ่งทีเดียว อันก่อให้เกิดเป็นยาเพิ่มกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาอย่างน่าภาคภูมิใจยิ่ง ซึ่งไม่ง่ายนักที่จะหาคนดีมีฝีมือมาแก้ไขปัญหาหมักหมมของศูนย์ฯ ท่านสามารถเนรมิตให้ศูนย์ฯดังกล่าวมีชื่อติดบอร์ดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
nn สาเหตุที่ท่านต้องตัดช่องน้อยแต่พอตัวลาออก ไม่ใช่ท่านประท้วงการแต่งตั้งโยกย้าย เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายกระทำได้ตลอดเวลาถ้าฝ่ายบริหาร (การเมือง) มีคุณธรรม วิสัยทัศน์ไกล มององค์กรไกล, เข้าใจเทคนิคทางการแพทย์ และมองการตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ทะลุว่าแบบไหนอย่างไร
nn กรณีปัญหาดังกล่าวหลายครั้งเมื่อมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงก็มักมีปัญหา “ชะตากรรมชะตาทราม” อุบัติขึ้น สำหรับเหตุบั่นทอนหัวจิตหัวใจคนตั้งใจทำงานอย่าง นพ.ยุทธนา เศรษฐนันท์ ดูผิวเผินเหมือนไม่มีปัญหาอะไรใดๆ ในกอไผ่ เพราะเป็นการโยกตามฤดูกาล ทว่าทางสำนักแพทย์รู้ชัดว่าปมปัญหามรณะเกิดจากสิ่งใด ใครสายตาสั้นกล้าสั่งการนั่นนี่ ขาดหลักบริหารจัดการที่ดี
nn ก่อนหน้าจะมีการแต่งตั้งโยกย้าย นพ.ยุทธนา เศรษฐนันท์ ถูกเรียกตัวเข้าพบ เพื่อรับทราบการโยกย้ายไปยังโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ซึ่งเขาไม่ถนัด ที่สำคัญที่นั่นก็มีนายแพทย์ผู้ทรงคุณค่าความรู้ความสามารถสูงสุด ตั้งหน้าตั้งตาขับเคลื่อนปลุกเสกโรงพยาบาลดังกล่าวเต็มสูบเต็มกำลังอยู่แล้ว (นพ.สุรินทร์นัมคณิสสรณ์) ทั้งๆ กทม.ไม่ได้จัดสรรงบฯลงไปให้สักเท่าไหร่นัก หรือบางส่วนไม่มีเลย ขณะที่ฝ่ายการเมืองหวังเร่งรัดต้องการผลงานแต่ ผอ. หรือ นพ.สุรินทร์ นัมคณิสสรณ์ ผอ.โรงพยาบาล ก็ทำงานทุ่มเทแรงกายใจทุกอย่างไม่แตกต่างจากนายยุทธนา หรือ นพ.ยุทธนา เศรษฐนันท์เท่าไหร่นัก โดยมีการวิ่งเต้นหาเงินจากมูลนิธิต่างๆ พร้อมพูดคุยชักชวนประชาชนผู้ใจบุญทุกคนให้ช่วยเหลือโรงพยาบาล จนมีวัดๆ หนึ่งเห็นความตั้งใจเกี่ยวกับการเป็นนักบุญของท่านจึงบริจาคเงินเข้าสมทบจำนวน 36 กว่าล้านบาท เพื่อร่วมเนรมิตโรงพยาบาลสำหรับคนสูงอายุให้โดดเด่นแต่อนิจจา คนตั้งใจทำงานถูกโยก (มีต่อ) nn
ไผ่ฎำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี