เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนผู้ปกครอง ระวังเด็กจมน้ำช่วงหน้าฝนและช่วงปิดเทอม แนะดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เล่นน้ำตามลำพัง เนื่องจากระดับน้ำที่เปลี่ยนแปลง จากฝนตก หรือน้ำท่วม รวมไปถึงขอบบ่อลื่นหรือมีหญ้าปกคลุม ทำให้เด็กพลัดตกลงไปในน้ำหรือจมน้ำเสียชีวิตได้

นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา  กล่าวว่า เนื่องด้วยขณะนี้บางพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วม และเป็นช่วงของการปิดภาคเรียน คำแนะนำสำหรับผู้ปกครองดูแลบุตรช่วงหน้าฝน น้ำท่วม และช่วงปิดเทอมนี้ คือ 1) เด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป ควรเรียนรู้วิธีการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำ และวิธีการช่วยเหลือคนตกน้ำหรือจมน้ำที่ถูกต้อง 2) เด็กเล็กต้องอยู่ในระยะที่แขนเอื้อมถึงหรือคว้าถึง ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด และ 3) แนะนำให้ประชาชนทุกคนสวมเสื้อชูชีพหรือใช้อุปกรณ์ลอยน้ำได้อย่างง่าย เช่น ถังแกลลอนพลาสติกเปล่า ขวดน้ำพลาสติกเปล่า ทุกครั้งที่เดินทางหรือทำกิจกรรมทางน้ำ

นายแพทย์เฉลิมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า สคร.12 สงขลา ขอแนะนำวิธีป้องกันเด็กจมน้ำ คือ ผู้ปกครองต้องดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เล่นน้ำตามลำพัง หรือรวมตัวกันเล่นน้ำ หากพบเห็นคนตกน้ำ ไม่ควรกระโดดลงไปช่วยเพราะอาจจมน้ำพร้อมกันได้ โดยขอความช่วยเหลือด้วยมาตรการ “ตะโกน โยน ยื่น” ดังนี้ ตะโกน คือเรียกให้ผู้ใหญ่มาช่วย และโทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ 1669 โยน คือโยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัว ช่วยคนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว และยื่น คือยื่นอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับ เช่น ไม้ เสื้อ ผ้าขาวม้า ให้คนตกน้ำจับและดึงขึ้นมาจากน้ำ

ทั้งนี้ ชุมชนควรมีการเฝ้าระวังแหล่งน้ำที่มีความเสี่ยงในชุมชน ห้ามให้เด็กลงไปเล่นน้ำตามลำพังโดยเด็ดขาด สำหรับสถานที่ที่เปิดให้บริการเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ ต้องจัดให้มีอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำให้เพียงพอในบริเวณใกล้แหล่งน้ำ สามารถเข้าถึงง่าย กำหนดบริเวณสำหรับเล่นน้ำ แบ่งเขตพื้นที่สำหรับเล่นน้ำหรือทำกิจกรรมทางน้ำที่ปลอดภัย ติดป้ายแจ้งเตือน เช่น ห้ามลงเล่นน้ำ น้ำลึก น้ำวน และจัดให้มีอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำบริเวณแหล่งน้ำ และป้ายขอความช่วยเหลือ หากเกิดเหตุด่วนทางน้ำให้โทร 1199