จับตาพท.ขับ‘พิศาล’พ้นพรรค
เซ่นคดี‘ตากใบ’
ลั่นมุ่งรักษาสถาบันเอาไว้
‘ปชน.-ปริญญา’จี้ตามตัว
เตือนปล่อยหมดอายุความ
ระวังกระทบ‘อิ๊งค์-ทักษิณ’
15 ตุลาคม รู้เรื่อง “สมคิด” รอดู“กก.บห.เพื่อไทย” ชี้ขาดเคส“พิศาล” ปม “คดีตากใบ” ชี้หากไม่ไขก๊อก พรรคต้องขับออก โยนเป็นเรื่องส่วนตัวแต่พรรคต้องรักษาสถาบัน ไม่ปล่อยใครทำผิด ยัน’นายกอิ๊งค์’ไร้กำชับ-สั่งการ ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’จี้รัฐบาลใช้ทุกกลไกตามตัว‘พล.อ.พิศาล’หนีคดีตากใบ กลับไทยให้ได้ ก่อนคดีหมดอายุความ25ต.ค.นี้ ชี้แม้‘เพื่อไทย’ขับพ้นพรรคเชื่อ ปชช.ตั้งข้อสงสัย พรรคมีความจริงใจตามตัวมาดำเนินคดีหรือไม่!‘อ.ปริญญา’จี้รบ.แสดงออกให้เห็นว่าทำเต็มที่ ไล่บี้ประสาน‘ตำรวจสากล’ตามรวบ‘พล.อ.พิศาล’ เตือนหากปล่อยหมดอายุความ ระวังถูกตั้ง คำถาม-โยงลาม‘ทักษิณ’ช่วยลูกน้อง-นายก‘อิงค์’ระวังโดนละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อวันที่ 14ตุลาคม2567 นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) อดีตแม่ทัพภาคที่4 ผู้ต้องหาคดีตากใบ ที่คดีกำลังจะหมดอายุความในวันที่ 25ตุลาคม2567 พรรคเพื่อไทยจะขับออกก่อนหรือไม่ ว่า ได้ประสานพรรคเพื่อไทยไป พยายามเร่งรัดให้พล.อ.พิศาล เข้าสู่กระบวนการในวันที่ 15ต.ค.ต้องรอดูคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะจัดการอย่างไร ทั้งนี้ หาก พล.อ.พิศาล ไม่ลาออกจากตำแหน่ง สส.เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยต้องขับออก เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.พิศาล ที่เกิดมานานแล้ว เราพยายามรักษาความเป็นพรรคการเมือง ไม่ใช่ว่าใครทำผิดแล้วปล่อย
‘พท.’นัดลงมติ15ต.ค.ปม’พิศาล’
เมื่อถามว่า การขับออกจะไม่ใช่การตัดหางปล่อยวัดใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ พล.อ.พิศาล อาจจะลาออกจากสมาชิกพรรคเองก็ได้ คงจะมีการพูดคุยกัน โดยขณะนี้เลขาธิการพรรคได้ประสานไปยัง พล.อ.พิศาล แล้ว คาดว่า วันที่ 15ต.ค.จะได้คำตอบว่า จะดำเนินการอย่างไร ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้กำชับหรือสั่งการอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากยังไม่ได้พูดคุยกัน จริงๆแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สมัยพรรคไทยรักไทย (ทรท.) เป็นคดีต่อเนื่องมานาน เราต้องเคารพกฎหมาย และต้องรอ พล.อ.พิศาล
ถ้าขับออกต้องหาพรรคใหม่ใน30วัน
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีมี ส.ส.พรรค พท.หลายคน เห็นด้วยกับการขับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ออกจากพรรค ก่อนคดีตากใบจะหมดอายุความในวันที่ 25ตุลาคม จะนําเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมพรรคในวันที่ 15 ตุลาคมหรือไม่ ว่า ส.ส.ทุกคนเป็นตัวแทนของประชาชน หากเรื่องใดกระทบการทำงานของรัฐบาล และสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.ต้องหยิบยกมาหารือกันและตนเชื่อว่า จะมี ส.ส.สะท้อนวิธีคิดเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผลงานของรัฐบาล ไม่ได้มีปัญหาอะไร คะแนนนิยมและความเชื่อมั่นยังดี มีเพียงเรื่องดังกล่าวที่ ส.ส.ยังไม่สบายใจ เพราะฉะนั้น ทุกเสียงที่สะท้อนมา คือเสียงของประชาชน จึงเชื่อว่าพรรค พท.จะพิจารณาในประเด็นนี้ ยืนยันว่าไม่ได้มีใครนิ่งนอนใจ
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า หาก พล.อ.พิศาล พ้นจาก สส.บัญชีรายชื่อสามารถเลื่อนลำดับถัดไปขึ้นมาได้อยู่แล้ว แต่หาก พล.อ.พิศาล กลับมาหลังคดีหมดอายุความเชื่อว่า สังคมจะเกิดความกังขาและส.ส.พรรค พท.คงต้องให้ พล.อ.พิศาล แสดงความรับผิดชอบ กรณีส.ส.ถูกขับพ้นพรรคการเมือง ต้องเป็นไปตาม มาตรา 101 (9) ของพรป.พรรคการเมือง ซึ่งกำหนดไว้ว่า ต้องเป็นไปตามมติของพรรคการเมืองนั้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า3ใน4ของที่ประชุมร่วมของกก.บห.และส.ส.ที่สังกัดพรรคการเมืองนั้น หาก ส.ส.คนที่ถูกขับพ้นพรรค ไม่ได้เข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นภายใน 30วัน นับแต่วันที่พรรคมีมติ ส.ส.ก็จะสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันที่พ้น
ผู้นำฝ่ายค้านจี้ตามตัว’พิศาล’กลับไทย
ด้าน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีการติดตามตัว พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีตากใบ และคดีความจะสิ้นสุดลงในวันที่ 25ตุลาคมว่า ส่วนตัวคิดว่า รัฐบาลสามารถจะใช้กลไกต่างๆ ในการติดตามตัว แต่ก็เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้แสดงเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจน ใช้กลไกทุกอย่างอย่างเต็มที่ดำเนินการอย่างไรและที่เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะดำเนินการได้ เพื่อติดตาม พล.อ.พิศาล เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ หาก พล.อ.พิศาล กลับประเทศไทยหลังคดีความสิ้นสุดลง เรื่องนี้ประชาชนอาจจะตั้งข้อสงสัยต่อรัฐบาลได้ว่า ทำไมถึงไม่ดำเนินการก่อนที่คดีจะหมดอายุความ ซึ่งเรื่องนี้ตนได้แถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลใช้กลไกต่างๆ ในการติดตามตัว ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการทูต เพื่อให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดี
หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวอีกว่า ส่วนวันที่ 15ต.ค.พรรคเพื่อไทย จะประชุมสส.พรรคและคาดว่าจะมีมติขับ พล.อ.พิศาล ออกจากพรรค เป็นแนวทางที่รับผิดชอบเพียงพอหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญกว่าคือ การติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ทันก่อนคดีจะขาดอายุความ ดังนั้นการที่ไม่ดำเนินการอย่างเต็มที่และปล่อยให้คดีหมดอายุความ แล้วค่อยมาขับออกจากพรรค ส่วนตัวหวังว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่สังคมอาจจะมาตั้งข้อสงสัยได้ว่า รัฐบาลมีความจริงใจหรือไม่
‘ปริญญา’จี้รบ.ประสานออกหมายแดง
ขณะที่ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการดำเนินงานของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ต่อกรณี พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หลังศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับในคดีสลายการชุมนุมที่ตากใบ ใกล้จะหมดอายุความ ว่า เหตุการณ์ที่ตากใบเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น เช่นเดียวกับเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2519 และพฤษภาคม35 เป็นการเสียชีวิตของประชาชนจากการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงไม่ควรเกิดอีก เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่รัฐคนไหนถูกลงโทษแต่ประการใด เหตุการณ์ตากใบก็ทำนองเดียวกัน เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วไม่มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ แม้มีการให้เงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บสาหัส แต่ความยุติธรรมของผู้เสียหายทั้ง 85 ชีวิต ที่ทวงถามมา 20 ปี เรื่องนี้รัฐบาลจะต้องแสดงออกอะไรบางอย่าง เพราะหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของรัฐบาล จึงต้องกำชับเรื่องนี้ เพราะเหลือเวลาอีกประมาณ 10 วันเท่านั้น และรัฐบาลดำเนินการเรื่องนี้ได้ตามความคาดหมายของประชาชนหรือไม่
สิ่งสำคัญคือเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของ พล.อ.พิศาล โดยในส่วนการขึ้นศาลอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่หน้าที่ของรัฐบาลซึ่งมีอำนาจในการสั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใคร เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำให้มีผู้เสียชีวิตนั้น รถคันแรกซึ่งขนมวลชนมาก็เห็นแล้วว่ามีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น แต่จนกระทั่งคันสุดท้ายในการขนมวลชนกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่กลับไม่สามารถดำเนินคดีเอาผิดผู้กระทำได้
เลย25ต.ค.ระวังส่งผลกระทบรบ.
“ตาม พรบ.ตำรวจแห่งชาติ มีนายกรัฐมนตรีนั่งเป็นผู้บัญชา พึงกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการออกหมายแดง ประสานงานกับตำรวจประเทศอื่นใน10วันนี้ ถ้าหากรัฐบาลไม่ทำอะไรออกมาตามที่ควรจะเป็นตามความคาดหวังของประชาชน หลังวันที่ 25ต.ค.นี้ จะเป็นเรื่องที่กระทบกับรัฐบาลได้ เพราะปล่อยให้อายุความขาดไปโดยไม่ทำอะไร จะจับตัวได้หรือไม่ เอามาขึ้นศาลได้หรือเปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่รัฐบาลต้องแสดงออกว่าได้กระทำเต็มที่แล้ว หาไม่แล้วเรื่องนี้จะถูกมองทันที และจะนำไปโยงกับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร ด้วยว่ามีเจตนาในการช่วยเหลือลูกน้อง หรือช่วยเพื่อนหรือไม่ ดังนั้น ควรแสดงออกว่ารัฐบาลได้ดำเนินการในสิ่งที่ควรกระทำแล้ว” นายปริญญา กล่าว
เตือนคะแนนพรรคเพื่อไทยจะร่วง
เมื่อถามว่า นายสมคิด เชื้อคง สส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า การกระทำของ พล.อ.พิศาล เป็นความผิดส่วนตัว มองเรื่องนี้อย่างไร นายปริญญา กล่าวว่า เรื่องการตั้งข้อหาและต้องขึ้นศาลนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เนื่องจาก พล.อ.พิศาล เป็น สส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย จึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเท่านั้น ทางพรรคควรมีการตอบคำถามว่าจะมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรครัฐบาลและอยู่ในช่วงของการสร้างผลงาน หลายเรื่องก็เห็นผลงานขึ้นมา ขณะนี้คะแนนนิยมของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ก็ดีขึ้น ถ้าเรื่องนี้ไม่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาจะถูกมองทันทีว่า เป็นการช่วยผู้ต้องหา ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีของรัฐบาล จริงๆ ระยะเวลาที่เหลืออยู่ 10วันนั้น เป็นเรื่องยากที่จะได้ตัวมาขึ้นศาล แต่สิ่งที่คนรอดูมากกว่าคือท่าทีของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย
เชื่อยากจะกลับมาสู้คดีในชั้นศาล
เมื่อถามว่า วันที่ 15ต.ค. พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมเพื่อขับ พล.อ.พิศาล ออกจากพรรค ถือเป็นการรับผิดชอบที่เพียงพอหรือเป็นแค่การเขวี้ยงงูให้พ้นคอหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า คงต้องรอดูท่าทีว่าพรรคเพื่อไทยจะมีมติอย่างไร ถ้าพูดอย่างไม่อ้อมค้อม พล.อ.พิศาล คงยากที่จะกลับมาทำงานทางการเมืองแล้ว เพราะถ้าลาหยุดการทำหน้าที่ของ สส.จากกรณีถูกคดีสั่งฟ้อง เหมือนว่า ท่านตั้งใจที่จะหลบออกไปก่อน เพื่อรอให้คดีความหมดอายุ การกลับมาอีกครั้งหลังจากนี้จะถูกตั้งคำถามว่าเป็น สส.แล้วทำไมถึงไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งศาลมีหมายเรียกก็ไม่มา จนกระทั่งออกหมายจับเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อให้มีการต่อสู้คดี แต่กลับเลือกที่จะหนี ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่พรรคจะต้องพิจารณาว่า จะดำเนินการอย่างไร เมื่อถามว่า ในทางกฎหมายพอจะมีทางที่จะยืดอายุความออกไปได้อีกหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า กฎหมายอาญาของไทยคดีที่ทำให้มีคนเสียชีวิตจะมีอายุความ 20ปีและจะขาดอายุความเมื่อ 1.ไม่ได้มีการฟ้องต่อศาลแต่ตรงนี้ก็ทำแล้ว ศาลรับฟ้องแล้ว 2.การเอาตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยขึ้นศาล ซึ่งส่วนนี้ทำให้มีการหลบออกไปให้พ้น วันที่ 25 ต.ค. 2567 เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 ครบ 20 ปี ทำให้ในทางกฎหมายอาญา เท่ากับขาดอายุความ
เสี่ยงถูกมองละเว้นปฎิบัติหน้าที่
“ขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องทางกฎหมาย แต่เป็นคำถามใหญ่ๆว่า จากนี้ไปประเทศไทยจะเอาอย่างไร เมื่อมีเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำให้ประชาชนเสียชีวิตเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า อันนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลจะต้องแสดงออกอะไรบางอย่าง จะปล่อยให้อายุความขาดไปเฉยๆ โดยบอกแต่เพียงว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ตนเกรงว่าหลังวันที่ 25ต.ค.ไปแล้ว ผลเสียหาย หรือว่าคำถามจะกลับมาที่พรรคเพื่อไทย”นายปริญญา ย้ำ
เมื่อถามว่าแปลว่าท่าทีหรือการดำเนินการของรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยยังไม่มีความชัดเจนพอที่จะนำตัว พล.อ.พิศาล กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า จริงๆ แล้วคงพูดไม่ได้ว่าจริงใจหรือไม่จริงใจ เขาอาจจะเข้าใจ จริงๆ ก็ได้ว่านี่เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ตนในฐานะอาจารย์ทางด้านกฎหมาย ชี้ให้เห็นว่าพล.อ.พิศาล มีหมายเรียกให้มาขึ้นศาล การปฏิเสธหมายเรียกก็เป็นปัญหาอยู่แล้ว พอไม่มาก็ออกหมายจับ นี่จึงเป็นหน้าที่ที่จะต้องมาปรากฏตัว เพราะตามรัฐธรรมนูญตามกฎหมายไทยถือว่าท่านยังบริสุทธิ์อยู่ แต่ที่ท่านหลบหนีอยู่ขณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ อยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี แปลว่าท่านมีอำนาจที่ทำอะไรบางอย่าง ซึ่งตนไม่สามารถบอกได้ว่า จะต้องทำอะไรบ้าง แต่คนมีความคาดหวังและหลังวันที่ 25ต.ค.ผ่านไปแล้วอายุความขาด โดยที่รัฐบาลดูจะจริงจังน้อยไปบ้าง ผลเสียก็จะกลับมาที่รัฐบาลเอง
เมื่อถามย้ำว่า การที่ไม่ทำอะไรที่เพียงพอเท่ากับเป็นการช่วยเหลือหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า อาจจะถูกมองอย่างนั้นได้ เมื่อถามอีกว่า จะถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร จะถูกมองเช่นนี้ได้เช่นกัน
กระตุกสำนึก7บิ๊กข้าราชการหนีคดี
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้งโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก“ปั่นไปไหน - สมชัย ศรีสุทธิยากร”ระบุว่า...ผู้ต้องหาที่หลบหนีในคดีตากใบ ล้วนเป็นอดีตข้าราชการระดับสูงทั้งสิ้น อาทิ 1.เป็นอดีตแม่ทัพภาค 4 ปัจจุบันยังเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรครัฐบาล2.เป็นอดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 3.เป็นอดีต ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า และเป็นอดีต สว.4.เป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 5 .เป็นอดีตผู้กำกับ สภ.ตากใบ 6.เป็นอดีตรองปลัดมหาดไทย 7.เป็นผู้ว่าฯนราธิวาส ท่านเหล่านี้หากคำนวณอายุกับเหตุการณ์เมื่อเกือบ 20ปีก่อน ปัจจุบันคงอายุ 70ตอนปลายใกล้ 80ทั้งสิ้น เมื่ออายุความใกล้จะหมด ในอีกไม่กี่วัน ลูกหลานหรือคนใกล้ชิดหรืออดีตผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหลาย ก็คงแนะนำด้วยความเป็นห่วงความลำบากในบั้นปลายชีวิตว่า
“หนีหมายจับเถอะครับ จะไปเสียเวลามอบตัวแล้วต้องไปต่อสู้ในศาลทำไม”คำแนะนำนั้นมาจากความเป็นห่วง แต่การคิด การตัดสินใจเป็นเรื่องของแต่ละท่าน ความเป็นอดีตนายทหารกล้า อดีตตำรวจใหญ่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ อดีตข้าราชการที่พร่ำว่ามีหน้าที่บำบัดบำรุงสุขประชาชน เป็นสิ่งที่ต้องคิดอย่างรอบคอบว่า จะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการรุ่นหลังหรือไม่ ความพร้อมรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด เมื่อถูกกล่าวหาก็พร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม คือ เกียรติของข้าราชการเหลืออีกไม่กี่วัน การกลับมาต่อสู้คดี คือ เกียรติและความชื่นชมที่ท่านจะได้รับ หากท่านเลือกหลบหนี คดีความแม้หมดอายุ แต่รอยเปื้อนใหญ่ต่อชีวิต ตำแหน่งหน้าที่ราชการ และต่อวงการราชการจะคงอยู่ตลอดไป
วิปรัฐบาล-ฝ่ายค้านถกร่างนิรโทษ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ ว่า วันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.) วิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน จะร่วมกันหารือร่างดังกล่าว คิดว่าจะพิจารณาเป็นเรื่องด่วนได้ เพราะสภาได้บรรจุวาระไว้แล้ว หากแนวทางที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) เสนอมา ได้รับการยอมรับจากที่ประชุมก็จะส่งให้ดำเนินการต่อไป คาดว่าจะเสร็จภายในสมัยประชุมนี้ แต่สำหรับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับจริง ยังไม่มีความแน่ชัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี