"จิราพร"ลุยตั้งคกก.สอบปม"เทวดา สคบ."รับส่วย พร้อมส่ง"ประเสริฐ"เซ็นพรุ่งนี้ พร้อมเผย"สคบ."เตรียมริบโล่"ดิไอคอนกรุ๊ป" หลังตรวจแล้วใช้ผิดวัตถุประสงค์
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการร้องเรียนบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเสียง ระบุมีเทวดาที่ สคบ.เรียกรับผลประโยชน์ ว่า เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมมากที่สุด ในการตรวจสอบประเด็นนี้ จะมีการเชิญคนนอกเข้ามาเป็นคณะกรรมการในการตรวจสอบ โดยได้มีการประสานบุคคลที่มีชื่อเป็นคณะกรรมการครบแล้วรวม 8 คน
ทั้งนี้ ในช่วง 2 - 3 วันที่ผ่านมา ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมหลายอย่าง ว่ามีการพาดพิงหน่วยงาน และบุคคลภายนอกด้วย เพื่อให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพ จึงต้องยกระดับการตรวจสอบ โดยจะเสนอให้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการรวบรวมข้อมูล รวมถึงหน่วยงาน และบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีกรณีคลิปเสียง ที่มีเรื่องของแคนดิเดตเลขา สคบ.ไปปรากฏชื่อด้วย อย่างเช่น พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และมีภาพของ นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จะมีการตรวจสอบอย่างไรบ้าง เนื่องจากเป็นแคนดิเดตด้วยเลขาฯ สคบ.ด้วย น.ส.จิราพร กล่าวว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้น ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ก็ต้องว่ากันตามข้อเท็จจริง และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการในการตรวจสอบ
สำหรับกรณีปรากฏภาพ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้ก่อตั้งบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สคบ.จำนวนมากนั้น น.ส.จิราพร ชี้แจงว่า ในส่วนนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการ และนำคนนอกมาสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในอนาคต โดยคณะกรรมการชุดนี้จะให้ข้อเสนอแนะ และนโยบาย เพื่อการแก้ปัญหาระยะยาวต่อไป โดยจะมีการสอบสวนรวมประเด็นทุกอย่างที่เป็นประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกัน เนื่องจากคณะกรรมการมีหน้าที่ศึกษาข้อเท็จจริง และจะมีการตรวจสอบทั้งหมด ทั้งเรื่องคลิปเสียง และกรณีอื่นๆ
เมื่อถามว่า เบื้องต้นได้มีการขีดเส้นกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า กรอบที่วางไว้คือไม่เกิน 30 วัน สำหรับโครงสร้างของคณะกรรมการ ในโครงสร้างใหญ่ จะมีตัวแทนอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และตัวแทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้ (16 ต.ค.) เวลา 10.00 น.ทาง สคบ.ได้เรียกผู้บริหารบริษัท และดารา เข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อให้ข้อมูล ซึ่งผลการสอบ จะต้องมีการส่งไปให้ สตช.เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ สตช.แจ้งว่า มียอดผู้ร้องทุกข์เข้ามาทะลุพันคนแล้ว เป็นจำนวนความเสียหาย 380 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน พยานบุคคล วัตถุ เอกสาร เพื่อให้เกิดความรัดกุมที่สุด ในการตั้งข้อกล่าวหา ซึ่งจะเน้นไปที่เรื่องพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในประเด็นการโฆษณาต่างๆ
ส่วนกรณีผู้เสียหายบางคน ที่กังวลเรื่องการสืบทรัพย์เพื่อเยียวยานั้น น.ส.จิราพร กล่าวว่า ประชาชนสามารถไปที่สำนักงานตำรวจ ในส่วนศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อให้ข้อมูลกับทางตำรวจ แต่ขั้นตอนหลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของตำรวจ ยืนยันว่า ไม่ต้องกังวล ในเรื่องที่จะได้รับการเฉลี่ยทรัพย์ เนื่องจากหากตำรวจได้ข้อเท็จจริง และข้อกล่าวหาที่ชัดเจนแล้ว จะส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง ปปง.และหากเกี่ยวข้องกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็จะส่งเรื่องต่อไปให้เช่นเดียวกัน ย้ำว่า ทุกหน่วยงานกำลังรวบรวมสรรพกำลังในตอนนี้ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงให้กับประชาชน
"นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และมีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหามาตรการป้องกันในระยะยาว ซึ่ง สตช.เอง ก็เป็นศูนย์กลางในการรับเรื่องร้องเรียนในการสอบสวนข้อเท็จจริงกับหน่วยงานอย่าง สคบ.และกระทรวงการคลังที่ดูแลเรื่องแชร์ลูกโซ่ ให้ไปดูกฎหมาย และบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด"
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีพระภิกษุสงฆ์เกี่ยวข้องด้วย ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะต้องช่วยมาดูแลในประเด็นนี้อย่างไร น.ส.จิราพร กล่าวว่า เราทราบดีอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ดี เข้าใจความกังวลของประชาชนว่า เรื่องนี้เกี่ยวโยงกับหลายหน่วยงาน ทางรัฐบาลเองก็จะมีการตั้งคณะกรรมการ เพื่อให้ครอบคลุมทุกประเด็น ส่วนพระสงฆ์จะต้องเข้าให้ข้อมูลด้วยหรือไม่นั้น ต้องรอดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม สำหรับการมอบโล่ให้บริษัทดังกล่าว จากการสืบสวนข้อเท็จจริงของ สคบ.พบว่า มีการใช้ผิดวัตถุประสงค์ ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) ทาง สคบ.จะมีหนังสือแจ้งไปยังบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป เพื่อเรียกคืนโล่รางวัลดังกล่าว เนื่องจากโล่รางวัลนี้ ไม่ใช่โล่รางวัลในการประกอบธุรกิจ แต่เป็นโล่รางวัลที่ใช้กับสาธารณประโยชน์ ส่วนจะมีความผิดเพิ่มเติมหรือไม่ คณะกรรมการจะสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี