ตร.ภาค 7 โชว์ผลงานจับแก๊งลักจักรยานยนต์ขายทางออนไลน์ยึดรถเกือบ 20 คัน
วันที่ 15 ค.ต.67 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผกก.สภ.นครชัยศรี พร้อมชุดคลี่คลายคดี แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีลักรถจักรยานยนต์และซื้อขายในตลาดมืด โดยได้ผู้ต้องหา 3 รายและของกลางหลายรายการโดยเป็นรูปแบบการหลอกเหยื่อรูปแบบใหม่โดยผ่านแอพพลิเคชั่นในระบบออนไลน์
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ เผยว่า ในการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 21.30 น.ได้มีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ รถจักรยานยนต์ของประชาชน ที่บริเวณด้านหน้าบริษัทหนึ่งใน ต.ไทยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จำนวน 2 คันสร้างความเดือนร้อนและความเสียหายให้กับประชาชนในพื้นที่ทางตำรวจภูธรภาค 7 จึงได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เร่งสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม มาดำเนินคดีให้จงได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และลดความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่
ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 สภ.นครชัยศรี ได้ทำการสืบสวนจับกุมผู้ก่อเหตุจำนวน 1 ราย คือนายธนัต หรือ ทอป อายุ 33 ปี ภูมิลำเนา อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชรโดยแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป ปัจจุบันประกอบอาชีพขับรถรับจ้างขนส่งของบริษัทขนส่งเอกชนรายหนึ่งและเป็นผู้ครอบครองรถยนต์กระบะที่ใช้ในการก่อเหตุไม่มีประวัติคดีอาญา
โดยนายธนัต เป็นผู้ขับรถยนต์กระบะตู้ทึบมาใส่รถจักรยานยนต์ที่ลักบริเวณ ที่เกิดเหตุ ไปส่งให้นายพลกฤษณ์ ที่บ้านพักของนายพลกฤษณ์ฯ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี ได้ทำการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้อีก 2 ราย คือ 1.นางสาวพรรณราย หรือ นุช อายุ 29 ปี ภูมิลำเนา อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ โดยแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือ พาทรัพย์นั้นไป ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพ ไม่มีประวัติคดีอาญา โดยก่อนเกิดเหตุ น.ส.พรรณราย ได้ติดต่อกับนายพลกฤษณ์ ผู้รับซื้อเกี่ยวกับเรื่องรถจักรยานยนต์ โดยมีการเปิดเพจรับซื้อรถจักรยานยนต์ผ่าน โปรแกรมเฟซบุ๊ก โดยประกาศรับซื้อรถจักรยานยนต์ทั้งที่มีคู่มือจดทะเบียนและไม่มีคู่มือจดทะเบียน
จากนั้น น.ส.พรรณราย ได้ตระเวนหารถจักรยานยนต์เป้าหมายถ่ายรูปส่งไปให้ นายพลกฤษณ์ เพื่อทำเอกสารปลอมขึ้นมาและส่งให้กับ น.ส.พรรณราย ใช้แสดงกับผู้รับจ้างขนส่ง เมื่อถึงวันเวลาก่อเหตุ นายพลกฤษณ์ ได้เรียกรถกระบะตู้ทึบผ่านแอปพลิเคชั่นของบริษัทขนส่งเอกชนรายหนึ่ง มารับรถบริเวณที่เกิดเหตุ โดยมี น.ส.พรรณราย มาชี้เป้าหมายรถจักรยานยนต์ที่จะลักเอาไป โดยในวันที่เกิดเหตุ มีนายธนัตฯ ขับรถยนต์กระบะตู้ทึบมารับงานขนรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักไปส่งให้นายพลกฤษณ์
2.นายพลกฤษณ์ หรือ ต้อม อายุ 34 ปี ภูมิลำเนา อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร ปัจจุบันประกอบอาชีพ รับซื้อ ขาย รับจำนำรถจักรยานยนต์ทั้งที่มีคู่มือจดทะเบียนและไม่มีคู่มือ จดทะเบียน ผ่านช่องทางเพจเฟซบุ๊ก มีประวัติคดีอาญาจำนวน 1 คดี ข้อหาผู้ขับขี่รถขณะเมาสุราฯ ที่ สน.พหลโยธิน บก.น.2 เมื่อปี 2565
ก่อนเกิดเหตุนายพลกฤษณ์ มีการเปิดเพจรับซื้อรถจักรยานยนต์ผ่านโปรแกรมเฟซบุ๊ก โดยประกาศรับซื้อรถจักรยานยนต์ทั้งที่มีคู่มือและไม่มีคู่มือจดทะเบียน ต่อมาได้มี น.ส.พรรณรายฯ ติดต่อมา และหารถจักรยานยนต์เป้าหมายถ่ายรูปส่งไปให้ นายพลกฤษณ์ เพื่อทำเอกสารปลอมขึ้นมาและส่งให้กับ น.ส.พรรณราย ใช้แสดงกับผู้รับจ้างขนส่ง เมื่อถึงวันเวลาก่อเหตุนายพลกฤษณ์ ได้เรียกรถกระบะตู้ทึบผ่านแอปพลิเคชั่น ของบริษัทขนส่งเอกชนรายหนึ่ง มารับรถบริเวณที่เกิดเหตุ โดยมี น.ส.พรรณราย มาชี้เป้าหมายรถจักรยานยนต์ที่จะลักเอาไป โดยในวันที่เกิดเหตุมีนายธนัต ขับรถยนต์กระบะตู้ทึบมารับงานขนรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักไป ส่งให้นายพลกฤษณ์
ต่อมาวันที่ 5 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำหมายค้นศาลอาญา เข้าค้นบ้าน ถ.ลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร บ้านพักของนายพลกฤษณ์ พบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ภายในบ้านพักจำนวน 16 คัน เมื่อตรวจสอบแล้ว รถจักรยานยนต์ดังกล่าวมีเอกสารไม่ครบถ้วน โดยนายพลกฤษณ์ ได้อ้างว่ารับจำนำมาจากบุคคลอื่น และยังพบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารข้อมูลจดทะเบียน และข้อมูลบัตร ประชาชน ของเจ้าของรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับจึงได้ตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 3 รายและยึด รถจักรยานยนต์ 16 คันโดยจะมีการขยายผลในการจับกุมเพื่อหาต้นตอของขบวนการต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี