ทุกคำพูดมีผลต่อสังคม!!! "ทนายเกิดผล"ชี้คนดังรับโปรโมตสินค้า-ธุรกิจพึงคิดให้มาก หากเกิดปัญหาถือว่าผิดด้วย
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ถึงคดีใหญ่ 2 คดี คือคดีขายเครื่องประดับที่ไม่มีคุณภาพทางออนไลน์ และคดีบริษัทขายตรง ซึ่งมีข้อสังเกตว่า มีบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา อินฟลูเอนเซอร์ จำนวนไม่น้อยเข้าไปเกี่ยวข้อง และ โพสต์ทางเฟซบุ๊กของคนหลายครั้งก็ได้ย้ำถึงความรับผิดตามกฎหมายของบุคคลเหล่านี้ด้วยไม่มากก็น้อยตามแต่พฤติการณ์ที่แต่ละคนได้กระทำไป ว่า เพราะความเสียหายที่เสียหายที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการมีคนมีชื่อเสียงเข้าไปเป็นผู้ช่วยสนับสนุนให้กับเจ้าของกิจการที่กระทำความผิด
ซึ่งลำพังหากเป็นเพียงการกระทำโดยเจ้าของกิจการอย่างเดียว ความเสียหายอาจไม่มากเป็นวงกว้างถึงขนาดนี้ ดังนั้นในเมื่อดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงได้รับผลตอบแทนจากสิ่งที่ไปทำไม่ว่ามากหรือน้อย หรือแม้แต่ไปทำให้ฟรีๆ ก็จะต้องรับผลที่ตามมาด้วย ซึ่งจริงๆ แม้แต่คนทั่วไปก็ต้องระมัดระวัง เพียงแต่การเป็นบุคคลมีชื่อเสียง กรณีหากไม่เคยรับงานโฆษณาหรือรีวิวสินค้ามาก่อนอาจอ้างได้ แต่หากไม่ใช่ครั้งแรกที่รับงานประเภทนี้ก็ต้องมีสามัญสำนึกและรู้อยู่แก่ใจว่าสินค้าใดที่ควรรีวิว หรือสินค้าใดที่ต้องระวัง เพราะคำพูดของคนดังมีผลกระทบต่อสังคมมากกว่าคนทั่วไป
“ถ้าเป็นพรีเซนเตอร์เครื่องประดับ คุณก็ต้องมองอย่างความเป็นจริงว่าทำไมแม่ค้ารายนี้ขายเครื่องประดับราคาถูกผิดปกติ ทองคำบาทละสี่หมื่นคุณขายบาทละสองหมื่นคุณจะไม่สงสัยหรือ? อยู่ตั้งหลายเส้นนะ เขาขายแค่ 1-2 เส้นไม่เท่าไร แต่นี่เขายอมขายขาดทุนทุกเส้นทุกรายการ ในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่งคุณจะไม่แปลกใจหรือ? ถ้าเป็นวิญญูชนทั่วไปเขาต้องพิจารณาว่าทำไมขายขาดทุนทุกรายการ จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้ลูกค้าไปซื้อของมาขายได้ เอาง่ายๆ เลย พิจารณาอย่างวิญญูชนก่อนว่าสินค้าประเภทนี้มันเป็นไปได้ไหม? ขายถูกผิดปกติแบบนี้” ทนายเกิดผล กล่าว
ทนายเกิดผล กล่าวต่อไปว่า หรือหากเป็นสินค้าประเภทอาหาร-เครื่องดื่ม หรือเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ หากมีโอกาสต้องลองกินลองใช้ก่อน ไม่ใช่เขาให้มาพูดอะไรก็พูดหมด ส่วนการโฆษณาประเภทการชักชวนให้ลงทุนหรือเข้าร่วมหลักสูตรฝึกอบรม โดยหลักแล้วคนทั่วไปก็ต้องพิจารณาว่าการชักชวนคนมาลงทุนไม่ว่าอะไรก็ตามล้วนมีความเสี่ยง ดังนั้นหากดาราหรือบุคคลที่มีเชื่อเสียงไปรับงานโปรโมตในลักษณะที่บอกว่าไม่มีความเสี่ยงและได้ผลตอบแทนเกินคาดหมาย เห็นแบบนี้ก็ต้องเอะใจแล้ว
เช่น ลงทุน 1,000 บาท ได้ผลตอบแทน 1,300 บาท ในเวลาเพียงครึ่งวันหรือ 1 วัน หรือ 1 เดือน เท่ากับผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 30 ก็น่าคิดว่าหากผลตอบแทนสูงขนาดนี้จริงเหตุใดกิจการจึงไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ เหตุใดจึงยังทำเหมือนขายปลีกอยู่ ก็ต้องพิจารณาแล้วว่าได้ผลกำไรมาจากไหนมาแจกจ่าย หรือบางครั้งก็ไม่บอกด้วยว่าลงทุนทำอะไร อย่างกรณีล่าสุดที่อ้างอบรมออนไลน์ คิดค่าอบรม 3 วันเพียง 98 บาท จาก 4-6 พันบาท แบบนี้เป็นไปได้หรือ
“เราเป็นดาราเป็นอะไรต้องเคยผ่านเรื่องนี้ ก็ควรจะพิจารณาว่าเขาต้องทำเพื่อประโยชน์อะไรสักอย่างหนึ่งแน่นอน มันไม่ใช่ ถ้า 98 บาทฟรีไปเลยดีกว่าไหม? มันก็ไมได้อะไรอยู่แล้วจริงไหม? ถ้าเขาไม่หวังอะไรสักอย่าง ยิ่งถ้าคุณอยู่ในแวดวงตรงนั้นคุณต้องพิจาณาดีๆ มันไม่ใช่ว่าเขาจ่ายเงินคุณแล้วคุณอยากจะพูดอะไรก็พูดออกไป คุณต้องมีความรับผิดชอบกับสิ่งที่คุณพูดด้วย” ทนายเกิดผล ระบุ
ทนายเกิดผล ยังกล่าวอีกว่า ส่วนคำถามกรณีในสื่อสังคมออนไลน์ มีการรวบรวมบันทึกวีดีโอรายการที่เชิญบรรดาบุคคลที่มีชื่อเสียงจากบริษัทขายตรงที่กำลังเป็นคดีความอยู่นี้มาอวดอ้างความสำเร็จ ซึ่งออกอากาศอยู่หลายตอนทางสื่อโทรทัศน์บางช่อง และเรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์หรือเจ้าของรายการดังกล่าวต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย ตนเห็นว่าสื่อนั้นก็สมควรต้องร่วมรับผิดชอบเช่นกัน เพราะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ไปร่วมส่งเสริมเขา สื่อก็ต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี