คนเป็นแม่สุดช็อค!!! ลูกชายเทวดาเสพยาบ้าหลอนหนัก ลากแม่จะเอาไปเผานั่งยาง แค้นขอเงินไปซื้อน้ำมันตัดหญ้าไม่ได้ สุดท้ายหันไปเผารถมอเตอร์ไซด์เหลือแต่ซาก ตร.เข้าควบคุมตัวพูดวกวน ขณะที่ผู้เป็นแม่บอกเอาไปไหนก็ไป อย่าเอากลับมาหาอีกกลัวโดนฆ่า เผยเคยติดคุกมาแล้วต้องเอาที่ดินไปจำนองไปประกันตัว บอกให้กลับตัวกลับใจก็ไม่เคยฟัง
วันนี้ (15 ต.ค.67) เวลา 13.00 น.ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งมีเหตุหนุ่มอาละวาดจะเผาบ้าน แต่เผารถ จยย.ไปแล้วเหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ตรงข้ามโรงเรียนสามพร้าววิทยา หมู่ 2 บ้านสามพร้าว ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.บัญชา สาระปัญญา รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี หน.ตำรวจต.สามพร้าวนำกำลังรีบไปตรวจสอบทันที เมื่อไปถึงพบนายเอกรัตน์ หรือก้อง อายุ 33 ปี ยืนอยู่บริเวณสวนภายในบ้านกำลังใช้น้ำดับไฟรถจักรยานยนต์ที่ไฟกำลังไหม้หมดเหลือแต่ชาก เป็นฮอนด้าเวฟ 100 สีน้ำเงิน-ขาว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเกลี่ยกล่อมก่อนก้องจะยอมมอบตัวโดยดีและไม่ต้องใช้กำลัง จากนั้นจึงคุมตัวไปสงบสติและอารรมณ์ที่ สภ.เมืองอุดรธานี เบื้องต้นก่อนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะที่นางนงค์ศรี ผู้ของนายก้องพา ตร.ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุลูกชายเผารถ จยย. โดยพบว่ารถที่เผาเป็นของนายก้องถูกเผาเหลือแต่ชาก โดยคนเป็นแม่บอกว่า จริงๆ แล้วมันจะลากแม่มาเผาย่างสด แต่แม่หนีทัน หากวิ่งหนีไม่ทันมันเผาย่างสดแม่แน่
ขณะที่ตร.กำลังคุมตัวนายก้องไปยังสภ.เมืองอุดรธานี ตอนอยู่ในรถนายก้อง พูดจาวกไปวนมา เป็นนักข่าวใช่ไหมนี่ ผมจะได้ส่วนแบ่งไหม พวกเจ้าจะมาขายข่าวแบบอิสราเอลใช่ไหม ดูท่าจะพูดไม่รู้เรื่อง ก็เลยกล่อม สุดท้ายนายก้อง บอกว่า สาเหตุที่ตนเผามอเตอร์ไซค์นั้นเป็นเพราะเมาเหล้าขาว ผมไปทำอะไรกับแม่หละ พวกพี่รู้จักแม่ผมน้อยไป อีกอย่างแม่ไม่พอใจไม่ให้เพื่อนคือนายโอเข้ามายุ่งภายในบ้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมทำแบบนั้นกับแม่นายก้องบอกว่า ตนไม่ได้ทำอะไรให้แม่ พี่รู้จักแม่ผมน้อยไป ถ้าได้ยินแม่ผมพูดแล้วจะรู้สึก ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า วันนี้เสพยาหรือเปล่า นายก้อง ตอบอีกว่า เมาเหล้าขาวล้วนๆ ยังไม่สร่าง ถ้าตรวจฉี่เจอแน่นอนว่าเสพยาเสพติดเพราะเมื่อเช้าเพิ่งเสพมา ตอนนี้ก็ยังเมาไม่สร่างอยากดื่ม เรื่องที่เกิดขึ้นไม่อยากจะขอโทษใครทั้งนั้นตอนนี้ยังไม่สร่างเมาอยากดื่มแต่น้ำ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้เอาน้ำให้ดื่มก่อนจะคุมตัวไปยัง สภ.เมืองอุดรธานีเพื่อดำเนินคดี หลังจากแม่แจ้งความดำเนินคดีกับลูกชายให้ถึงที่สุด
ด้านแม่นายก้อง เปิดเผยทั้งน้ำตากับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ประมาณช่วงบ่ายตอนมาเก็บดอกโสน จะเอาไปทำอาหารไปวัดพรุ่งนี้ ขณะกำลังยืนเก็บ ลูกชายเดินมาแล้วหักกิ่งดอกโสน แล้วก็พูดว่าอย่ามาเก็บเหมือนหวงต้นไม้ ตนรู้ว่าลูกชายมีพฤติกรรมเกี่ยวกับยาเสพติดและมีอารมณ์รุนแรง เห็นไม่เข้าท่าไม่ปลอดภัย จึงหนีออกมา ตนก็สั่งร้านค้าที่หน้าปากทางบอกว่า หากเกิดอะไรขึ้นก็ให้รีบโทรไปบอก ไม่นานร้านค้าโทรไปบอกว่าเห็นควันไฟอยู่ภายในบริเวณบ้าน ตนรีบขับรถมาดู เห็นลูกกชายเผารถจักรยานยนต์ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับตัวลูกชาย
"ที่เกิดเหตุนั้นเป็นบ้านสวน มีลูกชายพักอาศัยอยู่คนเดียว สาเหตุลูกชายเผารถจักรยานยนต์แล้ว คิดว่าน่าจะคลั่งเนื่องจากเสพยาบ้ามาก ให้ตำรวจเอาไปไหนก็ไป อย่าปล่อยมาหาแม่อีก เลี้ยงลูกชายคนนี้ตั้งแต่เล็กคนโต อย่าปล่อยมันออกมานะมันออกมามันฆ่าแม่ตายแน่ ขอร้องคุณตำรวจด้วยเถิดเพร้อมยกมือขึ้นท่วมหัวเอาไปไหนก็ตาม ไม่นับเป็นลูกชายแม่ไม่ไหวแล้ว"แม่กล่าวด้วยน้ำตา
สำหรับนายก้องเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนสุดที่รักของแม่เอง มีลูก 3 คน ลูกสาว 2 ตาย 1 คน ลูกชาย 1 คือนายก้องลูกชายคนเดียว เดิมทีลูกชายทำงานที่โรงงานจังหวัดระยอง จากนั้นก็มาอยู่บ้านกับภรรยา เขามีลูก 1 คน อายุ 3 ปี แต่ก่อนลูกชายเสพยามากจนภรรยาเลิกและหอบลูกไปอยู่ที่อื่นและมีสามีใหม่ จากนั้นนายก้องก็มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหนักขึ้นเสพยาบ้าอยู่เป็นประจำเคยติดคุกและถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดหลายครั้ง พอถูกจับตนไม่มีเงินไปประกันตัวสู้คดีก็เอาที่มรดกไปจำนองจำนำเพื่อเอาเงินที่ได้มาไปประกันตัวลูกออกมาเพราะไม่อยากให้ลูกติดคุก ตนเคยบอกเคยสอบให้ลูกกลับตัวและไปหางานทำแต่ลูกก็ไม่เคยเชื่อและทำตาม
แม่นายก้อง บอกอีกว่า เวลาลูกเมายาก็เคยข่มขู่ โดนลูกเคยถือมีดไล่ฟันแม่มาแล้วครั้งหนึ่ง เคยโทรแจ้งตำรวจมาจับแต่เมื่อตำรวจมากลูกชายก็สงบเงียบ ตอนนี้รู้สึกกังวลมากกลัวว่าลูกจะกลับออกมา โดยลูกชายเคยขู่อาฆาตแม่ว่า หากแจ้งตำรวจจับจะกลับมาทำร้าย ซึ่งครั้งนี้หากถูกปล่อยตัวออกมาตนคิดว่าลูกชายคงกลับมาฆ่าแม่แน่ๆ และตนก็จะยอมให้มันฆ่า ห่วงแต่พ่อที่นอนป่วยอยู่บ้านไม่รู้ว่าใครจะดูแลต่อ หากย้อนเวลากลับไปได้ก็ไม่อยากให้ลูกคนนี้เกิดมาเลยยิ่งดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี