'มงคลกิตติ์' พร้อมคณะลุยรับเรื่องร้องเรียนจาก อดีต สส.ภูเก็ต และประชาชนกลุ่มรักบ้านเกิด กรณีบุกรุกป่าสงวน รุกที่ภูเขา จ.พังงา พร้อมเสนอขุมน้ำถ้ำทองหลางเป็นแหล่งท่องเที่ยวเสมือนอุทยานแห่งชาติ เผยข่าวดีเตรียมปลดล็อคแก้ไขระเบียบเพื่อให้ อปท. ติดป่าสงวนสามารถสร้างถนนหนทางเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มอบหมายให้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนิตศักดิ์ ดารามั่น อดีต ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอนันต์ ฤกษ์ดี อดีต ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 18 นางสาวภคอร จันทรคณา ประธานคณะทำงานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายสรกฤช จันทรคณา นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิต และนางสาวกฤษยากร สรชัย คณะทำงานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคฯ เดินทางลงพื้นที่ จ.พังงา รับเรื่องร้องเรียนจาก นายสุทา ประทีป ณ ถลาง อดีตสส.ภูเก็ต และอดีตรองประธาน กมธ.ปปช. คนที่ 1 พร้อมประชาชนกลุ่มรักบ้านเกิด จำนวนทั้งหมด 4 เรื่อง ได้แก่ 1.กรณีข้อพิพาทกับเหมืองหินถ้ำทองหลาง 2. การตัดป่า ถางป่า บริเวณฝั่งซ้ายรอบเขานางหงษ์ 3.การบุกรุกท้องที่บ้านบางแนะ ม.3 ต.นบปลิง อ.เมืองพังงา จ.พังงา ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาทอยและป่านางหงษ์ จำนวน 11 ไร่ 2 งาน 96 ตร.ว.ซึ่งแอฟพิทักษ์ไพร แจ้งมายัง กรมป่าไม้ เมื่อ 29 มี.ค. 2565 และดำเนินคดีอาญา เมื่อ 11 เม.ย.2565 แต่ปัจจุบันได้งดการสอบสวนเพราะหาผู้ต้องหาไม่ได้ และ 4.การบุกรุกท้องที่บ้านบางแนะ ม.3 ต.นบปลิง อ.เมืองพังงา จ พังงา จำนวน 2 ไร่ 3 งาน 8 ตร.ว. โคนต้นไม้เพื่อปลูกปาล์ม ดำเนินคดีเมื่อ 5 ส.ค. 2567 โดยมีเจ้าหน้าจากกรมป่าไม้ และ เจ้าหน้ากรมอุทยานฯ ทรัพยากรจังหวัดพังงา เข้าร่วมให้ข้อมูล
โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนเองพร้อมคณะฯ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ เขานางหงส์ บริเวณจุดชมวิว และที่ตั้งศาลเจ้าแม่นางหงส์ รอยต่อเขตอำเภอเมืองพังงา และ อำเภอทับปุด พบว่ามีร่องรอยการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ โดยการแผวถางป่าเป็นทางกว้าง 3 เมตร ยาว 600 เมตร มีรายงานว่าได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้วแต่ยังไม่พบผู้กระทำความผิด หรือ จะรู้กันในพื้นที่หรือไม่ เป็นเทคนิค ถ้ายังหาผู้กระทำผิดไม่ได้ ให้จำหน่ายคดีไปก่อน ขณะอีกพื้นที่บริเวณขุมน้ำถ้ำทองหลางมีการให้สัมปทานทำเหมืองหินเมื่อปี 2556 และหมดสัมปทานปี 2566 จากนั้นมีการรังวัดพื้นที่จากกรมที่ดินพบว่าเอกสารสิทธิ์ที่ดินคนละตำแหน่งกัน พื้นที่ดังกล่าวจึงเป็นพื้นที่อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ ทราบว่าขณะนี้มีนักท่องเที่ยวนับแสนคน/เดือน จึงขอเรียนว่าขุมน้ำถ้ำทองหลางไม่ได้อยู่ในกรรมสิทธิ์ของเอกชน นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชมธรรมชาติได้ ขอให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวกันมากๆ อย่างน้อยสร้างงานสร้างอาชีพสร้างรายได้แก่พี่น้องประชาชนได้ จากนี้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จะเน้นหนักแหล่งต้นน้ำห้ามมีการบุกรุก โดยเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงทรัพย์ฯต้องเข้มงวดกวดขันเพื่อเกิดสมดุลทางธรรมชาติให้ได้มากที่สุด จะได้ลดความรุนแรงจากภัยพิบัติ จากนั้น ได้ไปตรวจการบุกรุกที่ป่าสงวนแก่งชาติป่าเขาทอยและป่านางหงษ์ อีก 2 จุด ที่บ้านบางแนะ ม.3 ต.นบปลิง อ.เมืองพังงา จ.พังงา
“การลงพื้นที่ จ.พังงา เพื่อมาตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ถือเป็นนโยบายในการทำงานของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ได้สร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศ และเป็นสาเหตุสำคัญของภัยพิบัติที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางมาชมความงดงามของธรรมชาติในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ตั้งอุทยานฯ ซึ่งกระบวนการทั้ง 2 อย่างนี้ สามารถเดินไปด้วยกันได้ อีกทั้ง ขณะนี้ได้มีการลงมือแก้ไขปัญหาเพื่อเป็นการปลดล็อคให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการสร้างถนน สะพาน และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้กับประชาชน
อันเนื่องมาจากว่า แต่เดิมการขออนุญาตก่อสร้างถนนหนทาง และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในเขตที่ติดต่อกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและป่าไม้ จะต้องทำหนังสือนุญาตไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมากในการทำหนังสือตอบกลับไปมา กว่าจะได้ทำโครงการก็จบปีงบประมาณ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ตรงนั้นเสียผลประโยชน์ที่ควรจะได้รับ ซึ่งตรงนี้ ทางนายเฉลิมชัย ก็จะได้มีการดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบเพื่ออำนวยประโยชน์สุขต่อประชาชนในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ ต่อไป” นายมงคลกิตติ์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี