คณะกรรมการพิเศษเฉพาะเรื่อง ด้านการส่งเสริมนวัตกรรมการอุดมศึกษา ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ
ได้มีการประชุม ครั้งที่ 1/2567 โดยมี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีวาระสำคัญในการพิจารณาอนุมัติข้อเสนอการจัดการศึกษาฉบับสมบูรณ์สำหรับการจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษา (Higher Education Sandbox) หรือหลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ เพิ่มเติมอีก 5 หลักสูตร
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. กล่าวว่า หลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ที่เสนอเพื่อขออนุมัติจัดการศึกษาเพิ่มเติมในครั้งนี้อยู่ในสาขาที่เป็นความต้องการเร่งด่วนของประเทศ อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และ ระบบราง โดยเฉพาะหลักสูตรวิศวกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้เป็นหลักสูตรกลางของประเทศ โดยเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษา 15 แห่ง เพื่อร่วมกันผลิตบัณฑิตเฉพาะทางสมรรถนะสูงที่ตอบโจทย์ความต้องการ และมีจำนวนมากเพียงพอสำหรับดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงนำไปสู่การเป็น New Growth Engine ตัวใหม่ของประเทศ หลักสูตรนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ความร่วมมืออย่างเข้มข้นของสถาบันการศึกษากับบริษัทเอกชนชั้นนำของประเทศ8 แห่ง ซึ่งจะเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่การออกแบบสมรรถนะ สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือขั้นสูง รวมถึงการรับนักศึกษาเข้าฝึกและเข้าทำงานหลังจบการศึกษา นอกจากนี้ อีกหนึ่งหลักสูตรที่มีความต้องการขาดแคลนเร่งด่วน คือ หลักสูตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ Cybersecurity ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ทำงานแล้วและต้องการเปลี่ยนสายงานสามารถเข้าศึกษาและได้รับปริญญาใบที่ 2 พร้อมทำงานในสายงานดังกล่าวได้อีกด้วย
ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ จะมีการพิจารณาอนุมัติข้อเสนอการจัดการศึกษาฉบับสมบูรณ์ จำนวน 5 หลักสูตร ประกอบด้วย 1.หลักสูตรสาขาวิชาวิศวกรรมเซมิคอนดักเตอร์ 2.โครงการ K-Engineering WiL (Work-integrated Learning) 3.หลักสูตรสาขาวิชาการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ 4.หลักสูตรสาขาวิทยาการขั้นสูงทางชีวการแพทย์และการสร้างสรรค์ธุรกิจสุขภาพ 5.หลักสูตรสาขาวิชาวิศวกรรมระบบราง โดยการประชุมครั้งนี้ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมพิจารณาข้อเสนอการจัดการศึกษาฉบับสมบูรณ์ด้วย และเมื่อมีการอนุมัติหลักสูตร สำนักปลัดกระทรวง อว. จะเร่งดำเนินการติดตามการทำงาน เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เกิดนวัตกรรมการอุดมศึกษา และสามารถตอบความต้องการพัฒนากำลังคนของประเทศได้อย่างทันท่วงที
ดร.สิริพร พิทยโสภณ นักยุทธศาสตร์ระดับสูง รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ได้กล่าวสรุปความก้าวหน้าการดำเนินงานการจัดการศึกษาในหลักสูตรที่ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งหลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะมีทั้งรูปแบบ Bottom-up Approach จากการที่สถาบันอุดมศึกษาจัดทำข้อเสนอการจัดการศึกษาฯ ส่งมาที่กระทรวง อว. และรูปแบบ Top-down Approach ที่เกิดจากกระทรวง อว. ร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัย และภาคเอกชน ที่เล็งเห็นโจทย์ความขาดแคลนกำลังคนอย่างเร่งด่วนของประเทศ เช่น กำลังคนด้าน Semiconductor and Advanced Electronics ทำให้เกิดการผลักดันหลักสูตรเพื่อผลิตกำลังคนตอบความต้องการของประเทศ โดยที่ผ่านมามีการอนุมัติหลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ในรูปแบบ Bottom-up Approach ไปแล้ว 11 ข้อเสนอ มีเป้าหมายผลิตกำลังคน 19,695 คน ภายใน 10 ปี และได้เปิดการเรียนการสอนแล้วในปีการศึกษา 2566 มีนักเรียนเข้าเรียนรวม 530 คน นอกจากนี้ ยังมีแนวทางขับเคลื่อนหลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ Semiconductor Engineering ในรูปแบบ Top-down Approach ใน 8 สถานประกอบการ 15 สถาบันอุดมศึกษาอีกด้วย และการดำเนินงานในปี 2567 จะมีการพิจารณาอนุมัติหลักสูตรฯ เพิ่มเติมอย่างน้อย 5 ข้อเสนอ
ผศ.ดร.พูลศักดิ์ โกษียาภรณ์ นักยุทธศาสตร์ระดับสูง รักษาการแทนรองผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวถึงรายละเอียดใน 5 ข้อเสนอการจัดการศึกษาฯ ที่ผ่านการอนุมัติ ได้แก่ 1.ข้อเสนอการจัดการศึกษาฉบับสมบูรณ์ หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมเซมิคอนดักเตอร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เป็นหลักสูตรกลางเฉพาะทางด้านเซมิคอนดักเตอร์หลักสูตรแรกของประเทศ ที่ครอบคลุมการผลิตวิศวกรด้านเซมิคอนดักเตอร์คุณภาพสูงครอบคลุมทั้งห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของอุตสาหกรรม ใน 3 สาขาได้แก่ 1.IC Design 2.Semiconductor Fabrication และ 3.Semiconductor Assembly and Testing เพื่อป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษาอย่างน้อย 15 แห่ง ประกอบด้วย1.ส.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 2.ม.ขอนแก่น 3.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4.ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 5.ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 6.ม.เชียงใหม่ 7.ม.เกษตรศาสตร์ 8.ม.เทคโนโลยีสุรนารี 9.ม.สงขลานครินทร์ 10.ม.เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 11.ม.บูรพา 12.สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ 13.ม.เทคโนโลยีมหานคร 14.ม.นเรศวร 15.สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น เครือข่ายสถานประกอบการอย่างน้อย 8 แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือร่วมกัน ทำให้สามารถผลิตกำลังคนเฉพาะทางสมรรถนะสูงในด้านที่ขาดแคลนให้มีจำนวนที่มากเพียงพอได้ โดย สจล. ที่นำร่องจัดการศึกษาได้วางเป้าหมายผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรี ด้านเซมิคอนดักเตอร์ ครอบคลุมทั้ง 3 สาขาข้างต้น รวม 480 คน
2.ข้อเสนอการจัดการศึกษาฉบับสมบูรณ์โครงการ K-Engineering WiL (Work-integrated Learning) แบบปกติและเร่งรัด สจล. เป็นการผลิตวิศวกรตามความต้องการแบบเร่งรัด จัดการศึกษาแบบ WiL อย่างเข้มข้นโดยนักศึกษาปริญญาตรีจะเข้าฝึกปฏิบัติงานในสถานประกอบการ 3-4 ภาคการศึกษา และบัณฑิตศึกษา 1-2 ภาคการศึกษา มีความร่วมมือกับสถานประกอบการ 20 แห่ง รวมถึงเปิดโอกาสให้นักเรียน ม.ปลาย/ปวช. สามารถเรียน Pre-degree และเก็บสะสมหน่วยกิตในระดับปริญญาตรีได้ตั้งเป้าผลิตวิศวกรที่มีความพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงาน (Career Readiness) จำนวน 450 คน ครอบคลุมทั้งในระดับปริญญาตรี โท และเอก 3.ข้อเสนอการจัดการศึกษาฉบับสมบูรณ์ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ โดยสมาคมสภาคณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ และเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาอีก 9 แห่ง เป็นการผลิตบุคลากรระดับปริญญาตรี ที่มีทักษะในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลในสาขาการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์รองรับความต้องการในอุตสาหกรรม 4.0 รวมถึงเพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปและนักศึกษาในสาขาที่ใกล้เคียง ที่ต้องการเปลี่ยนสายงานมาเพิ่มเติมความรู้และสมรรถนะด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และได้รับปริญญาใบที่ 2 ได้ โดยหลักสูตรนี้ตั้งเป้าผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรีและปริญญาตรีใบที่ 2 จำนวน 150 คน 4.ข้อเสนอการจัดการศึกษาฉบับสมบูรณ์ หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิทยาการขั้นสูงทางชีวการแพทย์และการสร้างสรรค์ธุรกิจสุขภาพ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นการผลิตกำลังคนสมรรถนะสูงในศาสตร์แห่งอนาคต 5 สาขา ได้แก่ Medical devices, Drug discovery & development,Biologics & Vaccines, Medical robotics และAI-based medical diagnosis ที่เน้นการพัฒนาทักษะเชิงเทคนิคระดับสูง ควบคู่กับมุมมองเชิงประกอบการและการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพตอบโจทย์อุตสาหกรรม หรือสร้าง Startup รองรับการพัฒนาประเทศด้านการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง ตั้งเป้าบัณฑิตระดับปริญญาโท จำนวน 500-1,000 คน และ 5.ข้อเสนอการจัดการศึกษาฉบับสมบูรณ์ หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต และหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมระบบราง (หลักสูตรนานาชาติ) (หลักสูตรภาคปกติและภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นการผลิตและพัฒนาบุคลากรสมรรถนะสูงให้มีความเชี่ยวชาญองค์รวมของระบบขนส่งทางราง เพื่อรองรับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศด้านงานวิศวกรรมระบบราง ตอบโจทย์การขยายตัวของอุตสาหกรรมระบบรางทั้งภายในประเทศและระดับสากล โดยเป็นการจัดการศึกษาแบบ Co-Creation ร่วมกับสถาบันวิจัย ได้แก่ สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) (สทร.) และภาคผู้ใช้บัณฑิตเพื่อแชร์ทรัพยากรและส่งเสริมการต่อยอดให้เกิดผลงานวิจัยหรือนวัตกรรมร่วมกัน ตั้งเป้าหมายผลิตบัณฑิตระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ด้านวิศวกรรมระบบราง รวม 50-100 คน
ศ.ดร.ศุภชัย ได้กล่าวเสริมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในหลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ที่จะมีขั้นตอนการติดตามประเมินผลการจัดการศึกษา เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบัณฑิตจากหลักสูตรแซนด์บ็อกซ์จะมีคุณภาพสูง พร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานและตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง และเพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรต่อไป โดยหลักสูตรที่ผ่านการอนุมัติในครั้งนี้เตรียมจะเปิดการศึกษาในปี 2568
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี