ตร.ตั้งข้อหาฉ้อโกงปชช.
จับ‘บอสพอล’
คาสคบ./ลิ่วล้อโดนหมด
เหยื่อดิไอคอนฯทะลุพัน
ปปง.อายัดทรัพย์ 125 ล.
ตำรวจนำหมายจับ รวบ “บอสพอล” คา สคบ. เอาผิดข้อหาฉ้อโกงประชาชน-ลิ่วล้อโดนหมด ส่วน ปปง.ฟันดาบแรก อายัดทรัพย์ดิไอคอน กรุ๊ป 125 ล้านบาท ด้าน กมธ.ปปง.จ่อเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูล ขณะที่ผู้เสียหายยังแห่เข้าแจ้งความ ปคบ.ยอดทะลุพันราย ส่วนทนายตั้ม ปูดชื่อนาย ‘ธ’ กุนซือ บอสพอล ‘เอกภพ’ สายไหมต้อรอด พาพยานพบอธิบดีดีเอสไอ ปมเทวดารับเงินเซ่นไหว้ป้องบริษัทฉาว
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการธุรกรรม ปปง.ได้แถลงผลการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินกรณีบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป กับพวก ดังนี้ ปปง.ได้รับรายงานจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ในรายบริษัท ดีไอคอนกรุ๊ป กับพวก มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และจาการตรวจสอบรายงานและข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมกรณีดังกล่าว มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าอาจมีการโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้น
ปปง.ฟันดาบแรกอายัดทรัพย์125ล.
ทั้งนี้ ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 48 วรรคสอง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ออกคำสั่งที่ ย. 214/ 2567 ให้อายัดทรัพย์สินของบริษัท ดิ ไอคอนกรุ๊ป , นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล , นายณิชพน ทองมี , น.ส.ฐิตตญา หงษ์อุปถุมภ์ไชย และนายกันต์ กันตถาวร ซึ่งเป็นเงินในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ เงินในบัญชีเงินฝาก และเงินในบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และสินทรัพย์ดิจิทัล 11 รายการ รวมทั้งสิ้นประมาณ 125,548,076.99 บาท พร้อมดอกผลไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน
กมธ.ปปง.คิ๊กออฟปมดิไอคอน
ที่รัฐสภา นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด (ปปง.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการหารือกรณีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ว่าจะเชิญนักกฎหมายเข้าให้ข้อมูล และจะสรุปว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร จะเชิญหน่วยงานไหนมาชี้แจง กมธ.บ้าง ส่วนนายวรัตน์พล วรัตน์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ อ้างว่าไม่รู้เรื่อง เป็นการกระทำของแม่ข่าย จึงไม่เข้าข่ายฟอกเงินนั้น ก็ต้องดูที่มาของรายได้ จึงเกี่ยวข้องกับทางบัญชี และสรรพากร ที่สามารถตรวจสอบได้ ไม่ใช่บอกว่า ตนเองมีสินค้าแล้วเป็นการขายของ มันง่ายเกินไป
ชี้ปปง.อายัด100กว่าล้านน้อยไป
“สัปดาห์หน้าแน่นอนว่าจะต้องเชิญเลขาธิการ ปปง.มาชี้แจงเรื่องนี้ ซึ่งจากข่าวที่ออกมาบอกว่า ปปง.อายัดไว้ 100 กว่าล้าน เป็นการอายัดตามความเสียหาย แต่มองว่า 100 กว่าล้าน ดูน้อยเกินกว่าความเป็นจริง เพราะขณะนี้เฉพาะผู้เสียหายที่ไปร้องหรือแจ้งข้อกล่าวหามีจำนวนมากกว่า 100 กว่าล้าน ที่ ปปง.อายัดไว้แน่นอน” นายเลิศศักดิ์ กล่าวและว่า บิ๊กบอส อาจจะไม่ได้มีบอสพอล เพียงคนเดียว เป็นเรื่องที่ตำรวจจะต้องติดตามจากพยานหลักฐานต่างๆ
เรียกหน่วยงาเกี่ยวข้องให้ข้อมูล
นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า การประชุม กมธ.สัปดาห์หน้า จะเชิญผู้แทน ปปง. , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , ผู้เสียหายจากบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป และผู้บริหารบริษั ดิ ไอคอน กรุ๊ป มาชี้แจงต่อ กมธ. สำหรับแนวทางต่อจากนี้ เนื่องจากข้อเท็จจริงมีหลากหลายจากหลายภาคส่วน รวมถึงหลายช่องทางกฎหมายที่จะเอาผิดผู้บริหารบริษัทฯ กมธ.จะตั้งคณะอนุกรรมาธิการ ขึ้นมาติดตามเรื่องนี้จนถึงที่สุด ยืนยันว่าเราให้ความสำคัญ นอกจากนี้ในการหารือของ กมธ.ได้ข้อสรุปว่าข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ได้แก่ 1.พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค 2.พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดแบบตรง และ 3.พ.ร.ก.การให้กู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จึงเห็นช่องทางว่ามีโอกาสที่จะเข้าข่ายการกระทำผิดตามกฎหมายแน่นอน
เหยื่อแห่แจ้งจับทะลุหลักพันราย
ส่วนที่ บก.ปคบ.ยังคงมีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความอย่างต่อเนื่อง โดยยอดผู้เสียหายที่มีการสอบปากคำแล้ว รวม 1,063 ราย มูลค่าความเสียหาย 386,475,171 บาท โดยมีรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะเดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อชี้แจง กรณีมีคลิปเสียง อ้างว่ามีชื่อตนเองเข้าไปเอี่ยวกับกรณีของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป โดยจะยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ในส่วนของกลุ่มดารา อาทิ ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ , ลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ ดีน ยังไม่มีกำหนดว่าจะเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน
ค้นคลินิกบอสหมอเอกปิดทำการ
ขณะเดียวกัน นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยตำรวจ บก.ปคบ.เจ้าหน้าที่ สบส.และ อย.ลงพื้นที่ตรวจสอบดิไอคอน เวลเนส คลินิกเวชกรรมของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ย่านรามอินทรา บริเวณโซน J ในโครงการ HOME OFFOCE แห่งหนึ่ง รวม 4 คูหา โดยพบว่าคลินิกดังกล่าวปิดทำการ มีป้ายระบุข้อความปิดให้บริการติดไว้ที่ประตูกระจก
นายกองตรีธนกฤต กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้ เนื่องจากมีการแจ้งความดำเนินคดีกับบอสหมอเอก ที่แอบอ้างตัวเป็นแพทย์ และเป็นระดับแม่ทีมในธุรกิจของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป แต่หลังจากพบว่าคลินิกปิดทำการ จึงไม่ได้เข้าตรวจค้น อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทราบว่าคลินิกมีใบอนุญาตเปิดสถานประกอบการถูกต้อง ส่วนกรณีนายเอก จะมีการกระทำใดที่เข้าข่ายความผิด ก็จะพิจารณาจากพยานหลักฐาน โดยเฉพาะคลิปฉีดอะไรบางอย่างให้คนไข้อย่างน้อย 5 คน และมีการใส่ชุดกราวด์และหูฟังของแพทย์ พร้อมกับพูดว่าเป็นหมอ ซึ่งถ้าเป็นหมอแล้วไม่มีการขึ้นทะเบียน ก็ถือว่าเป็นหมอเถื่อน
จ่อหมายเรียก-หมายจับหากยังหนี
“เมื่อไม่พบตัวขั้นตอนต่อไปคือการออกหมายเรียกและหมายจับ เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเข้าใจผิดเรื่องของการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งอยากให้คุณเอก ออกมาพูดข้อเท็จจริง หากว่าท่านไม่ออกมาพูด ก็ต้องตามตัวท่านและจะตามจนเจอ” นายกองตรีธนกฤต กล่าว
ทนายตั้มเปิดชื่อ‘ธ’กุนซือพอล
วันเดียวกัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “จริงๆ แล้ว กุนซือของบอสพอล หรือบอสคนสุดท้าย เคยพยายามโทร.และนัดพบผมมาหลายครั้ง ในหลายปีแล้ว ทั้งชวนเล่นการเมือง ทั้งชวนทำธุรกิจผ่านนักข่าวคนหนึ่ง แต่ผมไม่เคยสนใจ จนเมื่อวานสายลับได้พูดถึงในรายการถกไม่เถียง ทำให้ผมนึกย้อนมาได้ว่า บอสคนสุดท้าย ผู้เป็นอาจารย์ของ บอสพอล และปรมาจารย์ของธุรกิจขายตรงแบบเครือข่ายคือ บอส ธ ผู้เป็นเจ้าของวลี ขยันถูกที่ปีเดียวรวย”
พาพยานสำคัญให้ข้อมูลดีเอสไอ
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กทม.นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมด้วยนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำพยานสำคัญซึ่งรู้เห็นการจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของดีเอสไอ เข้าพบ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ โดยนายษิทรา กล่าวว่า หลังจากพยานรายนี้ได้ให้ข้อมูลว่ามีการจ่ายสินบนให้กับดีเอสไอ ทาง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้ประสานขอให้เข้าให้ข้อมูล จึงพาพยานสำคัญมาที่ดีเอสไอ
ยันมีหลักฐานเด็ดมัดกุนซือ‘ธ’
นายษิทรา กล่าวถึงนาย ธ ที่ว่าคือบอสคนสุดท้าย หรือกุนซือของบอสพอล ซึ่งเคยติดต่อมาหาเมื่อปี 2561 ชวนให้ไปทำธุรกิจขายตรง และเขาจะลงเล่นการเมือง โดยขอให้ตนสนับสนุน ว่าบุคคลดังกล่าวตนรู้จักดี ส่วนกรณีที่นาย ธ ออมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบอสพอล ตนก็ขอบอกว่าวันที่ 17 ตุลาคมนี้ จะได้รู้ เพราะจะงัดหลักฐานเด็ดมาให้ได้ดูกัน
อ้างเทวดาฝากคนเข้ามาดีเอสไอ
ส่วนนายเอกภพ เปิดเผยว่า ช่วงที่ธุรกิจบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป กำลังพีคมากๆ ช่วงปี 2564-2565 มีเทวดาเข้ามาเกี่ยวข้อง ได้แผลงฤทธิ์ฝากข้าราชการท่านหนึ่ง มาอยู่ที่ดีเอสไอ มีหน้าที่รับผิดชอบหน่วยงานที่กำกับหรือสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับคดีแชร์ลูกโซ่โดยตรง มีผลต่อการตัดสินใจ แต่ข้าราชการรายนี้ไม่ถึงขั้นมานั่งตำแหน่งอธิบดี มีการล็อกสเปค ฝากฝังเลยว่าต้องเป็นคนนี้ คนของเทวดาจะได้คุ้มครองบริษัทฯ ได้ ตนจึงต้องมาขอคำยืนยันจากรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ และ รมว.ยุติธรรม ว่าเทวดาคนนั้นจะไม่แผลงฤทธิ์ เพื่อให้ดีเอสไอ ได้ทำงานให้ประชาชน
เผยไม่รู้เซ่นไหว้เทวดาอย่างไร
นายเอกภพ กล่าวต่อว่า เคยพูดกับทนายตั้ม ว่าที่นี่เจ้าที่เฮี้ยน เราพร้อมให้ข้อมูล แต่ถ้ายังเฮี้ยนอยู่ ก็พร้อมเปิดเผยข้อมูลเจ้าหน้าที่รายนี้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้ว่าเทวดาจะมีการเซ่นไหว้กันอย่างไร แต่ในช่วงเวลานั้นเทวดากำหนดให้ข้าราชการรายนี้มาอยู่ที่นี่ ส่วนคนที่ปรากฏในคลิปเสียงสนทนาเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ย้ำว่าคนนี้ไม่ใช่เทวดา แต่เป็นเพียงลูกกรอกเท่านั้น
ทนายบอสพอลยันเยียวยาเหยื่อ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ก่อตั้งบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป กล่าวภายหลังพาผู้ขายสินค้าของบริษัทฯ เข้ายื่นเรื่องขอความเป็นธรรมนายกรัฐมนตรี กรณีเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย ว่าขอให้คำว่าเยียวยาผู้ที่ขายของไม่ได้ ทางบริษัทฯ จะเยียวยากลุ่มที่เอาเงินก้อนสุดท้ายของตัวเองไปซื้อของมาสต๊อกไว้ แล้วขายไม่ได้ บริษัทฯ จะออกประกาศ แต่มีเงื่อนไขให้กลุ่มนี้มาลงชื่อไว้ก่อน และส่งหลักฐานให้พิจารณาว่าเสียหายจริงหรือไม่ ก็จะช่วยเหลือ
ยันหาวิธีช่วยแม้ปปง.อายัดเงิน
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ ปปง.ได้อายัดเงินบริษัทฯ และบอสพอล กับพวก ไปแล้ว 125 ล้านบาท จะนำเงินจากที่ไหนมาเยียวยาผู้เสียหาย นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ก็ต้องบอกตรงๆ ว่าหลังจาก ปปง.อายัดเงิน ก็มีผลกระทบ แต่คงต้องหาทางว่าจะทำอย่างไร แต่ ปปง.บอกว่าจะอายัดไว้ 90 วัน เราก็มีความหวังว่าจะได้เงินส่วนนี้ เพราะฉะนั้นขอให้ผู้ที่ได้รับความเสียหาย มาลงชื่อไว้ หลังจาก 90 วัน เมื่อได้เงินมา เราก็จะชดเชยให้
บอสพอลพูดไม่ออกถูกอายัดเงิน
เมื่อถามว่า ปปง.ระบุหรือไม่ว่ามีการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินผิดปกติจึงต้องอายัดทรัพย์สินไว้ก่อน นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เท่าที่อ่านในคำสั่งก็ไม่มี คิดว่าคงอายัดไว้ตรวจสอบ เป็นหน้าที่ของ ปปง.จึงไม่ขอก้าวล่วง ต่อข้อถามว่าบอสพอล ว่าอย่างไรหลังจากถูกอายัดทรัพย์สิน นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ก็พูดไม่ออก
สามารถปัดมีเอี่ยว-จ่อฟ้องกลับ
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ กรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้มีมติขับพ้นสมาชิกพรรค ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ว่า “ก็ยื่นไปสิ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด และคงไม่ต้องชี้แจงอะไร เนื่องจากเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผม” และว่าขณะนี้ได้ให้ทนายความดูเรื่องข้อกฎหมาย ก็ว่าไปตามกฎหมาย ส่วนการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่พาดพิง กำลังให้ทนายความดำเนินการอยู่ หากผิดก็ต้องฟ้องร้อง
ตำรวจปคบ.บุกรวบบอสพอล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ก่อตั้งบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ตามที่ สคบ.มีหนังสือเรียกเข้าชี้แจงไปก่อนหน้านี้ ในระหว่างที่บอสพอล เดินทางมาถึง สคบ.พร้อมกับมีบอดี้การ์ด คอยคุ้มกัน ก็ปรากฏว่า ได้มีกำลังตำรวจ บก.ปคบ.นำหมายจับศาล แสดงตัวเข้าจับกุมบอสพอล พร้อมกับแสดงหมายจับให้ดู จากนั้นได้คุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี