อากาศแปรปรวน
'เหนือ-อีสาน'เย็น
ใต้-ต.อ.ฝนตกหนัก
6 จว.เสี่ยงดินถล่ม
โฆษก ศปช.เผยภาพรวมน้ำท่วมคลี่คลายเหลือ 5 จังหวัด เหลือท่วมขังในพื้นที่การเกษตร-ที่ลุ่มต่ำ ด้านกรมชลฯเริ่มทยอยระบายน้ำออกจากทุ่งบางระกำ หลังฝนในพื้นที่ตอนบนลดลงต่อเนื่อง แต่ยังเตือน 6 จว.“ตราด-จันทบุรี-นครฯ-สุราษฎร์ฯ-เชียงใหม่-น่าน”ระวังน้ำป่าดินโคลนถล่มถึง 18 ตค. ขณะที่อุตุฯออกประกาศเตือนมรสุมผ่านไทยช่วง 19-21 ตค.ทำให้ฝนถล่ม ระวังท่วมฉับพลัน
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช.และศปช.ส่วนหน้าแถลงว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากฝนที่ตกหนักช่วงวันที่ 16 สิงหาคม-17 ตุลาคม มีสถานการณ์ในพื้นที่ 46 จังหวัด ซึ่งวันนี้ (17 ตุลาคม) คลี่คลายเกือบทั้งหมดแล้ว คงเหลือพื้นที่น้ำท่วมใน 5 จังหวัดบางส่วนของระดับตำบล หมู่บ้านได้แก่ จ.ลำพูน พิษณุโลก สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร และพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ โดยหน่วยงานต่างๆยังคงติดตามให้ความช่วยเหลือ ทั้งการดำรงชีวิตประจำวันและการเร่งระบายน้ำที่คงค้างอยู่ในชุมชน
“ที่ประชุม ศปช.ขอบคุณทุกหน่วยงาน ที่บริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยาในปีนี้ทำได้ดี โดยเฉพาะการหน่วงมวลน้ำไว้ในทุ่งบางระกำ ซึ่งกรมชลประทานได้ทำแผนและข้อตกลงในการหน่วงน้ำไว้ 400 ล้าน ลบ.ม. โดยเตรียมพื้นที่สำหรับรองรับน้ำ 265,000 ไร่ ซึ่งหลังจากฝนในพื้นที่ตอนบนลดลง ทำให้กรมชลประทานเริ่มทยอยระบายน้ำออกจากทุ่งบางระกำแล้ว เหลือพื้นที่รับน้ำอยู่ที่ 163,073 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 61 ของพื้นที่ คาดว่าจะระบายน้ำต่อเนื่องให้คงเหลือที่ระดับ 100 ล้านลบ.ม. เพื่อให้เกษตรกรสำรองไว้ใช้เตรียมแปลงเพาะปลูกต่อไป” นายจิรายุกล่าว
และว่า ศปช.ยังต้องขอขอบคุณเกษตรกรในลุ่มบางระกำ ทั้งชาวสุโขทัยและพิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำสำคัญ ทำให้ปีนี้ภาพรวมสามารถบริหารจัดการน้ำไม่ให้กระทบพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญในลุ่มเจ้าพระยา ซึ่งกรมชลประทานได้เข้าไปดูแลพื้นที่เหล่านี้ใกล้ชิด ทั้งการส่งเสริมอาชีพให้คนในพื้นที่ยังมีรายได้ มีอาชีพช่วงน้ำท่วม และการบริหารจัดการน้ำให้เกษตรกรได้ทำกินหลังน้ำลด
โฆษก ศปช.กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ศปช.ยังได้ติดตามเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มจากฝนที่ตกช่วงวันที่ 17-18 ตุลาคม โดยกรมทรัพยากรธรณีได้ออกประกาศแจ้งเตือนพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ตราด (เขาสมิง บ่อไร่ เกาะช้าง) จ.จันทบุรี (ขลุง เขาคิชฌกูฎ มะขาม) จ.นครศรีธรรมราช (สิชล ลานสกา พิปูน นบพิตำ) จ.สุราษฎร์ธานี (กาญจนดิษฐ์ เคียนซา) จ.เชียงใหม่ (จอมทอง แม่แจ่ม) จ.น่าน (บ่อเกลือ) ซึ่งได้มีการออกประกาศแจ้งเตือนและทำความเข้าใจกับเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ พร้อมเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทันทีเมื่อเกิดสถานการณ์
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศทั่วไทยว่า ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคใต้ตอนบนและภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยายังออกประกาศ เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 1 (224/2567) มีผลกระทบวันที่ 19-21 ตุลาคมว่า ช่วงวันที่ 19-21 ตุลาคม ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลางทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ มีลมกระโชกแรง
ส่วนภาคใต้ยังมีฝนตกต่อเนื่อง มีฝนตกหนักบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
กรมอุตุนิยมวิทยายังพยากรณ์อากาศทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 บริเวณจ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ภาคกลางมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 มีฝนตกหนักบริเวณจ.ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา ภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 มีฝนตกหนักบริเวณจ.นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 มีฝนตกหนักบริเวณจ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล เช่นเดียวกับ กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี