ปศุสัตว์บุกนครปฐม
ทลายแหล่งยาเถื่อน
ผลิตสารเร่งเนื้อแดง
ของกลางค่าร้อยล้าน
ปศุสัตว์จับมือบก.ปคบ.ทลายสถานที่ผลิต “ยาสัตว์เถื่อน-สารเร่งเนื้อแดง” 3 จุดในอ.กำแพงแสน – บางเลน ยึดของกลาง 240 รายการ มูลค่ากว่า 100 ล้าน
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) นายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ และพันตำรวจโทอุดมศักดิ์ สุวรรณแสง รองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) แถลงปฎิบัติการบุกทลายสถานที่ผลิตสารเร่งเนื้อแดง และยาสัตว์เถื่อนรายใหญ่ ในจ.นครปฐม พร้อมตรวจยึดของกลางทั้ง ยาสัตว์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและอาหารสัตว์ที่ต้องสงสัยมีการผสมสารเร่งเนื้อแดงจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
นายเอกภาพกล่าวว่า ปฎิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม กรมปศุสัตว์รับแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านเว็บไซต์กรมปศุสัตว์ กรณีพบสถานที่ผลิตและจัดจำหน่ายยาสัตว์เถื่อน และสารเร่งเนื้อแดงรายใหญ่ในจ.นครปฐม ซึ่งต้องสงสัยทำผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ.2558 และพ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 โดยเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ ประกอบด้วย ปศุสัตว์เขต 7 ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่กองสารวัตรและกักกัน และเจ้าหน้าที่กองควบคุม อาหารและยาสัตว์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองกำกับการ 2 บก.ปคบ.ร่วมวางแผน สืบสวนข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีสถานประกอบการทั้งสามแห่ง มีเหตุอันน่าเชื่อได้ว่ากระทำความผิดจริง จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดนครปฐมเข้าค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอ.กำแพงแสน 2 แห่ง และอ.บางเลน 1 แห่ง จากการตรวจสอบพบสถานประกอบการทั้งสามแห่ง มีเจ้าของคนเดียวกัน
นายเอกภาพกล่าวต่อว่า ลักษณะสถานที่ผลิตยาและอาหารสัตว์เหล่านั้น เป็นรูปแบบโกดังขนาดใหญ่ ซึ่งในสถานที่ดังกล่าวพบผลิตภัณฑ์ยาสัตว์ไม่มีเลขทะเบียน อาหารสัตว์ผสมสารเร่งเนื้อแดง เครื่องมือเครื่องจักรสำหรับการผลิต จากการตรวจสอบใบอนุญาตจำหน่ายอาหารสัตว์และยาสัตว์ พบว่าสถานประกอบการ ดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายอาหารสัตว์และยาสัตว์ ซึ่งการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายการทำความผิด ดังนี้ พระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ.2558 1. มาตรา 15 ผู้ใดประสงค์จะผลิตเพื่อขาย หรือนำเข้าเพื่อขายอาหารสัตว์ควบคุมเฉพาะ ตามมาตรา 6 (1) ให้ยื่นคำขออนุญาต และเมื่อผู้อนุญาตออกใบอนุญาตให้แล้ว จึงจะผลิตเพื่อขาย หรือนำเข้าเพื่อขายอาหารสัตว์ ควบคุมเฉพาะนั้นได้ โทษตามมาตรา 74 จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.มาตรา56 (4) ห้ามผู้ใดผลิตเพื่อขาย นำเข้าเพื่อขาย หรือขายอาหารสัตว์ที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่ มิได้ขึ้นทะเบียนไว้ โทษตาม มาตรา 86 วรรคแรก จำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 1. มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย หรือน้าหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต โทษตาม มาตรา 101 จำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท 3.มาตรา72 (4) ห้ามมิให้ผู้ใด ผลิต ขาย หรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาที่มิได้ขึ้น ทะเบียนตำรับยา โทษตาม มาตรา 122 จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้านพันตำรวจโท อุดมศักดิ์เผยว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางยาสัตว์และอาหารสัตว์ไม่มีทะเบียน รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ดังนี้ 1.ยาสัตว์ไม่มีทะเบียน 224 รายการ ซึ่งเป็นยาที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อาจไม่มีสารสำคัญ หรือปริมาณสารตามที่กำหนด ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษา และอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง 2. อาหารสัตว์ผสมสารเร่งเนื้อแดง 7 รายการ ซึ่งสารเร่งเนื้อแดงที่ผสมในอาหารสัตว์ เพื่อเร่งการเจริญเติบโต ลดปริมาณไขมันในเนื้อสัตว์ ตลอดจนเพิ่มปริมาณกล้ามเนื้อ และทำให้เนื้อสัตว์สีแดงน่าบริโภค ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค เช่น กระตุ้นการเต้นกล้ามเนื้อหัวใจ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ โรคลมชัก โรคความดันโลหิตสูง ตลอดจนหญิงมีครรภ์ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับอันตรายจากสารเร่งเนื้อแดงที่ตกค้างในเนื้อสัตว์
ทั้งนี้ สารเร่งเนื้อแดงดังกล่าว ถือเป็นสารเคมีที่ผิดกฎหมายในราชอาณาจักรไทย เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบที่มาการนำเข้า ผู้ค้า รวมถึงเส้นทางนำเข้ามาในประเทศไทย และต้องเร่งปราบให้มากที่สุด 3. เครื่องมือผลิต 9 รายการ ซึ่งเป็นเครื่องมือผลิตยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมของกลาง 240 รายการ มูลค่าของกลางประมาณ 100,434,840 บาท
พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางทั้งหมด และจับกุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 บก.ปคบ. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี