ลูกสาวเจ้าของอู่ซ่อมรถบุกร้อง"ยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์" ไม่เชื่อพ่อผูกคอตายเพราะพิษเศรษฐกิจ ชี้ปมพิรุธหลายอย่างทั้งลักษณะการตายคล้ายคุกเข่าก้มกราบต่างจากคนผูกคอตายทั่วไป รอยแผลคลายโดนของแข็งที่หน้าผาก ตั้งสวดคืนเดียวเร่งรีบเผา และการจ่ายเบี้ยประกันที่ผิดปกติ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ตาย
(18 ต.ค.67) น.ส.ศยามล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ลูกสาวคนโตของนายพยุง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่งในอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้นำใบมรณบัตรของพ่อ พร้อมรายงานการชันสูตรพลิกศพ เอกสารที่เกี่ยวข้อง และรูปถ่ายสภาพศพของพ่อ เข้าร้องเรียนสำนักงานยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เพราะติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของนายพยุง ผู้เป็นพ่อ หลังจากแม่เลี้ยง หรือ ภรรยาคนปัจจุบันที่อาศัยอยู่กับพ่อ ได้เป็นผู้ไปพบศพ และแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าพ่อผูกคอเสียชีวิตกับคานเหล็กภายในอู่ซ่อมรถ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งแม่เลี้ยงให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า พ่อน่าจะคิดสั้น เนื่องจากผลพวงทางเศรษฐกิจไม่ค่อยมีลูกค้านำรถมาซ่อมในอู่ ทำให้ค้างค่างวดรถหลายงวด จนถูกไฟแนนซ์ติดตามทวงถาม ทำให้เกิดความเครียดจนคิดสั้นผูกคอตาย
ทั้งนี้ แต่ น.ส.ศยามล ลูกสาวที่มาร้องเรียนเชื่อว่าพ่อไม่ได้ผูกคอเสียชีวิตเอง น่าจะถูกฆาตกรรมอำพรางมากกว่า เพราะพบพิรุธหลายอย่าง อาทิ ถ้าผูกคอตายทำไมศพถึงอยู่ในท่าคุกเข่า หรือท่าหมอบกราบเหมือนร้องขอชีวิต ทำไม่ถูกแขวนหรืออยู่ในท่าอื่น ทั้งยังมีบาดแผลคล้ายถูกของแข็งที่หน้าผากจนเลือดไหลอาบ ตั้งสวดคืนเดียวแล้วเร่งรีบเผาศพคือตายวันที่ 8 ต.ค.ตั้งสวดศพคืนวันที่ 9 ต.ค.คืนเดียว แล้ววันที่ 10 ต.ค. ก็เผาเลย โดยอ้างว่าไม่มีเงินจัดงานศพ ทั้งที่ลูกๆ มีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้พ่อ และลูกเกือบจะมางานศพพ่อไม่ทันด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นกล้องวงจรปิดแม่เลี้ยงบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าก่อนเกิดเหตุดูกล้องผ่านมือถือแต่ไม่เห็นพ่อเดินออกมาจากอู่ แต่พอตนไปขอดูแม่เลี้ยงกลับบอกว่าวันเกิดเหตุไฟดับกล้องดูไม่ได้ ซึ่งมันดูขัดแย้งกัน และยังสงสัยเรื่องการจ่ายเบี้ยประกันชีวิตของพ่อที่ทำไว้กับบริษัทประกันบริษัทหนึ่ง ซึ่งตามกำหนดจะต้องจ่ายทุกวันที่ 18 ของเดือนและจากข้อมูลย้อนหลังพบว่ามีการจ่ายใกล้วันหรือหลังวันครบกำหนด แต่เดือน ต.ค.มีการจ่ายเบี้ยวันที่ 1 ต.ค. แล้ววันที่ 8 ต.ค. พ่อก็เสียชีวิต จึงตั้งข้อสังเกตว่าต้องการจ่ายให้ครบตามเงื่อนไขของบริษัทหรือไม่เพราะบริษัทประกันชีวิตที่พ่อทำ หากจ่ายเบี้ยครบ 1 ปี หากกรณีฆ่าตัวตายก็ยังจะได้เงินประกันชีวิตเหมือนกับการเสียชีวิตทั่วไป
น.ส.ศยามล ยังระบุอีกว่า จากข้อพิรุธหลายอย่างทำให้สงสัยว่าพ่อไม่ได้ผูกคอเสียชีวิต น่าจะถูกฆาตกรรมอำพราง จึงอยากให้ทางยุติธรรมจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจพิสูจน์สาเหตุการตายของพ่ออย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับคนตายด้วย
จากนั้นทีมข่าวพยามติดต่อเพื่อจะสอบถามทางภรรยาคนปัจจุบันของนายพยุง เจ้าของอู่ที่เสียชีวิต กรณีที่ลูกสาวติดใจสาเหตุการตายของพ่อ แต่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลบอกว่าไม่สะดวก ซึ่งทีมข่าวก็ได้เดินทางไปที่บ้านอีกครั้งแต่ไม่เจอตัว พบเพียงญาติแต่ไม่ให้ข้อมูลและไม่อนุญาตให้บันทึกภาพใดๆ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัด ก็ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้และจะเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีการร้องเรียนตามขั้นตอนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี