“ชาดา” ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้าน อ.บ้านไร่ หลังเจอน้ำป่าถล่มหนักกลางดึกคืนวันเสาร์ เผยน้ำป่าท่วมหนักครั้งแรกในรอบ 50 ปีเร่งช่วยเยียวยาประชาชน ด้านผู้ว่าฯออกประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว ชาวบ้านโอดหนีไม่ทันน้ำมาเร็ว กรมอุตุฯเตือนฝนตกหนักมาก ลมกระโชกแรง ระวังท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากถึง 21 ตุลาคม
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุน้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่เทศบาลตำบลบ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังเกิดฝนตกติดต่อกันหลายชั่วโมงว่า จากการสำรวจสะพานบ้านนาทุ่งเชือก
ต.ห้วยแห้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานีสะพานหลักที่ใช้สัญจรระหว่างหมู่บ้านในตำบลรวม 9 หมู่บ้าน ถูกมวลน้ำป่าซัดขาดทำให้ชาวบ้านหลายหมู่บ้านเข้าออกหมู่บ้านไม่ได้
น้ำป่าถล่มบ้านไร่เสียหายหนัก
นายญวน ปานาง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)ห้วยแห้ง พร้อมนายสุภาพ ธรรมลิยา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ห้วยแห้ง เข้าตรวจสอบความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านพบว่า นอกจากสะพานข้ามหมู่บ้านที่ขาดแล้วนั้น ยังมีบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ติดริมฝั่งลำห้วยกระเสียว เสี่ยงพังถล่มลงมา เนื่องจากน้ำที่กัดเซาะตลิ่งไปจนเกือบถึงตัวบ้านแล้ว ตลอดจนพื้นที่การเกษตรและการประมงได้รับความเสียหายเช่นกัน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่บอกตรงกันว่า น้ำป่าที่พัดท่วมหมู่บ้านครั้งนี้ ถือเป็นน้ำป่าครั้งแรกที่สร้างความเสียหายได้หนักขนาดนี้
นายญวนเผยว่า ได้รับแจ้งจากพื้นที่ประมาณ 16.00 น. เกิดฝนตกหนักในพื้นที่นานประมาณ 2-3 ชั่วโมง ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาห้วยขาแข้ง ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนในหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะหมู่ 4, 7, 8 และ 9 ซึ่งขณะนี้สะพานบ้านนาทุ่งเชือกของพื้นที่หมู่ 4 ได้รับความเสียหายจากเศษไม้และขยะที่ไหลมาติดที่คอสะพาน ทำให้สะพานขาด ชาวบ้านสัญจรไปมาไม่ได้ ต้องอ้อมเป็นระยะทางไกลกว่า 10 กิโลเมตร ตนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ นำเครื่องจักรมาเคลียร์ขยะออกจากสะพาน
ชาวบ้านโอดครั้งแรกที่น้ำป่าท่วมขนาดนี้
นายสุภาพกล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าสะพานหลักยังใช้ไม่ได้ ต้องทำสะพานไม้ชั่วคราวเพื่อสัญจรไปมาก่อน เพราะถ้าฝนตกหนักขึ้นมาอีกจะหนัก นอกจากนี้ ยังมีบ่อปลาที่ติดกับห้วยเสียหายหมด เพราะน้ำมาแบบไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้เดือดร้อน พืชเกษตรอย่างมันสำปะหลังเน่าเสีย 100% ถือว่าหนัก เพราะเป็นครั้งแรกที่บ้านไร่มีน้ำป่าท่วมขนาดนี้ ฝนที่ตกในคืนเดียว แค่ 3-4 ชั่วโมง วัดได้ประมาณ 130 มิลลิเมตร ลำห้วยเลยรับน้ำไม่ไหว และเราไม่มีสัญญาณเตือนภัย จะมีแค่การประสานงานจากกลุ่มไลน์อำเภอ คนที่อยู่ต้นน้ำก็ช่วยกันเฝ้าระวังเตือนภัย แต่สุดท้ายก็เอาไม่ทัน เพราะน้ำมาไวมาก
หนักสุดในรอบ50ปี-เร่งสำรวจเยียวยา
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี เปิดเผยหลังลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านในอ.บ้านไร่ หลังเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อย่างหนักว่า น้ำป่าที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยออกมาได้ โดยไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต มีเพียงถูกไฟฟ้าชอร์ตเล็กน้อย เช้าวันนี้ทหารนำกำลังเร่งช่วยล้างทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพราะต้องล้างโคลนออกจากท่อระบายน้ำด้วย ป้องกันไม่ให้น้ำแห้งแล้วเกิดปัญหาเหมือนที่แม่สาย ส่วนความเสียหายนั้นตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากช่วงเกิดเหตุไม่มีเวลาตั้งตัว พื้นที่เทศบาลและชาวบ้านต่างไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจึงไม่มีโอกาสตั้งตัวรับมือ
“ชาวบ้านในพื้นที่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นครั้งแรกในรอบ 50 กว่าปี ที่เกิดน้ำป่าหลากท่วมหนักและรุนแรงขนาดนี้ เพราะน้ำป่ามาซ้ำขณะที่ฝนยังตกหนัก มีบางพื้นที่ที่เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทหารแจ้งเตือนชาวบ้านให้รีบอพยพทัน ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายน้อย พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่รับน้ำที่จะไหลลงสู่เขื่อนที่ด่านช้าง มีหน่วยกู้ภัยและทหารพัฒนามาช่วยในการอพยพ หลังจากนี้จะเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อแจ้งขอรับเงินเยียวยาจากผู้ว่าราชการจังหวัดตามระบบการเกิดภัย” นายชาดากล่าว
ผู้ว่าฯประกาศเขตภัยพิบัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้ประกาศเขตภัยพิบัติกรณีน้ำป่าไหลหลากเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ในพื้นที่อำเภอบ้านไร่ทั้งหมด เนื่องจากได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง และประสานให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีรถน้ำนำเข้าพื้นที่อำเภอบ้านไร่ เพื่อทำความสะอาดฟื้นฟูในจุดที่เสียหาย และมอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจพื้นที่และบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบราชการแล้ว
มท.3ลุยช่วยนทท.ติดน้ำป่า
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเหตุฝนตกหนักทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ทำให้มีน้ำไหลเข้าท่วมชุมชนถนนสายหลัก มีนักท่องเที่ยวติดอยู่ในรีสอร์ท 10 คน และขอความช่วยเหลือเพื่ออพยพออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทยลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอดจนนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด ซึ่งการช่วยเหลือได้รับการสนับสนุนกำลังคน และเครื่องมือจากเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร มูลนิธิในพื้นที่ และตลอดคืนระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง จนถึงช่วงเช้าในต.บ้านไร่ น้ำได้ลดลงหมดแล้ว เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทำความสะอาดถนนสายหลักเพื่อเปิดเส้นทางสัญจรให้ประชาชน
น.ส.ไตรศุลีกล่าวต่อว่า จ.อุทัยธานี ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยแต่ละอำเภอ ให้ยกสิ่งของขึ้นที่สูง ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย เตรียมกำลังคน เครื่องมือ เครื่องจักรสาธารณภัยให้พร้อมเข้าช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
เกาะพีพี-ปอดะปักธงแดงเตือนนทท.
ด้านเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เปลี่ยนธงแจ้งเตือนจากสีเหลือง เป็นสีแดง บริเวณหน้าเกาะปอดะ ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ เป็นสัญลักษณ์แจ้งเตือน นักท่องเที่ยว ห้ามลงเล่นน้ำทะเล และเรือนำเที่ยวห้ามเข้าพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย หลังจากทะเลมีคลื่นลมแรง นอกจากนี้ได้ ปักธงแดง ตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลต่างๆ เช่น ทะเลแหวก เกาะไม้ไผ่ อ่าวมาหยา
นายยุทธพงศ์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ออกประกาศแจ้งเตือนให้ระวังการประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวหรือดำเนินกิจกรรมใดๆ ช่วงมีมรสุมคลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ 19-21 ตุลาคมโดยคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นคลื่นสูง 1-2 เมตร เพื่อความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากการเดินเรือในช่วงมรสุมฝนตกหนักและคลื่นลมแรง จึงขอประกาศเตือน ให้ใช้ความระมัดระวัง ในการประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวหรือดำเนินกิจกรรมใด ๆ ในบริเวณแหล่งท่องเที่ยว ทางทะเลทุกแห่งในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และให้ผู้ควบคุมเรือทุกลำตรวจสอบความพร้อมต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา สวมเสื้อชูชีพตลอดเวลาขณะอยู่ในเรือและประกอบกิจกรรมเล่นน้ำ และขอให้ติดตามรายงานข่าวสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา
อุตุฯเตือนฝนหนักระวังท่วมถึง21ตค.
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 7 มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20-21 ตุลาคมว่า ช่วงวันที่ 20-21 ตุลาคม ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบนทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และฝนตกหนักมากกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นระยะแรก ขอให้ประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
จังหวัดที่ที่ได้ผลกระทบ ภาคเหนือ จ.ตาก กำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทะเลอันดามัน อ่าวไทย มีคลื่นสูง ชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี