ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่ บ้านเลขที่ 134 หมู่ 2 ต.บ้านกุ่ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี มีกลุ่มช่างอิเล็กทรอนิกส์ชาวเมืองเพชรบุรี รวมตัวกันประดิษฐ์เครื่องกำจัดขยะพลาสติกแบบไร้ควัน เพื่อกลั่นเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล ซึ่งมีศักยภาพใช้แทนน้ำมันเชิงพาณิชย์ได้ เพื่อคาดหวังให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปใช้ประโยชน์ในการลดปริมาณขยะภายในชุมชน ที่บ้านหลังดังกล่าวพบ นายนพดล รอดภัย อายุ 59 ปี และกลุ่มช่างอิเล็กทรอนิกส์ รวม 4 คน โดย นายนพดล เปิดเผยว่าปัจจุบันขยะมูลฝอยเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก โดยเฉพาะขยะจากพลาสติกหรือขยะแก้วพลาสติก ซึ่งในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีมีสถิติย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2562-2564 พบมีปริมาณขยะมากถึง 177,588.16 ตัน/ปี และยังไม่สามารถกำจัดขยะเหล่านี้ได้ นับวันปริมาณขยะเหล่านี้กำลังจะเพิ่มมากขึ้น เพื่อหวังที่จะช่วยลดปริมาณขยะในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ตนพร้อมด้วยเพื่อนกลุ่มช่างอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วยนายประเสริฐ ธรรมาพิศิษฐ์, นายสมจิตรพงพุธ และนายชัชวาลย์ ไวทย์บำรุงจึงได้ศึกษาแนวทางพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมทั้งก่อนหน้านี้ ตนและกลุ่มช่างเคยเป็นจิตอาสาไปซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้แก่ประชาชนในหลายจังหวัด จนทราบว่า “ลุงเล็ก” ชาว อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ได้ประดิษฐ์เครื่องกำจัดขยะพลาสติกกลั่นเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงใช้เองจึงเดินทางไปศึกษาดูงานและกลับมาต่อยอดพัฒนาร่วมกันประดิษฐ์เครื่องกำจัดขยะพลาสติกใช้เองในพื้นที่ จ.เพชรบุรี
“ตนคาดหวังอยากให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จ.เพชรบุรี นำเครื่องกำจัดขยะพลาสติกไปใช้ประโยชน์เพื่อลดปริมาณขยะในภายในชุมชนต่างๆ โดยตนและกลุ่มช่างยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้หรือรับจ้างผลิตเครื่องกำจัดขยะให้ในราคายุติธรรม สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ช่างสมจิตร โทร.098-2635048 หรือที่ช่างน้อย โทร.083-6452256” นายนพดล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี