เปิดใจเหยื่อดิไอคอนอุดรฯ"ป้าพิการ"วัย 61 ปีเดินขึ้นโรงพัก สูญเงินไปกว่าสามแสนบาท เผยหลงเชื่อบรรดา"บอส"ผ่านทางเฟซบุ๊กจนหลงเชื่อแผนการลงทุนตัดสินใจเอาที่นาไปจำอง "ธกส."จำนวน 250,000 บาท งาดฝันจะได้สบายมีเงินปันผลใช้ยามแก่เฒ่า สุดท้ายไม่ได้สักบาท ทำมา 3 ปี ขายของไม่ได้ ฝากถึง"บอส"อยากได้เงินคืนเพราะเป็นเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตแล้ว
วันนี้ (21 ต.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้เรียกพนักงานสอบสวนเข้าประชุมหารือเพื่อวางแนวทางสอบปากคำผู้เสียหายคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยใช้เวลาประชุมราว 1 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ ก่อนเรียกผู้เสียเข้าสอบปากคำ เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยขณะนี้พบว่าผู้เสียหายจากบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปในพื้นที่จ.อุดรธานีจำนวน 62 รายมูลค่าความเสียหาย 22 ล้านบาทเศษ คาดว่าจะมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีก มีหลากหลายอาชีพทั้งข้าราชการ เจ้าของร้านทอง แม้แต่คนพิการก็ยังโดน
โดยผู้เสียหายทยอยเดินทางให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน หนึ่งในนั้นคือนางอำไพ อายุ 61 ปี ชาวต.นากว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งป่วยพิการเป็นโปลิโอต้องใช้ไม้เท้าเดินขึ้นโรงพักเพื่อมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ฯ ต้องอำนวยความสะดวกให้พาไปนั่งเก้าอี้ โดยนางอำไพได้เดินทางมาพร้อมน้องสาวคือนางปราณีที่ร่วมลงทุนกับบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป จำกัดด้วยกัน โดยเอาที่นาเกือบ 10 ไร่ไปจำนำกับ ธกส.หวังกินเงินปันผลยามแก่เฒ่า สุดท้ายขายสินค้าไม่ได้ เงินปันผลก็ไม่ได้ สูญเงินเป็นค่าเปิดดีลเลอร์ 250,000 บาทและค่ายิงแอดโฆษณาอีกเกือบแสนบาท รวมสูญเงินไป 300,000 บาทเศษ
นางอำไพ บอกว่า ตนเองป่วยเป็นโปลิโอตั้งแต่เด็ก อยู่กับน้องสาวสองคนมีอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า ประมาณปี 64 จึงพากันปรึกษาน้องสาวว่า อยากหารายได้เพิ่มดีกว่าเพราะลำพังตัดเย็บเสื้อผ้ากว่าจะได้เงิน พอดีรู้สึกกับ"บอสปัน"ทางเฟสบุ๊ค เห็นมีอบรม 79 หรือ 89 บาทนี่หละเพื่อสร้างรายได้ออนไลน์ จึงปรึกษาน้องสาวลองสมัครไป เพราะราคาไม่แพง แต่ปรากฏว่าไปๆ มาๆ เขาชวนลงทุนบอกว่าจะได้ผลตอบแทนเป็นล้าน ดูคำพูดเขาพูดหว่านล้อมดีมากจนหลงเชื่อ ลงทุนไปแล้วจะมีเงินปันผลกินไปตลอดชีพต่อถึงลูกหลาน
"จึงปรึกษาน้องสาวเลยตัดสินใจเอาที่ดิน 10 ไร่ไปจำนองไว้กับ ธกส.เปิดดีลเลอร์ 250,000 บาท ได้สินค้ามาช่วยกันขายกับน้องสาวแต่จนถึงตอนนี้ก็ขายยังไม่หมด จากนั้นบอสก็ชักชวนให้ยิงแอ้ดอีกหมดไปเป็นแสน รวมสูญเงินไป 300,000 บาทเศษ เราดูไปดูมาแล้วมันไม่ใช่แล้ว แต่บอสปันบอกตลอดให้ไปหาคนมาสมัครเพิ่มต่อจากเรา อย่ายอมแพ้นะ ย้ำตลอดว่ามีเงินเก็บอย่าเก็บไว้ทุ่มลงไปอีกให้เงินทำงานดีกว่าเก็บไว้ ชักสงสัยเหมือนกันดูแล้วเขาชวนให้เราขายคนมากกว่าขายสินค้า จึงพากันถอยออกมาไม่ทำอีกแล้ว"นางอไไพ กล่าว
พร้อมระบุว่า วันนี้มาให้ปากคำกับตำรวจ ใจจริงๆ ตอนนี้ป้าก็อยากเงินคืนเพราะเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เอาที่ไปจำนองกับธนาคารฯ เงินปันผลก็ไม่ได้แถมต้องใช้หนี้ ธกส.แต่ยังดีที่ตอนนี้ธกส.ให้พักหนี้ อยากจะวิงวอนบอสๆ ขอเงินคืนให้ป้าด้วย คิดว่าสงสารคนพิการ จะได้เอาไปจ่ายธกส." ป้าอำไพร กล่าวตอนท้ายด้วยความหวัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี