ชาวบ้านโพนพิสัย หนองคาย สุดงง ผู้บุกรุกบ้านหวังขืนใจยายวัย 67 คืนวันออกพรรษา ถูกชาวบ้านล้อมจับนำส่งตำรวจแล้วแต่ไม่นานก็ได้รับประกันตัวออกมา หวั่นก่อเหตุซ้ำ ตำรวจโร่เยี่ยมบ้านผู้เสียหายพร้อมชี้แจงขั้นตอนกฎหมาย ยืนยันดูแลเต็มที่ พร้อมสั่งผู้ใหญ่บ้านช่วยจับตา ด้านหนุ่มผู้ก่อเหตุอ้างเมาขาดสติรับปากไม่ก่อเหตุซ้ำอีกแน่นอน
จากกรณีเพจดังนำเสนอการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ว่ามีผู้บุกรุกจะขืนใจยายคนหนึ่ง ชาวบ้านจับผู้ก่อเหตุได้ในที่เกิดเหตุนำตัวส่งตำรวจเหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ต่อมาวันที่ 20 ต.ค.67 ผู้ก่อเหตุได้รับประกันตัวออกมาโดยชาวบ้านเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยและสงสัยต่อกระบวนการยุติธรรมตามที่นำไปแล้วนั้น
วันนี้ (22 ต.ค.67) พ.ต.ท.สุรศักดิ์ ด่านแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.โพนพิสัย พร้อมด้วยนายพิทักษ์ ศรีทอง ปลัดอำเภอโพนพิสัย, สาธารณสุขอำเภอโพนพิสัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ที่บ้านแป้น หมู่ 2 ต.นาหนัง อ.โพนพิสัย พบกับยายลำพอง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปีเพื่อสอบถามเหตุการณ์ ซึ่งชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงต่างวิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยากให้ดำเนินคดีอย่างเข้มงวด เพราะเกรงจะเกิดเหตุการณ์กับใครขึ้นอีก
ยายลำพอง เล่าทั้งน้ำตาว่า สภาพจิตใจย่ำแย่มาก ผวาอยู่ตลอดเวลา คิดว่าผู้ก่อเหตุจะมาอีก ไม่มั่นใจในความปลอดภัย ไม่รู้จะทำอย่างไร บอกกับลูกหลานว่าตนไม่ไหวแล้ว กลัวมาก อยากให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ไม่อยากให้อยู่ในหมู่บ้าน ตนไม่กล้าออกจากบ้าน ปกติตนจะอยู่บ้านสวนจะสลับกันนอนที่บ้านในหมู่บ้าน อยากให้ตำรวจใส่ใจให้มากกว่านี้ ผ่านไป 5 วัน จึงมาสอบถามข่าวของคน อยากให้เอาใจใส่ประชาชนให้มากกว่านี้ น้อยใจมาก ยายอยู่ลำพัง อยู่อย่างหวาดผวา ตอนนี้รู้สึกดีขึ้น สบายใจขึ้นแล้ว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.วันที่ 17 ต.ค.67 เป็นวันออกพรรษา ยายลำพอง ไปนอนที่บ้านสวนทุ่งนาเพียงลำพัง จากนั้นได้มีคนร้ายบุกรุกเข้าไปบ้านพยายามจะขืนใจ ยายรู้สึกตัวพยายามต่อสู้ขัดขืนและออกอุบายหลอกว่ายายไม่สบายเป็นโรคหัวใจ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 40 นาที ผู้ก่อเหตุบอกให้ยายไปหายามากิน ยายจึงรีบคว้าโทรศัพท์วิ่งเข้าห้องน้ำโทรหาลูกเขย และผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วย ไม่นานก็ได้ยินเสียงชาวบ้านหลายคนร้องตะโกนเรียกอยู่ภายนอกบ้าน ทำให้ผู้ก่อเหตุกระโดดลงจากบ้านสวนหลบหนีไป แต่ผู้ใหญ่บ้านและลูกบ้านก็ช่วยกันจับกุมได้ขณะนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวหลบอยู่หลังต้นไม้ข้างบ่อปลา
หลังจากนั้นได้ไปที่บ้านของนายสมหมาย ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของยายลำพอง เพียง 4 หลัง โดยมีบ้านผู้ใหญ่บ้านคั่นกลางและบ้านผู้ใหญ่บ้านก็อยู่ติดกับบ้านนายสมหมายด้วย โดยพบนายสมหมาย ผู้ก่อเหตุ อยู่ที่บ้าน โดยผู้ก่อเหตุ บอกว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเมาเหล้าขาดสติ ไม่รู้ว่าไปที่บ้านสวนของยายได้อย่างไร วันเกิดเหตุได้ดื่มเหล้าไป 2 ขวด เมาแล้วไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีก็ถูกจับไปแล้ว ผิดยอมรับผิด ขอโทษกับสิ่งที่เกิดเหตุ รับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
นายวิทยา อายุ 41 ปี ลูกชายยาย บอกว่า ไม่อยากให้คนนี้ออกมาอยู่ข้างนอก แม้ว่าจะอยู่หมู่บ้านเดียวกันและจะอยู่ในการดูแลของคนในหมู่บ้านห็ตาม เขาอาจจะก่อเหตุได้อีก ตนทำธุรกิจอยู่ต่างจังหวัด แม่ไม่ได้ไปด้วยเพราะอยากอยู่บ้าน ตนก็ไปๆ มาๆ บ่อยๆ ไม่สะดวก อยากให้เพิกถอนประกัน เร่งพิจารณาคดีให้เร็วที่สุด หากวันดีคืนดีอาศัยจังหวะคนเผลอ อาจจะก่อเหตุอีก ไม่เฉพาะกับแม่ตน แต่อาจจะเกิดกับคนอื่นได้ด้วย
ด้านนายผัน นุราช ผู้ใหญ่บ้านแป้น หมู่ 2 กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ตนได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากลูกบ้านว่ามีผู้บุกรุกบ้านสวนของแม่ยายลำพอง ตนรีบออกมาดูเหตุการณ์พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้าน หลังจากนั้นได้แจ้งตำรวจพากันค้นหาติดตามผู้ก่อเหตุจึงพบผู้ก่อเหตุ จึงพากันควบคุมตัวไว้ ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน สอบถามผู้เสียหายทราบว่าผู้ก่อเหตุจะก่อเหตุขืนใจแต่ยังไม่สำเร็จ ผู้เสียหายต่อสู้สุดความสามารถ
ทางด้าน พ.ต.ท.สุรศักดิ์ ด่านแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.โพนพิสัย กล่าวว่า วันนี้มาชี้แจงขั้นตอนทางกฎหมายให้ญาติและชาวบ้านเข้าใจ คลายข้อสงสัยว่าเหตุใดผู้ก่อเหตุจึงได้รับการประกันตัว ซึ่งการให้ประกันตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราวเป็นอำนาจของศาล หากผู้ต้องหาละเมิดคำสั่งศาลก็เป็นเหตุให้ตำรวจดำเนินการขอเพิกถอนและคำร้องฝากขังปล่อยตัวของศาลในลำดับต่อไป ในส่วนของตำรวจจะเร่งรัดสำนวนให้แล้วเสร็จ นำเรียนผู้บังคับบัญชา ข้อมูลข้อเท็จจริงต่าง ๆ เก็บรวบรวมพอแล้ว จะมีเพิ่มเติมเล็กน้อย อยากให้ชาวบ้านเข้าใจ ฝากผู้ใหญ่บ้านว่าหากผิดเงื่อนไขประกันเพื่อขอเพิกถอนประกันจากศาลนำตัวไปฝากขัง ซึ่งผู้ก่อเหตุถูกแจ้งข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีและโดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องรายงานตัวทุก 15 วันอยู่ในการดูแลของผู้ใหญ่บ้าน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี