“กรุงไทย” พร้อมเป็นพันธมิตร “ธนาคารที่ดิน” ด้านส่งเสริมการออมให้สมาชิกวิสาหกิจชุมชน พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าวิสาหกิจชุมชนผ่านธนาคารกรุงไทย เสริมความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก
วันที่ 22 ตุลาคม 2567 นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน พร้อมด้วย นายสุทธิโรจน์ คำมั่น ผู้อำนวยการกองทรัพยากรบุคคล และนายสุทธิรักษ์ อุฒมนตรี ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ให้การต้อนรับ นายณพล เพ็ชราภรณ์ ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารฝ่าย ธนาคารกรุงไทย นางสาวจันทนี พรกรุณาธิกุล ผู้อำนวยการฝ่ายราชการสัมพันธ์ และนายกิตติพงศ์ ทรัพย์สิน หัวหน้าส่วนราชการสัมพันธ์ ฝ่ายราชการสัมพันธ์ 2 ณ ห้องประชุม 901 สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) อาคารเบญจสิริ ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม
นายกุลพัชร เปิดเผยว่า การหารือวันนี้เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นพันธมิตรร่วมกันของสองหน่วยงาน ในฐานะ “ธนาคารที่ดิน” มีเกษตรกรที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็ง ภายใต้องค์การมหาชน นับว่าเป็นกลุ่มเกษตรกรที่มีความมั่นคง ซึ่งกระจายอยู่ในโครงการ “กระจายการถือครองที่ดินอย่างยั่งยืน” 12 พื้นที่ 8 จังหวัด และอีก 30 พื้นที่ ปีงบประมาณ 2567-2568 ส่วน “ธนาคารกรุงไทย” มีจุดแข็งคือการพัฒนาและยกระดับบริการทางการเงินให้เข้าถึงประชาชนครอบคลุมทุกมิติ เพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ให้มีช่องทางจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก
ด้านนายณพล กล่าวว่า จากภารกิจและพันธกิจ “ธนาคารที่ดิน” ช่วยทำให้เกษตรกร ขยับฐานะทางสังคมขึ้นมาให้มีความมั่งคง “ธนาคารกรุงไทย” จึงพร้อมเข้าไปส่งเสริมด้านการออมให้แก่กลุ่มสมาชิกวิสาหกิจชุมชน และช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าวิสาหกิจชุมชน ผ่านธนาคารกรุงไทย อีกทางหนึ่งด้วย
นายกุลพัชร กล่าวย้ำว่า “ธนาคารที่ดิน” มุ่งมั่นดำเนินตามพันธกิจ “กระจายการถือครองที่ดินอย่างยั่งยืน” เพื่อสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในการเข้าถึงสิทธิในที่ดินของประชาชน
“ธนาคารที่ดิน” ตอบสนองเชิงนโยบาย มีส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ช่วยเหลือความเป็นอยู่ของครัวเรือนที่เปราะบางให้มีรายเพิ่ม ทั้งเพิ่ม GDP ประเทศ แก่นสำคัญที่เป็นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ นั่นคือ “การไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” อันจะบรรลุความมุ่งหมายสูงส่ง สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใน ค.ศ.2030 หรือในปี พ.ศ.2573 และก้าวขึ้นเป็นประเทศรายได้สูง มีการพัฒนาที่ครอบคลุม ยั่งยืน และมีภูมิคุ้มกันต่อวิกฤตทุก ๆ ด้าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี