สนธิญา" ร้องศาลแพ่ง สั่งให้กระทรวงดีอี.ปิดเพจ "อีซ้อขยี้ข่าว' โพสต์ข้อความรับเงินจากบอสพอล ดิไอคอน กรุ๊ป ทั้งที่ไม่เคยรู้จัก ชี้เป็นเพจอวตาร ไม่มีตัวตน ทำให้เสียหาย ศาลนัดไต่สวน 20 มกราคม ปีหน้า
วันที่ 25 ตุลาคม 2567 เวลา 10.30 น.ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นายสนธิญาณ สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และอดีตผู้สมัครสส.พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปิดเพจเฟซบุ๊ก "อีซ้อขยี้ข่าว'ด้วย
นายสนธิยา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว” ได้โพสต์ข้อความพาดพิงว่า มีคลิปเสียงที่ตนพูดคุยกับนาย วรัตน์พล วรัทน์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหาร บริษัท ดิ ไอคอนกรุ๊ป จำกัด ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน และกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ มีการพาดพิงว่า ตนเรียกรับเงินจากบอสพอล ซึ่งตนขอยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักบอสพอล หรือแม้กระทั่งบริษัทดิไอคอน กรุ๊ปฯ และตนก็ไม่เคยได้รับผลประโยชน์แต่อย่างใด
ดังนั้นหากเห็นว่าบริษัทดิไอคอนฯ กระทำผิด ก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่กองบังคับการปราบปราบ (บก.ป.) ตนก็ได้สาบานแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อหน้าท้าวเวสสุวรรณ , พระไพรีพินาศ พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ จ.นครศรีธรรมราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วว่า ถ้าหากตนโกหกขอให้ตนและครอบครัวมีอันเป็นไปหลังจากได้สาบานก็ทำให้สบายใจขึ้น
นายสนธิญา ยังกล่าวอีกว่า ตนได้รับผลกระทบอย่างมาก ถูกใส่ร้ายด้วยความเท็จ และต้องการจะฟ้องเจ้าของเพจอีซ้อขยี้ข่าว แต่ก็หาไม่เจอ เพราะไม่มีตัวตน ไม่ระบุสถานที่ว่าตั้งอยู่ตรงไหน ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของเพจ และมองว่าการกระทำของเพจดังกล่าว บางครั้งโพสต์ข่าวมีประโยชน์ บางครั้งก็โพสต์ข่าวที่คลาดเคลื่อน ไม่ตรงความจริง
ต่อมาทางเพจอีซ้อขยี้ข่าวโทรศัพท์ติดต่อมาขอโทษตน ซึ่งตนยังไม่ยินยอม หากตนจะถอนฟ้องให้ก็ต่อเมื่อมีการโพสต์ขอโทษผ่านสื่อมวลชนเท่านั้น
นายสนธิญา ยังกล่าวต่ออีกว่า เพจอีซ้อขยี้ข่าว มีการโพสต์หลายเรื่อง ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะการที่กล่าวหาว่า ไร่เชิญตะวัน ของพระเมธีวชิโรดม หรือ ท่าน ว.วชิรเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ (พระอารามหลวง) ว่าไปบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดอยปุย จ.เชียงราย ซึ่งเรื่องนี้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมาแล้วว่า ไร่เชิญตะวัน ไม่ได้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามที่เพจอีซ้อขยี้ข่าวกล่าวอ้าง
ด้วยเหตุนี้ตนจึงมายื่นคำร้อง เพื่อขอให้ศาลแพ่ง มีคำสั่งถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอี ให้ลบเพจอีซ้อขยี้ข่าว รวมทั้งจะขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวด้วย ไม่ให้เพจอีซ้อขยี้ข่าว ลงโพสต์ข่าวอีกต่อไป เพราะเพจอีซ้อขยี้ข่าว ทำให้ตนเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ซึ่งศาลจะต้องให้ความยุติธรรมกับผู้ที่ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตามนายสนธิญา กล่าวว่าก่อนหน้านี้ เมื่อ 2-3 ปีก่อน ตนเคยยื่นคำร้องให้เจ้าหน้าที่กระทรวงดิจิทัลฯดำเนินการปิดเพจเฟซบุติแหม่มโพธิ์ดำมาแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กระทรวง ดิจิทัลฯก็แจ้งกลับมา ว่าเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการแล้ว มีเพจแหม่มโพธิ์ดำทั้งเพจจริงเพจปลอม รวมทั้งหมด 13 เพจ
ศาลแพ่งรับคำร้องไว้พิจารณา โดยนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 20 มกราคม 2568.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี