เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ไอเอฟดีโพลและเซอร์เวย์ สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD) สำรวจความเห็นประชาชนไทยตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เรื่อง "ทำไมคนไทยจึงเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่?" จำนวน 1,243 ตัวอย่าง สำรวจช่วง 18 - 22 ตุลาคม 2567 ใน 6 ภูมิภาค ด้วยวิธีสำรวจภาคสนามและโทรศัพท์อย่างละ 50% สุ่มตัวอย่างความน่าจะเป็น Stratified Five-Stage Random Sampling ค่าความผิดพลาด 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% จากผลไอเอฟดีโพลชี้ว่า ประชาชนกว่าครึ่ง คือ 48.88.% ไม่เคยถูกชักชวนให้ลงทุนในแชร์ลูกโซ่ , ประชาชน 14.80% เคยเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่
ปัจจัยที่ทำให้คนไทยถูกหลอกง่ายที่สุด 5 อันดับแรก คือ
1.เชื่อง่าย/ไม่ตรวจสอบข้อมูล 69.09%
2.ผลตอบแทนสูงในเวลาสั้น 31.48%
3.เชื่อตามคำแนะนำของคนดัง/อินฟลูเอนเซอร์ 26.93%
4.โปรโมชั่นจำกัดเวลากดดัน 18.98%
5.ไม่ฟังคำเตือนจากคนรอบข้าง 15.23%
ประชาชน 1 ใน 3 คือ 35.32% เคยถูกชักชวน แต่ไม่ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่
เหตุผลที่ทำให้กลุ่มประชาชนที่ไม่ตกเป็นเหยื่อ 5 อันดับแรก เพราะ
1.ผลตอบแทนดูดีเกินจริง 45.23%
2.เคยเห็นตัวอย่างจากคนอื่นที่เคยโดนหลอก 24.55%
3.ปรึกษาและคำเตือนจากเพื่อน/ครอบครัว 24.09 %
4.ไปเช็คข้อมูล แล้วพบว่ามีความเสี่ยง/น่าสงสัย 20.91%
5.ไม่มีเงินลงทุน และไม่อยากยืมเงินใคร 20.91%
สรุปบทเรียนการเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่
1.ขาดความรู้ด้านการลงทุน : ประชาชนยังไม่เข้าใจการลงทุนและความเสี่ยง ขาดการตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจ
2.ความโลภและความต้องการรวยเร็ว : แรงจูงใจจากผลตอบแทนสูงในระยะเวลาสั้น ทำให้ละเลยความเสี่ยง และคนบางกลุ่มเต็มใจที่จะเสี่ยง โดยไม่คำนึงถึงความเป็นไปได้ของการถูกหลอกลวง
3.เชื่อคนดัง/อินฟลูเอนเซอร์ : เชื่อในคำแนะนำของคนดัง โดยไม่คิดวิพากษ์วิจารณ์ เป็นช่องทางให้ถูกหลอกลวงได้
4.แรงกดดันทางเศรษฐกิจ : ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ผู้คนอยู่ในสถานการณ์ความเสี่ยง การขาดทางเลือกและโอกาสทางการเงิน โดยเฉพาะช่วงแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้คนหาช่องทางลงทุน อาชีพเสริม จึงตกเป็นเหยื่อ
5.การควบคุมและกำกับที่ไม่เข้มงวด : หน่วยงานภาครัฐขาดการป้องกันและบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
ถอดบทเรียนจากกรณีแชร์ลูกโซ่ จากเพจ Dr.Kriengsak Chareonwongsak เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ เสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงกับสังคมไทย : ถอดบทเรียนจากปรากฏการณ์ The Icon (More Dan Live) 24 ตุลาคม 2567 ดังนี้
1.พัฒนาความรู้และทักษะการลงทุน ที่ไม่ใช่แค่ความรู้ทางการเงิน พัฒนาให้ประชาชนตั้งคำถาม คิดวิเคราะห์และวิพากษ์เกี่ยวกับการลงทุน การบริหารจัดการความเสี่ยง และการตระหนักถึงสัญญาณเตือนการฉ้อโกง
2.คนดัง/อินฟลูเอนเซอร์ดำเนินกิจการอย่างรับผิดชอบเป็นแบบอย่างที่ดี ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ กล่าวว่า คนดัง/อินฟลูเอนเซอร์เป็น "บ้านหลังที่สาม" มีอิทธิพลต่อความคิด/พฤติกรรมผู้ติดตาม จึงควรทำกิจการ/เข้าร่วมกิจการที่ไม่หลอกลวง เป็นแบบอย่างที่มีความรับผิดชอบ โปร่งใส และมีส่วนพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
3.ทำดัชนีวัดสภาพใกล้การเป็นแชร์ลูกโซ่ ใช้เป็นตัววัดหรือพยากรณ์ว่าจะเข้าใกล้การเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ขนาดไหน และเมื่อไหร่ เช่น อาจมีการจัดอันดับองค์กรธุรกิจเป็นระดับ A B C D และนำเสนอข้อมูลแบบเรียลไทม์ให้ประชาชนเข้าตรวจสอบได้ เพื่อหน่วยงานรัฐจะติดตามเฝ้าระวังและตรวจสอบได้ ไม่ใช่เกิดปัญหาแล้วค่อยไปตามแก้
4.กำหนดกฎระเบียบ ข้อกฎหมายที่ทันสมัย และบังคับใช้อย่างเข้มงวด ศึกษาจากองค์กรต่างประเทศว่ามีแนวทางดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าภาพ พัฒนากฎระเบียบ/กฎหมายใหม่ร่วมสมัย เช่น กำหนดบทลงโทษที่สมสัดส่วนกับความเสียหาย ผลตอบแทนที่จ่ายให้ผู้จัดจำหน่ายอย่างน้อย 2 ใน 3 ต้องมาจากยอดขายปลีกที่ตรวจสอบได้ และมีผู้ตรวจสอบอิสระเข้าตรวจสอบการดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง 7 ปี ฯลฯ และบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด
5.เสริมสร้างวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ด้านการลงทุน เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อลงทุน เช่น
- สร้าง platform เพื่อรวมตัว รวมพลังสำหรับตรวจสอบธุรกิจเครือข่ายอื่นๆ เป็นช่องทางปรึกษานักการเงิน/ ผู้มีประสบการณ์ก่อนการลงทุน ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังพิจารณาการลงทุน เพื่อให้ประชาชนมีที่พึ่งพาทางการเงินที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ มาให้ความรู้ และแลกเปลี่ยนความเห็น
- สร้างวัฒนธรรมการถามและตรวจสอบ : ประชาชนควรได้รับการสนับสนุนให้ตั้งคำถามและสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนกับคนรอบข้าง สนับสนุนการใช้เทคโนโลยี เช่น เว็บไซต์ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและการลงทุนต่างๆ รวมถึงการรับคำเตือนจากคนที่มีประสบการณ์หรือความรู้ด้านการเงิน
- ส่งเสริมบทบาทของครอบครัวและเพื่อน : สังคมไทยควรส่งเสริมการเปิดกว้างในการพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการลงทุนภายในครอบครัวและกลุ่มเพื่อนฝูง เพื่อลดการตัดสินใจที่รีบร้อนหรือเสี่ยงเกินไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี