เหยื่อพลุยักษ์งานบุญกฐินในตำบลเจ้าท่า อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ระเบิดเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวมผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 5 ราย นายอำเภอกมลาไสยรุดเยี่ยมผู้บาดเจ็บ และครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์สั่งการให้ทุกพื้นที่งดการจุดพลุ เน้นย้ำทุกอำเภอ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในช่วงงานบุญกฐิน ด้านตำรวจสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากใช้ค้อนทุบตะปูเกิดประกายไฟทำให้พลุระเบิด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเจ้าของพลุ กระทำโดยประมาทเป็นให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส
จากกรณีเหตุการณ์พลุยักษ์ใช้จุดงานฉลองบุญกฐินบ้านเก่าน้อย หมู่ 3 ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เบื้องต้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บหลาย โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้รวม 4 ราย และบาดเจ็บ 5 ราย
ล่าสุดวันที่ 26 ตุลาคม 2567 นายพุทธภูมิ นาชัยเริ่ม นายอำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมนายพูนเพิ่ม พรไตรศักดิ์ ปลัดอำเภอ นายปฏิพัฒน์ สีทอนราช ปลัดอำเภอ และสมาชิก อส.ลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์พลุยักษ์งานบุญกฐินระเบิด เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกมลาไสย 2 ราย คือ นายประสาน อายุ 62 ปี และนายชาญชัย อายุ 46 ปี อาการบาดเจ็บเป็นแผลเกิดจากสเก็ตไฟทำให้ขาทั้งสองข้าง อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์
จากนั้นนายอำเภอกมลาไสย พร้อมคณะได้เข้าให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์พลุระเบิดทั้ง 4 ราย ประกอบด้วยนายสถิตย์ อายุ 75 ปี เจ้าของพลุที่ระเบิด นายบุญช่วย อายุ 65 ปี นายเอกสิทธิ์ อายุ 35 ปี และนายสายัณห์ อายุ 45 ปี พร้อมกำชับให้ผู้นำชุมชนช่วยกันอำนวยความสะดวกในเรื่องจัดการศพ และให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นอย่างเต็มที่
นายพุทธภูมิ นาชัยเริ่ม นายอำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาไสย ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หน่วยกู้ชีพกู้ภัย ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพิ่มอีก 2 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลกมลาไสย 2 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ 2 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ 1 ราย
นายพุทธภูมิ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าวันเกิดเหตุกลุ่มผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้นำพลุของนายสถิตย์ ที่ประกอบขึ้นและได้รับการว่าจ้าง ซึ่งขออนุญาตจุดถูกต้องตามกฏหมายมาเตรียมจุดในงานบุญกฐินที่บ้านเก่าน้อย จากนั้นได้มีการนำค้อนและตะปูมาตอกที่พลุจนเกิดประกายไฟทำให้พลุระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่งดการจุดพลุ เน้นย้ำทุกอำเภอ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในช่วงงานบุญกฐิน ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคมถึง 15 พฤศจิกายน 2567 พร้อมกำชับให้การช่วยเหลือและดูแลครอบครัวผู้บาดเจ็บ รวมทั้งการเยียวยาจิตใจของครอบครัวผู้เสียชีวิต
ขณะที่ในส่วนความคืบหน้าของคดีล่าสุด พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล รอง ผกก.สอบสวน สภ.กมลาไสย พร้อมด้วย ร.ต.อ.บัญชา นาชัยฤทธิ์ ร้อยเวรเจ้าของคดี และทีมพนักงานสอบสวนสภ.กมลาไสย ได้เรียกสอบพยานแวดล้อม และพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ไปแล้ว 5 ราย เบื้องต้นทราบว่า วันเกิดเหตุนายสถิตย์ ซึ่งเป็นเจ้าของพลุ และกลุ่มผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตนำพลุมาเตรียมจุดในงานกฐิน แต่ระหว่างก่อนจุด นายสถิตย์ ได้นำค้อนและตะปู มาตอกที่ปากกระบอกพลุ เพื่อเจาะทำชนวนแล้วเกิดประกายไฟขึ้น ทำให้พลุซึ่งมีขนาดความสูง 170 เซนติเมตรเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว ระเบิดเสียงดังสนั่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย
ทั้งนี้ หลังรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำเสร็จแล้ว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำโดยประมาทเป็นให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัสกับนายสถิตย์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเจ้าของพลุและเป็นคนนำค้อนตอกตะปูและจะสรุปสำนวนดำเนินการขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ด้านนายประสาน อรุณรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านแจ้ง ม.7 ต.เจ้าท่า และนายสถิตย์ เจ้าของพลุผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ปกตินายสถิต มีอาชีพทำนา ส่วนการทำพลุนั้น เป็นเพียงอาชีพเสริม จะทำขึ้นเพื่อเอาไปร่วมงานบุญประเพณีเท่านั้น วันเกิดเหตุก็นำพลุที่ทำขึ้นไปจุดแล้วเกิดอุบัติเหตุระเบิดขึ้น ซึ่งต่อจากนี้ทางผู้นำชุมชนก็จะต้องช่วยเหลือในการจัดการงานศพ และช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต และจะกำชับชาวบ้านไม่ให้จุดพลุ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำอีก
สำหรับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์พลุระเบิดประกอบด้วย 1.นายสถิตย์ อายุ 75 ปี เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 2.นายเอกสิทธิ์ อายุ 35 ปี เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 3.นายบุญช่วย อายุ 65 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาล และ 4.นายสายัณห์ อายุ 45 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ส่วนผู้บาดเจ็บประกอบด้วย 1.นายประสาน อายุ 62 ปี รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกมลาไสย 2.นายชาญชัย อายุ 46 ปี รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกมลาไสย 3.นายประยูร อายุ 65 ปี รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ 4.นายจักรายุทธ อายุ 27 ปี รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และ 5.ส.ต.อ.พิชิตชัย อายุ 50 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์ให้กลับบ้านได้แล้ว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี