“ภูมิธรรม” ประธานส่งมอบพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ให้ส่วนราชการในพื้นที่เร่งฟื้นฟูในระยะที่ 2 พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วน ยืนยันในการเป็นเหล่าทัพ ที่เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักรุนแรงและต่อเนื่องตั้งแต่เดือน สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย และอ.แม่สาย จ.เชียงราย และหลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายพบมีดินโคลนตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้พื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว พื้นที่การเกษตร เส้นทางคมนาคม รวมถึงบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว และเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) มอบหมายให้ รอง นรม./รมว.กห. เป็นประธานฯ และได้มีการจัดตั้ง ศปช. ส่วนหน้า เพื่อเป็นศูนย์สั่งการและประสานงานในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
โดยมีการระดมกำลังพล ยุทโธปกรณ์จากกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม อาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสาและหน่วยงานต่างๆ เข้าช่วยเหลือตลอดช่วงเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้การฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยระยะที่ 1 การฟื้นฟูทางกายภาพ การชะล้างทำความสะอาด ลอกท่อเคลียร์ดินโคลนในพื้นที่ อ.แม่สาย ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว
นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว และเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่่สุด โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) มอบหมายให้ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานฯ และได้มีการจัดตั้ง ศปช. ส่วนหน้า เพื่อเป็นศูนย์สั่งการประสานงานในพื้นที่ โดยมีการระดมกำลังพล ยุทโธปกรณ์จาก กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม อาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสามและหน่วยงานต่างๆเข้าช่วยเหลือ ซึ่งตลอดช่วงเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหม
โดย กองวิชาการกองทัพไทยกองทัพบก กองทัพเรือ และ กองทัพอากาศ ได้ระดมสรรพกำลังกว่า 10,000 นาย หมุนเวียนเข้าพื้นที่ช่วยเหลือประชน พร้อมระดมยุทโธปกรณ์ทางทหาร อากาศยานและยานพาหนะ เช่น รถยนต์บรรทุก-รถโดยสาร รถขุดตัก รถโกยตัก รถปั้นจั่น รถสุขา กว่า 1,800 คัน เรือชนิดต่างๆกว่า 140 ลำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า สะพาน เครื่องวัดความลึก เครื่องสูบน้ำ รวมกว่า 280 เครื่อง เรือผลักดันน้ำ ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) และนักประดาน้ำ ของกองทัพเรือ พร้อมกันนี้ได้บูรณาการการใช้อากาศยานทางทหารร่วมกับอากาศยานของส่วนราชการอื่น ในการลำเลียงสิ่งของ การช่วยเหลือต่างๆ ตลอดจนการประยุกต์ใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) มาสนับสนุนภารกิจ นอกจากนี้ยังมี
การให้บริการต่างๆ อาทิ การจัดหาถุงยังชีพและเครื่องอุปโภค-บริโภคเพื่อสนับสนุนผู้ประสบภัยในพื้นที่ การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามและจัดชุดบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน สนับสนุนศูนย์พักพิงและศูนย์อพยพ รถครัวสนามประกอบเลี้ยง รถประปาผลิตน้ำดื่มเคลื่อนที่ และเมื่อเข้าสู่การฟื้นฟูได้ระดมกำลังพล ตักดินโคลนที่ทับถม ลอกท่อระบายน้ำ และชะล้างทำความสะอาดบ้านเรือน ให้กับประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.แม่สาย เพื่อคืนสภาพปกติให้แก่ประชาชนในพื้นที่โดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้การฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยระยะที่ 1 การฟื้นฟูทางกายภาพ
การทำความสะอาด ลอกท่อเคลียร์ดินโคลนใน อ.แม่สาย ได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว
และในวันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รอง นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธาน ศปช. พร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มท. ในฐานะประธาน ศปช.ส่วนหน้า และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กห. ในฐานะที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า ได้เดินทางมายังบริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อกระทำพิธีส่งมอบคืนพื้นที่ที่ได้รับการฟื้นฟูเยียวยาจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อรับช่วงการฟื้นฟูในระยะที่ 2 ต่อไป โดยมีนายโชติรินทร์ เกิดสม รองปลัด มท. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายให้การต้อนรับ
ทั้งนี้นายภูมิธรรม ได้มอบป้ายสัญลักษณ์การส่งมอบพื้นที่ที่ได้รับการฟื้นฟูเยียวยาจากสถานการณ์อุทกภัยให้แก่นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย และนายกเทศมนตรีตำบลเวียงพางคำ ในการช่วยเหลือฟื้นฟูบ้านเรือนจำนวน 819 หลัง คิดเป็น 100% ของพื้นที่ตามเป้าหมายที่กำหนดพร้อมกันนี้ รองนายกฯแบะรมว.กลาโหม พร้อมด้วย รมช.กลาโหมและรมช.มหาดไทย ได้มอบวัสดุครุภัณฑ์ อาทิ จักรอุตสาหกรรม เก้าอี้ตัดผม เพื่อการประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนผู้ประสบภัย จากนั้นได้ลงตรวจเยี่ยมพื้นที่และพบปะพูดคุยกับกำลังพลจิตอาสาและประชาชนบริเวณตลาดแม่สาย
ทั้งนี้การช่วยเหลือและการฟื้นฟูในพื้นที่ ได้มีกำลังพลจากภาครัฐ ภาคเอกชน จิตอาสา และประชาชน สนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ และร่วมกันฟื้นฟูกู้พื้นที่ในอำเภอที่ประสบอุทกภัย ทั้งการตักดินโคลนออกจากบ้านเรือนการทำความสะอาดบ้านเรือน ถนน พื้นที่สาธารณประโยชน์ การจัดตั้งโรงครัวแจกจ่ายผู้ประสบภัย และกำลังพลที่มาช่วยฟื้นฟู การสร้างบ้านน็อคดาวน์ ให้กับประชาชนที่ประสบภัยบ้านเสียหายทั้งหลังการติดตามฟื้นฟูเยียวยาปัญหาอุทกภัยและดินโคลถล่ม (Quick Win) ที่ได้ กำหนดห้วงเวลาได้จบภารกิจตามแผน Quick Win ในวันที่
21 ต.ค. 67 ฟื้นฟูกู้พื้นที่ครบถ้วนตามเป้าหมายที่กำหนด 100% รวมยอดเงินที่ให้ความช่วยเหลือ เป็นเงินทั้งสิ้น 504,804,830 บาท
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนขอชื่นชมและขอบคุณในน้ำใจจากทุกหน่วยงานที่ช่วยแบ่งปันให้แก่ผู้ประสบภัย ทำให้ประชาชนชาวแม่สายกลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง ขอเป็นกำลังใจให้พี่่น้องชาวแม่สาย และจากนี้ไปจะเป็นการฟื้นฟูระยะที่ 2 ในการซ่อมแซมบ้านเรือน เน้นด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีความแข็งแรงเพื่อป้องกันภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวหลังน้ำลด ตลอดจนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งจะส่งมอบภารกิจให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมดำเนินการช่วยเหลือฟื้นฟูต่อไป สำหรับเงินเยียวยาให้กับผู้ประสบภัย รัฐบาลได้มอบหมายให้กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย เร่งดำเนินการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด ซึ่งในพื้นที่ อ.แม่สาย ได้โอนจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้ว จำนวนกว่า 51 ล้านบาท และจะดำเนินการเร่งการช่วยเหลือให้ครบจำนวนของผู้ประสบภัย ทั้งนี้ ขอยืนยันและให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลจะเร่งดำเนินการเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติสุขโดยเร็วที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี