วันที่ 28 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 มีเหตุพบศพหญิงผูกคอตัวเองเสียชีวิต ที่บริเวณป่าโคกหนองนกเขียน บ้านข่าดอนเข็มเหนือ หมู่ 2 ตำบลบ้านพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ต.ท.วิวิธชัย ไชยแพทย์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมชุดสืบสวน ,ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ,แพทย์เวรโรงพยาบาลหนองบัวลำภู ,หน่วยกู้ภัยคุณธรรม ,ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองหนองบัวลำภู จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นถนนลูกรังห่างจากหมู่บ้านไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นสถานที่เปลี่ยวต้องเดินเท้าจากถนนลูกรังเข้าไปอีกประมาณเกือบ 200 เมตร พบศพทราบชื่อภายหลังว่าคือนางสาววันนาฯ อายุ 43 ปี 

โดย บิดาของผู้เสียชีวิตเล่าว่า บุตรสาวได้หายออกจากบ้านเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2567  และตนเองก็ได้ไปแจ้งความในคดีคนหายไว้ที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2567 และบุตรสาวป่วยรับการรักษาจิตเวช แต่ตนเองไม่เชื่อว่าบุตรสาวจะมาคิดสั้นแบบนี้ ผูกคออยู่ในลักษณะท่ายืนแต่ขายังคงลากอยู่กับพื้นดิน ตนเองติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตของบุตรสาวในครั้งนี้ เพราะบุตรสาวปกติชอบอยู่บ้านไม่ค่อยออกไปไหน และระยะทางจากที่บ้านมาที่เกิดเหตุห่างกันกว่า 6 กิโลเมตร  นางวันนาฯบุตรสาวจะเดินมาได้ยังไง น่าจะมีคนพามาหรือไม่อย่างไร ทางญาติตั้งข้อสงสัยว่านางวันนา ฯ อาจจะถูกล่อลวงมาทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต และนำศพมาอำพรางคดี 

และ มารดาผู้เสียชีวิต พร้อมญาติได้ออกติดตามหาตั้งแต่วันที่หายตัวไป จนต้องไปพึ่งไสยศาสตร์หมอดูทักว่า บุตรสาวอยากกลับบ้านมาตั้งแต่ 2 วันก่อนแล้ว และวันนี้ให้ตนเองไปรับลูกสาวกลับมาบ้านได้เลย ตนเองได้ยินแบบนั้นก็เกิดความสงสัย ว่าจะให้ไปรับกลับจากที่ไหน จนมีชาวบ้านมาพบศพไม่นึกไม่ฝันว่า จะต้องมารับบุตรสาวในสภาพที่ไร้ซึ่งลมหายใจแบบนี้

จากการชันสูตรเบื้องต้นผู้เสียชีวิตใส่เสื้อสีชมพู ร้องเท้าสีเหลือง กางเกงยีนต์ขายาว ใช้เชือกผูกคอกับต้นไม้สูงประมาณ 3 เมตร และมีหมวกสีเหลืองตกอยู่บริเวณใกล้ๆกับร่าง  น่าจะเสียชีวิตมามากกว่า 10 วัน 

ทางด้าน พ.ต.ท.วิวิธชัย ไชยแพทย์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู กล่าว่าเบื้องต้นได้มีชาย 2 คนขับรถผ่านมาพบร่างผู้เสียชีวิต จึงได้ไปบอกผู้ใหญ่และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ และได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เช็คกล้องวงจรปิด เพื่อหาหลักฐานว่าเป็นการผูกคอเสียชีวิต หรือเกิดจากการฆาตกรรม และได้ส่งร่างนางสาววันนาฯ เพื่อผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช เพื่อตรวจหาถึงสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป